--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2553

"จิ๋ว"แถลง ย้ำขอพึ่งพระบารมี

อัดรัฐบาลละเมิด พระราชวินิจฉัย "มาร์ค"หลบตอบ กระทู้สลายม็อบ

"บิ๊กจิ๋ว" ออกแถลง การณ์ "สถาบันกษัตริย์กับการเมือง" แจกแจงแนวคิดขอพึ่งพระบารมี"ในหลวง" คลี่คลายวิกฤตความขัดแย้ง อ้างรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 กำหนดพระมหากษัตริย์ไม่ได้อยู่นอกการเมืองหรืออยู่เหนือการเมือง อัดกลับนายกฯ-รัฐบาลไม่รับผิดชอบชีวิตประชาชน แถมเตรียมจะเข่นฆ่าอีกรอบ เลยต้องพึ่งพระบารมียับยั้งวิกฤต โต้ลั่นไม่ใช่หัวหน้าขบวนการก่อการร้ายตามที่ถูกป้ายสี "มาร์ค"แจ้งประธานสภาขอเลื่อนตอบกระทู้สดฝ่ายค้าน อ้างกลัวเป็นการเติมเชื้ออารมณ์ความรุนแรง เตรียมเสนอครม.ขอเปิดประชุมร่วมรัฐสภา แต่ยังไม่ระบุวันเวลา ปชป.โหวตตีตก"ญัตติด่วน"เพื่อไทย "เชาวริน"นำทีมวอล์กเอาต์ "สภาล่ม"ครั้งที่ 6 ในสมัยประชุม "มาร์ค-เทือก"ยังอู้อี้เรื่องแก้รธน. บอกยังไม่มีจังหวะนัดหารือพรรคร่วม

"สุเทพ"ยังอู้อี้เรื่องแก้รธน.

เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่รัฐสภา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์กรณีพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย และอดีตนายกฯ ขอเข้าเฝ้าฯ เพื่อขอพึ่งพระมหากรุณาธิคุณแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ว่า การขอเข้าเฝ้าฯ ของพล.อ.ชวลิตเป็นเรื่องไม่บังควรและไม่ควรกระทำ สิ่งที่พล.อ. ชวลิตพยายามทำนั้นกระทบต่อจิตใจคนไทยเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อถามถึงข่าวโทรศัพท์พูดคุยกับนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อแจ้งมติของพรรคประชาธิปัตย์เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายสุเทพกล่าวว่า ตนมีหน้าที่ประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีปัญหา ตนพบกับพรรคร่วมรัฐบาลมาก่อนแล้วเมื่อวันที่ 11 เม.ย. และตกลงร่วมกันว่าเรามีภาระหน้าที่ร่วมกันปฏิบัติงานเพื่อให้ประเทศชาติพ้นวิกฤตไปให้ได้ ส่วนที่จะพูดคุยเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญนั้น พูดคุยกันไว้ว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะช่วยส่งเสริมสนับสนุนก็มีน้ำใจให้หน่อย เผื่อการเลือกตั้งคราวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลจะได้มีโอกาสมากขึ้น แต่ไม่ได้นำมาปะปนกับเรื่องแก้ไขวิกฤตการณ์

เมื่อถามว่าวันนี้พรรคประชาธิปัตย์ชัดเจนว่าต้องทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองก่อนจะแก้รัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ว่ากันตามจังหวะ แต่ตอนนี้ไม่ใช่จังหวะ ส่วนที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ แนะให้แกนนำพรรคจัดลำดับความสำคัญของคดียุบพรรคมาก่อนการแก้รัฐธรรม นูญหรือยุบสภา เพราะถ้าไม่มีพรรคคงจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ นายสุเทพกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่ภายในพรรคจะมีความคิดแตกต่างกัน มาช่วยกันคิดก็ดีแล้ว

ยื้อเปิดอภิปรายร่วมรัฐสภา

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 179 ว่า เดิมวุฒิสภากำหนดให้เปิดการอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 161 วันที่ 23 เม.ย. แต่เมื่อส.ส.จะขออภิปรายด้วยดังนั้นรัฐบาลจะให้เปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 179 เพื่อให้สมาชิกทั้ง 2 สภาได้อภิปราย ทั้งนี้ จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณาในที่ประชุม ครม.วันที่ 27 เม.ย.เพื่อขอมติแล้วแจ้งให้ประธานรัฐสภาทราบเพื่อกำหนดวันเวลาอภิปรายต่อไป ผู้สื่อข่าวถามว่าควรให้เหตุการณ์สงบก่อนจึงเปิดอภิปรายร่วมของรัฐสภาใช่หรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า น่าจะดีกว่า หากสถานการณ์คลี่คลายไปแล้ว จะตอบทุกเรื่องได้ หากยังอยู่ในช่วงที่มีสถานการณ์และมีประเด็นเรื่องความมั่นคงก็ยากที่จะตอบคำถามสภา

นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงสภาไม่ผ่านญัตติตั้งกรรมาธิการวิสามัญสอบเหตุการณ์สลายการชุมนุมวันที่ 10 เม.ย. ว่า ฝ่ายค้านเสนอทางออกให้รัฐบาลชี้แจงเหตุการณ์ แต่ไม่เข้าใจที่รัฐบาลปฏิเสธ เวทีสภาน่าจะเป็นที่ปรึกษาและทางออกตามระบอบประชาธิปไตย เป็นที่พึ่งให้ส.ส.ได้ แต่เมื่อจะใช้เวทีสภากลับถูกโจมตีและไม่เปิดโอกาสให้พูด จึงต้องไปใช้เวทีของ นปช. แต่ไม่ใช่การทำงานคู่ขนานกับคนเสื้อแดง การที่ส.ส.ขึ้นเวทีต้องยอมรับผลที่ตามมาเพราะข้างนอกไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง เมื่อถามว่าหากรัฐบาลไม่ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเหตุการณ์ 10 เม.ย.จะทำอย่างไร นายวิทยากล่าวว่า แม้แต่ส.ว.ยังเรียกร้องเช่นเดียวกัน รัฐบาลคงเลี่ยงไม่ได้และขณะนี้ผู้ใหญ่ภายในพรรคประชาธิปัตย์ยังเรียกร้องบางสิ่งบางอย่างกับนายกฯ เช่นกัน

"มาร์ค"เลื่อนตอบกระทู้สภา

เมื่อเวลา 11.40 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณากระทู้ถามสด มีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาทำหน้าที่ประธานที่ประชุม โดยนายชัย แจ้งว่าได้รับหนังสือจากสำนักเลขาธิการนายกฯ ว่า ตามที่ประธานสภานัดประชุมสภาโดยบรรจุระเบียบกระทู้ถามสดทั้ง 3 ได้แก่ กระทู้ถามสดเรื่องการประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ของนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กระทู้ถามสดเรื่องการบริหารราชการผิดพลาดในการใช้กำลังทหารสลายการชุมนุมจนมีเหตุให้ประชาชนเสียชีวิต ของนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย และกระทู้ถามสดเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินภายใต้ภาวะที่ผิดปกติและวิกฤตอย่างยิ่งของสังคมไทยของ นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ ส.ส.พรรครวมชาติพัฒนา

หนังสือดังกล่าวระบุว่า นายกฯ ได้ทราบแล้วและให้เรียนประธานสภาว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันมีเหตุฉุกเฉินร้ายแรงอย่างต่อเนื่อง นายกฯ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต้องดูแลติดตามสถานการณ์โดยตลอด จึงมีเหตุจำเป็นอันหลีกเลี่ยงไม่ได้จึงไม่สามารถมาตอบกระทู้ถามทั้ง 3 เรื่องได้ ขอให้เลื่อนออกไปก่อน เมื่อสถานการณ์คลี่คลายจึงจะมาตอบกระทู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ นายกฯ ได้เรียนเพิ่มเติมว่ารัฐบาลจะดำเนินการให้มีการเปิดประชุมร่วมรัฐสภา ตามมาตรา 179 ของรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เปิดการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรีเสนอเรื่องต่อไป

ส.ส.รัฐบาลร่วมโวยด้วย

นายสุนัยกล่าวว่า หนังสือดังกล่าว นายกฯ ควรใช้เวทีสภาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น วันนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรรณ พล.ต.สนั่น ขจรประ ศาสน์ รองนายกฯ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ก็มาร่วมประชุมสภา อีกทั้งสถานการณ์ความรุนแรงอาจเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ ขณะนี้มีความพยายามล้มระบบรัฐสภาเหมือนสมัย 6 ตุลาฯ จึงขอให้ตนได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ

"การตั้งกระทู้ถามวันนี้ ไม่ได้ต้องการเรียกร้องให้นายกฯยุบสภาหรือลาออก แต่ต้องการให้แก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนโดยเฉพาะในวันที่ 23 เม.ย. นี้ กลุ่มเสื้อเหลืองที่แปลงพันธุ์เป็นเสื้อหลากสี กำลังนัดชุมนุมใหญ่ และแกนนำพันธมิตรบอกว่าจะเป็นคนบุกเอง สถานการณ์แบบนี้นายกฯ จะอยู่ได้อย่างไร ทำไมไม่ใช้เวทีสภาแก้ไขปัญหา" นายสุนัย กล่าว

ด้านนายสมชัย กล่าวว่า ตอนนี้ปัญหาไม่ปกติ ไม่ใช่เรื่องที่คนคนเดียวจะรับผิดชอบ แม้นายกฯ จะทำหน้าที่ตามกฎหมายเพราะมีการก่อการร้ายเกิดขึ้น และยังมีเหตุปะทะกันระหว่างคนสีลมและคนเสื้อแดง ฝ่ายค้านก็ยังเรียกร้องให้ยุบสภาอีก จึงไม่ใช่เวลาที่นายกฯ จะมารับผิดชอบคนเดียว เห็นหรือไม่ว่าแค่การขอพื้นที่คืนก็มีคนตาย 25 คน บาดเจ็บ 800 กว่าคน แล้วการที่นายกฯ ไม่ยอมมาหารือกับสภา แต่ไปหารือกับพวกท่านเอง แล้วเกิดอะไรขึ้นนายกฯ จะรับไหวหรือไม่ นาทีนี้เป็นนาทีที่รับฟัง ไม่ใช่มาเลื่อน หากมีคนตายอีก 200-300 คนจะทำอย่างไร

"สาทิตย์"ลุกแก้แทนนายกฯ

ส่วนนายวิชาญ กล่าวว่า ไหนนายกฯ บอกไม่เคยถอดทิ้งสภา ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. นายกฯ ก็เก็บตัวฟังแต่รายงาน ศอฉ. วันนี้ความกล้าของนายกฯ หายไปไหน เมื่อเป็นผู้นำประเทศ บอกไม่ใช้อาวุธแต่ก็เอาอาวุธเข้ามา บอกไม่ใช้กำลังก็ใช้ นายกฯ ไม่มีความชอบธรรม หากจะเลื่อนกระทู้สดออกไป แล้วประธานสภาการันตีแทนได้หรือไม่ ว่าจะไม่มีการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมหรือจะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น

ขณะที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ชี้แจงว่านายกฯ ดำเนินการตามข้อบังคับการประชุม โดยทำหนังสือมาแจ้งยังประธานสภา ความจริงนายกฯ มาลงนามเข้าประชุมสภาก่อน 09.00 น. แต่เนื่องจากบ้านเมืองมีสถานการณ์ฉุกเฉินหลายอย่าง จึงต้องมีการหารือกันเพื่อแก้ไขปัญหา ยืนยันว่าไม่ใช่นายกฯ หนีหน้าไปไหนหรือไม่ต้องการเผชิญหน้าอย่างแน่นอน เพราะนายกฯเสนอให้ใช้รัฐธรรมนูญ มาตรา 179 เสนอให้เปิดประชุมร่วมรัฐสภาเพื่ออภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ และสัปดาห์หน้าก็จะเสนอเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมครม.

ขณะที่นายสาทิตย์ ชี้แจง นายสุนัยและนายวิชาญแย้งว่าขอทราบคำตอบว่ารัฐมนตรีจะตอบกระทู้แทนนายกฯ หรือไม่ ไม่ใช่มาชี้แจงอย่างนี้ ซึ่งนายสาทิตย์ยืนยันว่าจะไม่ตอบกระทู้แทนนายกฯ นายสมชัยได้ให้นายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาคนที่ 1 ประธานที่ประชุม อ่านหนังสือคำชี้แจงของนายกฯ อีกครั้งเพื่อให้ทุกคนเข้าใจอย่างชัดเจน จากนั้นยุติการถามกระทู้ทั้ง 3 เรื่อง โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

ปชป.สกัด"ญัตติด่วน"พท.

จากนั้น ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาขอให้สภาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อติดตามการชุมนุมประท้วงของกลุ่มต่างๆ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อประชาชนและประเทศชาติ แต่นายสามารถ แจ้งว่า อาจขัดข้อบังคับการประชุมข้อ 56 ที่บัญญัติว่า เมื่อญัตติตกไปแล้วห้ามเสนอญัตตินั้นในสมัยประชุมเดียวกัน ซึ่งเมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมาส.ส.พรรคเพื่อไทยเสนอญัตติทำนองนี้ แต่ที่ประชุมมีมติไม่รับพิจารณาแล้ว ทำให้ส.ส.เพื่อไทยหลายคนลุกขึ้นคัดค้านอ้างว่าเป็นคนละญัตติกัน แต่นายสามารถยืนยันว่าทั้ง 2 ญัตติมีเจตนาเดียวกัน แต่จะให้ร.ต.ท.เชาวรินชี้แจงเหตุผลก่อนแล้วจะพักประชุมเพื่อตรวจสอบว่าขัดข้อบังคับหรือไม่ ทำให้ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ลุกขึ้นประท้วงว่า เมื่อวินิจฉัยไปแล้วต้องดำเนินการประชุมไปตามระเบียบวาระปกติ

ทั้งนี้ ระหว่าง ร.ต.ท.เชาวริน อภิปรายชี้แจง นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ลุกขึ้นประท้วง ร.ต.ท.เชาวรินจึงหันไปกล่าวว่า "ประท้วงอะไร มีใครตายหรือ" ทำให้มีการปะทะคารมกันระหว่างส.ส.สองพรรค ร.ต.ท.เชาวรินชี้แจงว่า ขณะนี้บ้านเมืองมีการเผชิญหน้าของประชาชนหลายกลุ่มรัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาได้ สภาก็ไม่ค่อยมีบทบาท จึงเสนอญัตตินี้ เพื่อแก้ปัญหาสงครามกลางเมือง จากนั้นนายสามารถ สั่งพักประชุม 10 นาทีเพื่อตรวจสอบญัตติ

"เชาวริน"ลุกป้องเสื้อแดง

เมื่อเปิดประชุม นายสามารถแจ้งว่า วินิจฉัยแล้วญัตติดังกล่าวสนอได้ เพราะเมื่อวันที่ 21 เม.ย. ญัตติที่นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโยธร พรรคเพื่อไทยเสนอยังไม่เข้าสู่วาระการประชุม เพียงแต่พิจารณาว่าจะบรรจุในวาระหรือไม่ จึงถือว่าญัตติยังไม่ได้พิจารณา นอกจากนี้ญัตตินี้มีสาระการป้องกันสงครามกลางเมือง จึงไม่เกี่ยว ข้องกับญัตติของนายพีรพันธุ์ ทำให้นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นเสนอญัตติให้พิจารณาตามระเบียบ วาระเดิม

ร.ต.ท.เชาวรินกล่าวว่า ญัตตินี้มีเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดวันนี้พรุ่งนี้ นปช.มาปักหลักที่ราชประสงค์ตั้งแต่ 3 เม.ย. มีคนมาชุมนุมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกด้านหนึ่งก็มีผู้ชุมนุมอีกกลุ่มออกมาเคลื่อนไหว จึงเกรงว่าจะเหมือนเหตุการณ์เดือนตุลาฯ 2519 ที่มีการปลุกระดมให้ประชา ชนฆ่าอีกฝ่ายหนึ่งโดยอ้างว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ตอนนี้ก็เริ่มมีเหตุการณ์ในทำนองนี้ ซึ่งไม่ใช่ความจริง แต่แกนนำกลุ่มคนเสื้อหลากสีก็นำคนออกมา บอกว่ารัฐบาลแก้ปัญหาไม่ได้จะนำคนมาแก้ปัญหาเอง จึงเกรงจะมีการปะทะกันกับนปช. รวมถึงกลุ่มพันธมิตรฯ ฉะนั้นควรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญและช่วยกันลงพื้นที่ป้องปรามความรุนแรง ตอนนี้มีการเรียกตัวส.ก.พรรคเพื่อไทย วินมอเตอร์ไซค์ ขนาดเจ้าหน้าที่ที่มาดูแลพื้นที่กินส้มตำกับผู้ชุมนุมยังโดนสั่งขัง ไม่คาดหวังว่าส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะเห็นด้วยแต่ก็ถือว่าได้ทำหน้าที่ในสภาแล้ว และหากเกิดอะไรขึ้นมาฝ่ายรัฐบาลต้องรับผิดชอบกันเอง

"นิพิฏฐ์"อัดมีวาระแอบแฝง

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงว่า ที่ฝ่ายรัฐบาลเสนอให้พิจารณาไปตามระเบียบวาระ ไม่ได้หมายความว่าฝ่ายรัฐบาลไม่สนใจ แต่ส.ส.พรรครัฐบาลทุกคนกังวลต่อสถานการณ์ แต่การที่ส.ส.เพื่อไทยเสนอญัตติน่าจะมีวาระแอบแฝง ไม่ได้เสนออย่างบริสุทธิ์ใจ เรื่องสงครามประชาชน แกนนำคนเสื้อแดงและส.ส.หลายคนขึ้นเวทีนปช.และพูดคำนี้ขึ้นเป็นครั้งแรก ส.ส.ในสภากลายเป็นผู้ไปสร้างสงครามประชาชนเสียเอง ญัตตินี้จึงไม่มีประโยชน์และยิ่งซ้ำเติมวิกฤตประเทศ ถ้าสมาชิกในสภาไปมีส่วนร่วมกับสงครามข้างนอก ปล่อยให้คนทำผิดกฎหมาย หากส.ส.มีสำนึก ไม่ช่วยเหลือ ไม่เข้าร่วม ถึงจะแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง และคราวนี้ที่มีการประกาศสงครามไพร่-อำมาตย์ มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ขอให้ย้อนดูประวัติศาสตร์สมัยกรุงศรีอยุธยา มีกบฏไพร่มาแล้ว 3 ครั้ง แกนนำร่ำรวย มีความรู้ใช้วาทศิลป์พูดโกหกปลุกระดม แต่ไม่เคยชนะและตายทุกครั้ง

"ยืนยันอีกครั้งว่าเวทีเสื้อแดงเป็นผู้ปลุกระดมให้เกิดสงครามประชาชน ถ้าสังคมวันนี้ไม่ยอมรับความจริงก็เดินหน้าไปไม่ได้ เวทีของคนเสื้อแดงพูดว่าต้องเกิดสงครามประชาชนและเวทีแห่งนั้นมีส.ส.เพื่อไทยอยู่ด้วย" นายนิพิฏฐ์กล่าว

ระหว่างนายนิพิฏฐ์อภิปรายส.ส.เพื่อไทยประท้วงเป็นระยะๆ กับคำว่าสงครามประชาชน นายนายนิพิฏฐ์จึงเลี่ยงใช้คำว่าสงครามไพร-อำมาตย์แทน

รบ.ชนะโหวต-แต่สภาล่ม

ต่อมาเป็นการลงมติ ปรากฏว่าที่ประชุมสภามีมติให้พิจารณาไปตามระเบียบวาระการประชุมเดิม ด้วยคะแนน 212 ต่อ 93 งด 1 ไม่ลงคะแนน 9 เสียง ทำให้นายสุนัยกล่าวว่า สภาใช้เสียงส่วนใหญ่ปิดปากหลายครั้งจึงไม่ขอร่วมสังฆกรรม จากนั้นได้นำส.ส.เพื่อไทยวอล์กเอาต์ออกจากห้องประชุม พร้อมกับระบุว่าขอให้ประธานตรวจสอบองค์ประชุมด้วย เพราะไม่ครบแน่

จากนั้นพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม นำเข้าสู่วาระรับรองข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณารายงานผลการศึกษาปัญหาการบังคับใช้เพื่อการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 ก่อนลงมติเห็นชอบกับข้อสังเกต พ.อ.อภิวันท์สั่งเสียบบัตรแสดงตนเพื่อนับองค์ประชุม ปรากฏมีสมาชิกแสดงตน 231 คน จาก 475 คน ไม่ครบองค์ประชุมกึ่งหนึ่งที่ 238 คน พ.อ.อภิวันท์จึงสั่งปิดประชุมเวลา 14.45 น. ถือเป็นครั้งที่ 6 ที่สภาล่มในสมัยประชุมนี้

ชู"อนุพงษ์"คนกลางเจรจา

นายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เลขานุการวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า พรรคไม่สบายใจที่นายกฯ หลบเลี่ยงตอบกระทู้เหตุการณ์ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. พรรคอยากให้สภาเป็นเวทีหาทางออก และเห็นว่าเบื้องต้นนายกฯ ควรลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ยอมรับความผิดพลาด เปิดทางสภาสรรหานายกฯ คนใหม่ ส่วน การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในฐานะวิปฝ่าย ค้านเห็นควรยื่นในสมัยประชุมนี้ แต่ขึ้นอยู่กับมติพรรค หากยื่นอภิปรายจะมีส.ส.พรรคร่วมใช้โอกาสนี้สะวิงขั้วมาทางฝ่ายค้าน

นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจต้องคำนึงถึงเงื่อนไขการยุบสภาด้วย ส่วนจะยื่นหรือไม่ขึ้นอยู่กับที่ประชุมพรรค แต่หากในสิ้นเดือนนี้ยังไม่มีข้อสรุปก็จะไม่มีการยื่นญัตติแล้ว

พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้เลยไปกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว อภิปรายไปก็ไม่มีประโยชน์ ควรมุ่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียมากขึ้น เพราะขณะนี้พร้อมเผชิญหน้าเอากันให้ตาย ส่วนการแก้ปัญหาความขัดแย้งการเจรจายังมีความสำคัญ โดยรัฐบาลต้องเป็นหลักลงมาเริ่มต้น และนายกฯ ควรยอมรับความจริง อย่าใส่ความผู้ชุมนุมเป็นผู้ก่อการร้ายเพื่อไม่ให้ซ้ำเติมความแตกแยก ส่วนการเจรจาโดยคนกลางขณะนี้เหลือน้อยเต็มที แต่ตนเห็นว่ายังพอมีคือพล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่เป็นผู้เจรจาในทางลับได้ เพราะมีความเป็นตัวของตัวเอง พื้นฐานเป็นคนดีมีเหตุผล

ส่อล้มแผนยื่น"ญัตติเชือด"

นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เผยว่า การประชุมพรรควันที่ 20 เม.ย. ส.ส.หารือนอกรอบเกี่ยวกับกระบวนการนิติบัญญัติในสภา ว่า ขณะนี้ส.ส.ทำงานลำบากมากขึ้น การขอยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปหรือตั้งกระทู้ถามสด ถูกขัดขวางจากรัฐบาล นอกจากนี้ยังหารือถึงการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส.ส.ส่วนใหญ่ลงมติอย่างไม่เป็นทางการว่าไม่ควรยื่น เพราะมีอุปสรรคเรื่องกระบวนการนิติบัญญัติ และจะปิดสมัยประชุมวันที่ 20 พ.ค. ข้อมูลที่เตรียมไว้โดยเฉพาะการทุจริตโครงการไทยเข้มแข็งและโครงการชุมชนพอเพียง จะเก็บไว้ก่อนนำมาเผยแพร่หรือแจกจ่ายให้องค์กรอิสระ

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีบุคคลหลายกลุ่มไม่พอใจการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า ขณะนี้มีนักธุรกิจร่วมกันลงขันครั้งละ 100 ล้านบาท จัดให้มีม็อบเชียร์และม็อบชนทั้ง กทม.และต่างจังหวัด เน้นพื้นที่ที่มีนักการเมืองของรัฐบาล นักการเมืองหนุนเรื่องฐานมวลชน ขณะที่กลุ่มธุรกิจสนับสนุนกลุ่มการเมืองให้เคลื่อนไหวมี 4 บริษัทยักษ์ใหญ่เป็นตัวหลัก ม็อบพวกนี้จะส่งเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ใช้สื่อของรัฐเป็นตัวช่วย คนชุมนุมจากเสื้อหลากสีทำผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่รัฐบาลไม่ดำเนินการใดๆ ไม่ว่าฝ่ายศอฉ.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เห็นชัดว่าปฏิบัติสองมาตรฐาน สัปดาห์หน้าพรรคจะยื่นฟ้องต่อป.ป.ช. และกระบวนการยุติธรรม เอาผิดนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ และพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ. ตร. ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157

เชื่อปัญหาหนักกว่าไฟใต้

นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวพรรคประชาธิปัตย์จะขอความช่วยเหลือจากนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ให้มาช่วยดูแลปัญหาม็อบเสื้อแดง ว่า หากจริงเกมใต้ดินต่อไปนี้เช่นม็อบชนม็อบจะรุนแรงขึ้น การสร้างสถานการณ์ต่างๆ ที่นำไปสู่ความวุ่นวายทางการเมือง จนเป็นเหตุให้รัฐบาลมีความชอบธรรมที่จะสลายการชุมนุมโดยอาศัยพ.ร.ก.ฉุกเฉินและอำนาจกองทัพในการปราบปรามประชาชน เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่รอบที่สอง แทนที่จะมีการเจราจารอบที่สาม จะเป็นสิ่งที่ทำให้การเจรจาปิดฉากลง

ส่วนกรณีพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศอฉ.ออกมาข่มขู่เสื้อแดงรายวันนั้น นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า หากดูประวัติศาสตร์การปราบปรามประชาชน ยิ่งตีก็ยิ่งโต ยิ่งปราบยิ่งเกิดขึ้น วันนี้เสื้อแดงมีอยู่ทุกภาค หากคิดว่าใช้กำลังปราบปรามแล้วได้ผลขอให้ดูปัญหาภาคใต้ ทำไมรัฐบาลปราบไม่ได้ แต่กลับมีระเบิดรายวัน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีมวลชนน้อยกว่าคนเสื้อแดงขณะนี้ด้วยซ้ำ และข้อมูลในเชิงการข่าว ผู้ก่อการร้ายภาคใต้ใช้กำลังเคลื่อนไหวเพียง 3 พันคน ถามว่าประชาชนที่มาชุมนุมเป็นเรือนแสนวันนี้ รัฐบาลจะปราบไหวหรือไม่ เพราะมวลชนมีทุกภาค การคิดเช่นนี้ของรัฐบาลคิดโดยไม่มีหลักรัฐศาสตร์ คิดแต่ใช้กำลัง

"จิ๋ว"ออกแถลงการณ์ชี้แจง

วันเดียวกัน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ผ่านพรรคเพื่อไทย เรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์กับการเมือง ใจความโดยสรุปว่า ไม่เห็นประชาธิปไตยในระบอบไหนที่จะดีสำหรับเมืองไทยเกินกว่าระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สถาบันพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐ ทรงใช้อำนาจอธิปไตยผ่าน 3 ทาง คือ คณะรัฐมนตรี รัฐสภา และศาล ตามรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 มาตรา 3 แสดงว่าพระมหากษัตริย์อยู่ในการเมือง ไม่ได้อยู่นอกการเมือง หรือไม่ได้อยู่เหนือการเมือง ยามใดที่ประเทศมีการปกครองในระบอบเผด็จการ มีฝ่ายใดที่ได้อำนาจและใช้อำนาจก่อความเดือดร้อนเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชน ท่านทรงคานการใช้อำนาจเช่นนั้น เช่น ในเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ และพฤษภาทมิฬ

พล.อ.ชวลิตระบุว่า เมื่อรัฐบาลสั่งให้ทหารปฏิบัติมาตรการแก้ปัญหาม็อบที่ผิด เกิดการบาดเจ็บล้มตายทั้งสองฝ่าย รัฐบาลกลับไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ แต่เตรียมจะเข่นฆ่าประชาชนอีก ตนจึงไม่มีทางเลือกเพราะเห็นว่าไม่มีสถาบันใดอีกแล้วที่จะหยุดยั้งได้นอกจากสถาบันพระมหากษัตริย์ และต้องยุติยับยั้งก่อนจะสายเกินการณ์ จึงตัดสินใจของพระบารมีปกเกล้าฯ ให้แก่ประชาชน อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง และไม่มีทางเลือกใด ใครคือผู้รับผิดชอบและใครกันแน่ที่ไม่รับผิดชอบ ขอให้คิดดูด้วยจิตใจที่เที่ยงธรรมและมีคุณธรรม อย่ายึดแต่หลักนิติรัฐแต่ไม่มีหลักนิติธรรม ยืนยันว่าตนเป็นหัวหน้าขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งรัฐ เพื่อต่อสู้เอาชนะขบวนการการเผด็จการรัฐสภา เผด็จการรัฐประหารและเผด็จการทุกชนิด มิใช่หัวหน้าผู้ก่อการร้ายตามที่มีผู้ป้ายสีไว้ (อ่านรายละเอียด น.3)

"ชวน"ยังห่วงคดียุบพรรค

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่รัฐสภา คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค เป็นประธาน พร้อมด้วยนายบัณฑิต ศิริพันธุ์ ทนายผู้ว่าความประชุมหารือแนวทางการต่อสู้คดียุบพรรค โดยเชิญนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรม การสภาที่ปรึกษาพรรคและอดีตหัวหน้าพรรค นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตกรรมการบริหารพรรค เข้าให้ข้อมูล

หลังประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง นายชวนให้สัมภาษณ์ว่า คดียุบพรรคครั้งนี้กับครั้งที่แล้วคนละประเด็นกัน เมื่อถามว่ามีข้ออะไรที่น่าหนักใจหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า เวลาถูกฟ้องคงไม่มีใครสบายใจ

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายกล่าวว่า ขณะนี้การตรวจสอบเริ่มพิจารณาลึกลงไปในเนื้อข้อเท็จจริงของคดี จึงไม่สามารถเปิดเผยอะไรได้ ส่วนการพิจารณาวันนี้ที่มีการเชิญผู้มาชี้แจง ทั้ง 3 คนยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ทั้งนี้ จะสามารถทำคำชี้แจงการต่อสู้คดีได้ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และถ้าศาลรับเรื่องไว้พิจารณา ก็จะส่งคำกล่าวหาให้พรรค และเมื่อได้รับคำกล่าวหาถึงจะเริ่มนับหนึ่งเพื่อแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน

ทนาย"บัณฑิต"มั่นใจชนะ

รายงานข่าวแจ้งว่า การหารือวันนี้ที่ประชุมแสดงความมั่นใจว่าพรรคจะไม่ถูกยุบ เพราะมีข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงที่มั่นใจว่าจะหักล้างคดีได้ โดยเฉพาะนายบัณฑิต แสดงความมั่นใจว่าจะชนะคดี ส่วนที่มีความกังวลว่าหากศาลรัฐธรรม นูญตัดสินยุบพรรค อาจจะกระทบต่อเสถียร ภาพของรัฐบาลนั้น ที่ประชุมเห็นว่ากรณีนี้อาจไม่รุนแรงถึงขั้นทำให้พรรคประชาธิปัตย์ถูกยุบ แต่อาจกระทบกับคนที่เกี่ยวข้อง และเป็นผู้เซ็นเอกสารโดยตรง โดยอาจจะมี 5-6 คนเท่านั้นที่ถูกตัดสิทธิ์ ดังนั้น จึงไม่กระทบกับเสถียรภาพรัฐบาลมากนัก ที่ประชุมย้ำกับผู้เข้าร่วมประชุมงดให้ข้อมูลแก่ผู้สื่อข่าว เนื่องจากการพิจารณาขณะนี้ลงลึกไปในรายละเอียดของคดี สำหรับการประชุมนัดต่อไปนั้นยังไม่ชัดเจน เนื่องจากนายบัณฑิต ติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ 1 สัปดาห์ ดังนั้น จะมีการประชุมเฉพาะชุดเล็กเท่านั้น

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงตอบโต้แกนนำนปช.ที่ระบุนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอนำสำนวนคดียุบพรรคมาให้พรรคประชาธิปัตย์ไว้ต่อสู้คดี ว่า นายธาริตไม่เคยนำสำนวนมาให้พรรคและไม่เคยช่วยพรรค เพราะสำนวนคดีนี้อธิบดีดีเอสไอคนก่อนยื่นให้กกต.ไปหมดแล้ว

โต้ตั้งพรรคสำรอง-ไม่จริง

ส่วนที่จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยระบุประชาธิปัตย์ตั้งพรรคสำรองเอาไว้แล้ว โดยจะให้นายชวน เป็นหัวหน้าพรรค นายเทพไทกล่าวว่า ไม่เป็นความจริง การให้สัมภาษณ์ของนายจาตุรนต์ หวังผลทางการเมืองให้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ระส่ำระสาย กระทบเสถียรภาพรัฐบาล และทำให้พรรคร่วมรัฐบาลไม่มั่นใจ

นายเทพไทกล่าวว่า ขณะนี้สิ่งที่รัฐบาลเป็นห่วงคือกรณีมีม็อบเสื้อหลากสีออกมาต่อต้านคนเสื้อแดง ยืนยันรัฐบาลไม่ได้จ้างบุคคลดังกล่าวมาตามที่แกนนำนปช.กล่าวหา บุคคลดังกล่าวมาด้วยจิตใจบริสุทธิ์ ต้องการออกมาปกป้องสถาบัน และหวังจะทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไป ที่แกนนำ นปช.กล่าวหาว่ามีการจ้างมาคงเพราะตัวเองเคยใช้วิธีนี้มาก่อน นอกจากนี้พรรคยังห่วงเรื่องการก่อวินาศกรรมโดยการยิงจรวดอาร์พีจีเข้าใส่คลังน้ำมันย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี รัฐบาลเป็นห่วงว่าอาวุธสงครามที่หายไปยังไม่ได้รับคืนมาเป็นจำนวนมาก จึงห่วงว่าจะมีบุคคลบางกลุ่มนำอาวุธดังกล่าวไปใช้สู้รบกับเจ้าหน้าที่ และยังประเมินว่าสถานที่ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด นอกจากคลังน้ำมันแล้วยังมีโรงงานผลิตไฟฟ้า สถานีจ่ายไฟฟ้าขนาดใหญ่ กระทั่งหอบังคับการการบิน เพราะหากเกิดวินาศกรรมขึ้นจะสร้างความสูญเสียยิ่งกว่าปิดสนามบิน

จี้ส.ส.ขึ้นเวทีม็อบลาออก

เวลา 16.00 น. ที่รัฐสภา นายพิมพ์พล แสงเมือง นักกฎหมายกลุ่มอาสาปกป้อง ยื่นหนังสือถึงประธานสภาผ่านทางนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ส.ส.พรรคเพื่อไทย จำนวน 27 คน ที่ขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มคนเสื้อแดงลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากถือว่ากระทำผิดจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างร้ายแรง ส.ส.กลุ่มดังกล่าวเป็นผู้มีส่วนร่วมในการยุยงปลุกปั่นจนทำให้เกิดเหตุการณ์ 10 เม.ย. หากยังไม่ลาออกตนจะยื่นถอดถอนต่อไป

นายวัชระกล่าวว่า นอกจากนี้ตนจะหาช่องทางยื่นยุบพรรคเพื่อไทยด้วย เนื่องจากถือว่ามีการกระทำเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข โดยจะยื่นทันทีที่รวบรวมหลักฐานเสร็จ

"หนั่น"ทวงสัญญาแก้รธน.

ที่รัฐสภา พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประ ธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ระบุให้ความสำคัญกับคดียุบพรรคมากกว่าการแก้รัฐธรรมนูญ ว่า ไม่ทราบ คดียุบพรรคเป็นเรื่องของศาลรัฐธรรม นูญ เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลกดดันพรรคประชาธิปัตย์เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญมากเกินไปหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่ แต่เขาตกลงกันมาอย่างนั้น เรียกร้องให้แก้ไขก่อนยุบสภา ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ถูกยุบพรรคก่อน หรือจะแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน ก็สุดแล้วแต่ ถ้าถูกยุบ รัฐบาลชุดนี้อยู่ไม่ได้ ต้องว่ากันใหม่

ต่อข้อถามพรรคร่วมรัฐบาลจะชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เวลาพรรคประชาธิปัตย์ไปทำคดียุบพรรคก่อนหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ถูกยุบตอนนี้ จะชะลออะไร มาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่มีคนเรียกร้องให้ยุบสภา เราขอเวลา 9 เดือนแต่ยังตกลงกันไม่ได้ ควรมาทำเรื่องนี้ก่อน ถ้ามันอยู่ได้ พรรคประชาธิปัตย์ก็มีเวลาไปเตรียมการสู้คดี ในพรรคประชาธิปัตย์แบ่งหน้าที่กัน มีคณะทำงานฝ่ายกฎหมายสู้คดียุบพรรค ใครที่เป็นฝ่ายบริหารก็มาทำเรื่องแก้ปัญหาการชุมนุม อย่านำ 2 เรื่องปนกัน ให้ทำคู่ขนานกันไป ช่วง 9 เดือนสามารถแก้ได้หมดทุกเรื่อง

บอก"ปชป."อย่าปอดแหก

เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์จะรอดจากคดียุบพรรคนี้หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์อยู่มา 64 ปี เท่าที่ฟัง เงินต่างๆ ไม่ได้เข้ามาในพรรคประชาธิปัตย์อย่างที่มีเป็นหลักฐาน เชื่อมั่นว่าคงไม่เกี่ยวพันกับพรรคประชาธิปัตย์มาก ส่วนกรณีเงินสนับสนุนกิจกรรมพรรคการเมือง 29 ล้านบาท พรรคประชาธิปัตย์คงต้องมีหลักฐาน อย่าไปตื่นเต้น เมื่อถามถึงนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ ประเมินว่าอาจแพ้คดีนี้ได้ พล.ต.สนั่นหัวเราะพร้อมกล่าวว่า "ถ้าปอดแหกอย่างนั้น อย่าไปสู้สิ"

พล.ต.สนั่น กล่าวถึงพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ทำหนังสือถึงสำนักราชเลขาธิการเพื่อขอเข้าเฝ้าฯ พึ่งพระมหากรุณาธิคุณยุติปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมือง ว่า เรื่องนี้นำมาแถลงข่าวไม่ได้ ด้วยความเคารพ ท่านควรหยุดสักนิดแล้วมาช่วยกันแก้ปัญหา เช่น ช่วยกันพูดคุยกับกลุ่มคนเสื้อแดงให้เกิดความเข้าใจ หรือให้ถอยกันคนละนิด เมื่อถามว่าบุคคลทั้งสองดื้อดึงหรือไม่เพราะมีเสียงติติงว่าการทำเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่บังควร พล.ต. สนั่น กล่าวว่า คงหยุดไม่ได้แล้ว เพราะถ้าหยุดก็ถูกด่ามาก และราชเลขาธิการจะว่าอย่างไรก็ว่าตามนั้น

มท.ชี้"นปช."แนวร่วมเยอะ

ที่กระทรวงมหาดไทย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ยังไม่ติดต่อมายังพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะนัดหารือเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันเวลาใด พรรคภูมิใจไทยยืนยันจะจับมือพรรคชาติไทยพัฒนา และให้เป็นแกนนำไม่ว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ เมื่อถามว่าจะมีทางออกเรื่องการแก้รัฐธรรม นูญอย่างไร เพราะท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ยังคงยืนกรานไม่ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรม นูญ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ก็เห็นว่าอย่างนั้น แต่ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร

ส่วนการชุมนุมของกลุ่มนปช. ที่ชุมนุมยืดเยื้อมาเป็นเวลายาวนาน 40 กว่าวันนั้น รมว. มหาดไทย กล่าวว่า เป็นการชุมนุมที่เกินกว่าคาดหมายไว้ ไม่ทราบว่าเหตุใดกลุ่มนปช.ถึงมีแนวร่วมมากขนาดนี้ สำหรับเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างกลุ่มนปช.กับกลุ่มเสื้อหลากสี ยังอาจนำมาซึ่งความสูญเสียด้วยหากต่างฝ่ายต่างไม่ยอมซึ่งกันและกัน อยากให้การชุมนุมยุติโดยเร็ว รัฐบาลจะได้เดินหน้าบริหารบ้านเมืองต่อไปได้

ส.ว.ยื่นเสนอแนะทางออก

เวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี นายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ส.ว.สรรหา เข้ายื่นหนังสือต่อนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ เป็นรายงานผลการประชุมวุฒิสภาเมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่พิจารณาญัตติเรื่องขอให้เรียกประชุมวุฒิสภาเป็นกรณีพิเศษเป็นการด่วนที่สุด เพื่อแสวงหาแนวทางแก้ไขสถานการณ์ของประเทศ

นายสิงห์ชัย กล่าวว่า ส.ว.ทุกคนเป็นห่วงสถานการณ์ขณะนี้ จึงรวบรวมคำอภิปราย ข้อเสนอแนะของสมาชิกในการประชุมวุฒิสภานัดพิเศษ เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ซึ่งเราเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหา แม้ไม่เป็นมติของวุฒิสภาแต่หวังว่าฝ่ายบริหารจะเห็นความสำคัญในข้อคิดเห็นต่างๆ นอกจากนี้ ตนจะนำรายงานดังกล่าวไปยื่นกับกลุ่มนปช.ที่แยกราชประสงค์ในวันเดียวกัน โดยข้อสรุปของส.ว.ส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้ใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา ใช้การเจรจาทั้ง 2 ฝ่ายอีกครั้งและอย่าสร้างสถาน การณ์ยั่วยุ

นายสาทิตย์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ขณะนี้ข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ แต่รัฐบาลตั้งใจจะใช้เวทีรัฐสภาโดยจะขอมติจากที่ประชุมครม. วันอังคารที่ 27 เม.ย.นี้ เพื่อเปิดอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 179 ซึ่งรัฐบาลยินดีรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน

จี้"มาร์ค-เทือก"ลาพักงาน

เวลา 14.15 น. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ ร่วมแถลงข่าว นายเรืองไกรกล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น ส.ว.ต้องการให้นายกฯ รับผิดชอบในฐานะผู้นำสูงสุด ตามที่เคยประกาศกฎเหล็ก 9 ข้อ โดยเฉพาะข้อ 9 ระบุความรับผิดชอบทางการเมืองต้องอยู่สูงกว่าความรับผิดชอบทางกฎหมาย ดังนั้น นายกฯจะแสดงความรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตจากเหตุปะทะเมื่อวันที่ 10 เม.ย.อย่างไร

นายเรืองไกรกล่าวว่า หากย้อนไปเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 ที่มีการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธ มิตรฯ นายอภิสิทธิ์เป็นผู้เสนอตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบข้อเท็จจริง นำไปสู่กระบวนการถอดถอนผู้ที่สั่งสลายการชุมนุม ดังนั้นจึงขอเสนอให้นายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ลาพักจนกว่าจะทราบผลสอบสวนข้อเท็จจริง และตั้งคนขึ้นมารักษาการแทนเหมือนที่อดีตนายกฯเคยทำมาก่อน และคงไม่เป็นปัญหาเพราะพรรคร่วมรัฐบาลยังเป็นเสียงข้างมาก ทำงานได้อยู่ ไม่ต้องห่วงการแต่งตั้งโยกย้ายทหารและตำรวจ หรือการผ่านงบประมาณ เพราะพรรคร่วมรัฐบาลให้คำปรึกษาได้ ข้อเสนอนี้ไม่ใช่การกดดันให้ยุบสภาหรือลาออก แต่ต้องการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งรัฐบาล แกนนำนปช. และพรรคร่วมมีทางออก

ย้ำต้องแก้ด้วยการเจรจา

นางนฤมลกล่าวว่า กลุ่มส.ว.ต้องออกมาเคลื่อนไหวเพราะไม่อยากเห็นความรุนแรงและใช้กำลังจัดการผู้ชุมนุม จึงออกแถลงการณ์เพื่อเป็นข้อเสนอกับรัฐบาล คือให้รัฐบาลกำหนดขั้นตอนวิธีแก้ปัญหาด้วยการเจรจา ไม่ใช้สื่อของรัฐสร้างความแตกแยก ดังนั้น ควรให้โทรทัศน์เสนอข่าวการชุมนุมได้โดยไม่ปิดกั้น รัฐบาลต้องป้องกันและควบคุมไม่ให้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างบุคคลหลายกลุ่มกับกลุ่มคนเสื้อแดง เหมือนที่เกิดขึ้นที่ถนนสีลม เมื่อคืนวันที่ 21 เม.ย. และสุดท้ายรัฐบาลต้องใช้สภาเป็นหลักในการแก้ปัญหา

วันเดียวกัน นายอนุรักษ์ นิยมเวช ประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา พร้อมคณะกรรมา ธิการออกแถลงการณ์ว่า คณะกรรมาธิการมีมติเสนอต่อรัฐบาล ดังนี้ 1.ต้องแก้ปัญหาด้วยการเจรจาทั้ง 2 ฝ่ายด้วยสันติวิธี 2.เปิดโอกาสให้ผู้มีความคิดเห็นที่แตกต่างได้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารอย่างเท่าเทียม 3.ป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดและกลุ่มต่างๆ เผชิญหน้าจนเกิดการปะทะกัน และ 4.ต้องใช้รัฐสภาเป็นหลักแก้ปัญหา โดยเฉพาะการประชุมส.ว.ที่ยื่นขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 ก่อนจะดำเนินการตามมาตรา 179

แม้วส่งทนายแจ้งจับ"กษิต"

วันเดียวกัน ที่กองบังคับการกองปราบปราม นายสุภาพ เพชรศรี รับมอบอำนาจต่อจากนายสมบูรณ์ คุปติมนัส ทนายความของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้าแจ้งความกับพ.ต.ท.มาโนชญ์ สวนดอกไม้ พงส.(สบ2) กก.1บก.ป. เพื่อให้ดำเนินคดีนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 กรณีให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ในการประชุมสุดยอดความมั่นคงทางนิวเคลียร์ (NSS) ที่มหาวิทยาลัยจอห์นฮอฟกิ้นส์ กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ในคำสัมภาษณ์มีเนื้อหาพาดพิง พ.ต.ท.ทักษิณว่าอยู่เบื้องหลังเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งไม่เป็นความจริง และยังทำให้พ.ต.ท.ทักษิณได้รับความเสียหาย พร้อมกับนำสำเนาของหนังสือพิมพ์ข่าวสดและหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 14 เม.ย. 2553 ที่ตีพิมพ์คำสัมภาษณ์ของนายกษิต มามอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานด้วย

พ.ต.ท.มาโนชญ์ กล่าวว่า ได้รับเรื่องและสอบปากคำฝ่ายผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาส่งเรื่องให้กับอัยการสูงสุดดำเนินการต่อไป เนื่องจากเป็น กรณีที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ

มาร์คยังไม่นัดคุยพรรคร่วม

เวลา 19.00 น. ที่ศูนย์แถลงข่าว ศอฉ. ใน กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้รัฐ ธรรมนูญว่า ที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์มอบให้ตนกับนายสุเทพ ไปคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล แต่ขณะนี้ยังไม่มีโอกาส แต่คิดว่าพรรคร่วมเข้าใจเพราะสิ่งที่เราอยากจะสื่อสาร คือเราเข้าใจความต้องการและความคิดเห็นของพรรคร่วม แต่ประเด็นของรัฐธรรมนูญจะต้องตอบสังคม ฉะนั้นการทำความเข้าใจกับสังคมเพื่อให้ยอมรับเป็นหัวใจสำคัญ เดิมคิดว่าถ้าทำประชามติจะเป็นคำตอบที่ง่ายที่สุด ยังติดขัดอยู่ ต้องมาคุยกันว่าจะมีวิธีการรับฟังและสื่อสารและหาคำตอบให้สังคมอย่างไร

เมื่อถามถึงกลุ่มคนเสื้อแดงมีการเคลื่อนไหวทั้งในและนอกสภา ล่าสุดพล.อ.ชวลิต ขอเข้าเฝ้าฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกอย่างเชื่อมโยงกันทั้งหมด อย่างวันนี้ตนทำหนังสือถึงสภา ไม่ไปตอบกระทู้เพราะไม่ต้องการให้สถานการณ์มีปัญหามากยิ่งขึ้น แต่ตนก็ติดตามการอภิปรายของสมาชิกโดยเฉพาะฝ่ายค้าน การไม่ไปสภาวันนี้ไม่ใช่เพราะตนไม่สนใจการแก้ปัญหาทางการเมือง แต่เวทีและรูปแบบต้องเหมาะสม ไม่เป็นตัวเติมเชื้อให้เกิดความขัดแย้ง ถ้ามีการตอบโต้ในสภา ต่างฝ่ายจะพูดในสิ่งที่คิดว่าเป็นความจริง จะทำให้เกิดการเผชิญหน้ากันมากขึ้น ส่วนการประชุมร่วมรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 179 นั้น จะเสนอต่อครม.ต่อไป

เมื่อถามว่าพล.อ.ชวลิต ออกแถลงการณ์พาดพิงตัวนายกฯ และพรรคประชาธิปัตย์เคยขอพระราชทานรัฐบาลแห่งชาติ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนพูดถึงกรณีนี้เป็นกรณีที่ตนเสนอว่าเป็นความพร้อมใจของทุกฝ่าย จะต้องเอาสถาน การณ์ไปเทียบเคียงกัน

ที่มา.ข่าวสดรายวัน
************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น