นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกลุ่มต่างๆออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการยุบสภาและแสดงความไม่พอใจต่อการชุมนุมของเสื้อแดง ว่า ขณะนี้ได้รับข่าวเชิงลึกจากนักธุรกิจบางส่วนว่า มีนักธุรกิจร่วมกันลงขันครั้งละ100 ล้านบาท จัดให้มีทั้งม๊อบเชียร์ และ ม๊อบชน โดยมีการจัดม๊อบแบ่งเป็นหลายกลุ่ม มีทั้งกทม.และต่างจังหวัด เน้นพื้นที่ๆมีนักการเมืองฝ่ายรัฐบาล ซึ่งนักการเมืองจะหนุนในเรื่องของฐานมวลชน ส่วนกลุ่มธุรกิจจะสนับสนุนกลุ่มการเมืองโดยหนุนในเรื่องการเคลื่อนไหว โดยมี 4 บริษัทยักษ์ใหญ่เป็นตัวหลัก จึงสังเกตว่าม๊อบพวกนี้จะส่งเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ โดยใช้สื่อของรัฐบาลในการช่วยโปรโมต
“ทั้งนี้จะเห็นได้จากการชุมนุมมีความเข้มข้นขึ้น เนื่องจากต้องการต่ออายุรัฐบาล ซึ่งการชุมนุมครั้งนี้แสดงให้เห็นชัดถึงการแบ่งชนชั้นระหว่างนายทุนที่หนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และนักการเมือง กองทัพ และกลุ่มแนวร่วมอำมาตย์” นายพร้อมพงศ์ กล่าวและว่า และขอตั้งข้อสังเกตว่าคนชุมนุมที่มาจากเสื้อหลากสีทำผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินแต่รัฐบาลไม่มีการดำเนินการใดๆ ไม่ว่าฝ่ายศอฉ.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ แสดงให้เห็นชัดว่าเป็นการปฏิบัติสองมาตรฐาน และ เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รับผิดชอบตามมาตรา 157 ดังนั้นในสัปดาห์หน้าพรรคเพื่อไทยจะไปยื่นฟ้องต่อป.ป.ช.และ กระบวนการยุติธรรม
เพื่อเอาผิดต่อนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะ ผอ.ศอฉ. และ รักษาการผบ.ตร.ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ต่อไปสำหรับในวันที่23 เม.ย.นี้ทางทูตานุทูตจากประเทศต่างๆจะเดินทางเข้าพบพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ์ ประธานพรรคเพื่อไทย เพื่อมารับฟังและชี้แจงกรณีการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา
ที่มา.เนชั่น
************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น