นายสมาน ลิประพันธ์ อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง เขตอำเภอกันตัง ในฐานะแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จ.ตรัง กล่าวว่า ตนเองได้พาประชาชนชาวตรัง ประมาณ 50-60 คน เดินทางขึ้นมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง ที่แยกราชประสงค์ ส่วนใหญ่เป็นชาวอำเภอกันตัง นาโยง ย่านตาขาว และเมือง โดยมีลักษณะการเดินทางของกลุ่มคนเสื้อแดง ไปกันเป็นแบบต่างคนต่างมา แล้วนัดเจอกันที่กรุงเทพฯ ซึ่งไม่เหมือนกับการเดินทางขึ้นไปชุมนุมในช่วงแรก ที่นัดกันไปโดยการเหมารถไปพร้อมๆ กัน โดยมีเป้าหมายที่จะอยู่ร่วมชุมนุมกันจนกว่าจะได้รับชัยชนะ นอกจากนั้น กลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดตรัง ก็ยังมีการเตรียมการปรับเปลี่ยนกำลังขึ้นไปรวมตัวกันที่แยกราชประสงค์
ทั้งนี้ ก่อนที่ตนเองจะเดินทางขึ้นไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ ทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ได้เชิญไปพบ ร่วมกับแกนนำคนอื่นๆ อีก 2-3 คน เช่น นายรัตน์ ภู่กลาง อดีต ส.จ.เขตอำเภอเมืองตรัง ซึ่งการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายจากกระทรวงมหาดไทย เพื่อปรามแกนนำเพื่อไม่ให้นำสมาชิกขึ้นไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการกระทำเหมือนกันทุกจังหวัด โดยส่วนตัวเข้าใจว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำตามนโยบาย โดยไม่ได้มีการคุกคามอะไร เพียงแต่ไปพูดคุยกันธรรมดา ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดตรังไม่มีผลกระทบ เพราะส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นเรื่องของขั้วทางการเมือง ไม่ได้รับการข่มขู่จากอีกฝ่าย และไม่มีการสกัดกั้นไม่ให้ขึ้นมาร่วมในการชุมนุมที่กรุงเทพฯ
ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่ากลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดตรัง หรือในภาคใต้ มีท่อน้ำเลี้ยงนั้น ขอยืนยันได้ว่าพวกตนขึ้นมาชุมนุมด้วยหัวใจอันแน่วแน่ของอุดมการณ์ และมาด้วยทุนทรัพย์ของตนเองทั้งสิ้น แม้ที่ผ่านมากลุ่มคนเสื้อแดงของภาคใต้ ยังไม่ได้รับอันตรายอะไร แต่ถ้าทหารมีการปราบปรามอย่างรุนแรง ก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายกับกลุ่มคนเสื้อแดงของภาคใต้ เนื่องจากกลุ่มคนภาคใต้ส่วนใหญ่จะรวมตัวอยู่หน้าเวที
ที่มา.เนชั่น
************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น