นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการสลายชุมนุมที่ถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณหน้าอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ดอนเมือง เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ว่า เป็นการกระทำที่ลุแก่อำนาจ เกินกว่าเหตุ เป็นผลให้มีคนบาดเจ็บและเสียชีวิตอีกครั้ง เพราะการสลายชุมนุมไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนตามหลักสากล ทำให้ทหารถูกทหารด้วยกันยิงเสียชีวิต
"ทหารที่เสียชีวิตถูกกลุ่มทหารด้วยกันยิงเอง ทหารที่เสียชีวิตได้ขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อฝ่าเข้ามายังกลุ่มทหาร โดยเกิดการเข้าใจผิดคิดว่าเป็นผู้ชุมนุม จึงถูกทหารด้วยกันเองยิงเสียชีวิต นอกจากนี้ยังปรากฏภาพทหารนำอาวุธปืนติดกล้องที่มีประสิทธิภาพสูงมาใช้สลายกลุ่มประชาชนด้วย สะท้อนให้เห็นเจตนาของผู้มีอำนาจที่มุ่งหมายเอาชีวิต ที่สำคัญการดำเนินการในวันนั้นไม่มีการคำนึงถึงประชาชนทั่วไปที่สัญจรผ่านไปมา ซึ่งมีทั้งเด็ก ผู้หญิง คนชรา ติดอยู่ระหว่างการปะทะของทหารและกลุ่มนปช. จนส่งผลให้ประชาชนบางคนได้รับบาดเจ็บไปด้วย ถือเป็นการกระทำที่อำมหิต ป่าเถื่อนผิดมนุษย์ วันนี้นายอภิสิทธิ์เลือดเข้าตา หวังอยู่ในอำนาจเพียงอย่างเดียว เดินหน้าฆ่าฟันโดยไม่คำนึงถึงชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์เลย ความเสียหายที่เกิดขึ้นหลายครั้งรัฐบาลและศอฉ.จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ"
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ศอฉ.อ้างว่าได้ตรวจพบกระสุนปืนเอ็ม 79 จำนวน 62 นัด จากผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่โยนทิ้งและหลบหนีไป และโยงไปถึงขบวนการก่อการร้ายแฝงอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น เหมือนเป็นการสร้างฉากใส่ร้ายป้ายสีกลุ่มผู้ชุมนุม พยายามโยงให้เห็นว่าอาวุธดังกล่าวอาจจะเกี่ยวข้องกับผู้ชุมนุม แต่แท้จริงแล้วเชื่อว่าน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ของรัฐบาลและศอฉ. เพื่อทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมดูเลวร้าย และจะต้องปราบปราม นี่คือการทำร้ายประเทศไทยโดยรัฐบาล ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศเสียหาย ล่าสุด 48 ประเทศ ได้ออกคำสั่งห้ามคนของตัวเองเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพราะสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายจากสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศไทย
ที่มา.เนชั่น
***************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น