เดิมพันของการได้ชัยชนะเหนือศัตรู และพรรคการเมืองคู่แข่ง คือการ ได้ครอบครอง ′อำนาจ′
แต่ ′ชัยชนะ′ และ ′เดิมพัน′ อาจไร้ค่า หากผู้ครอบครองอำนาจมิอาจครอบครองน้ำใจคน
พื้นที่อันศักดิ์สิทธิ์ของนักรบ-นักการเมือง จึงอาจไม่ใช่พื้นที่แห่งชัยชนะเหนือสงคราม
แต่เป็นพื้นที่ที่นักรบสามารถครอบคลุมเกาะกุมจิตใจผู้คน และสั่งสม ′บารมี′
′สุเทพ เทือกสุบรรณ′ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์-ผู้จัดการรัฐบาล จึงฝึกฝนศาสตร์และศิลป์ในการครองใจคนการเมือง
หลายคนเคยเป็น ′ศัตรู′ จึงพลิกขั้วกลับมาเป็น ′มิตร′
หลายคนเคยไม่ไว้วางใจ แต่กลับกลายมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
กองกำลังที่ไม่เคย ′เลือกข้าง′ ทางการเมือง ปรากฏตัวร่วมมือ สนับสนุน
ทั้ง ′เนวิน ชิดชอบ′ และ ′บรรหาร ศิลปอาชา′ และกองทัพ จึงพลิกกระดานการเมืองมาอยู่ข้างเดียวกับ ′สุเทพ′
ในนามของรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เมื่อต้องอรรถาธิบายเหตุการณ์ ′เมษาเลือด′ ที่ปลายกระบอกปืนหันมาจาก ′กองกำลังไม่ทราบฝ่าย′ จึงมีคนเห็นเขาน้ำตาคลอ
เมื่อเขายกหลักเหตุผล หมดแม่น้ำ ทั้งห้าสาย เพื่อให้สมาชิกพรรคตัวเอง เห็นชอบกับ ′ธงในใจ′ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อประคองรัฐนาวา ′อภิสิทธิ์′ ไม่ให้ล่ม-ล้มก่อนเวลาอันควร เขาถูกครหาว่า ′ข่มขู่′ คนในพรรค
′ความจริงการคบกันเป็นมิตร เป็นเพื่อนกัน ก็ต้องพึ่งพากัน เขาช่วยเหลือเราใน เรื่องต่าง ๆ เขาขอความเอื้อเฟื้อจากเราบ้างเล็กน้อย เราก็ควรพิจารณาให้เขาไป′
คำจากใจ-ออกจากปาก-ส่งสัญญาณการเมืองที่ซับซ้อน ′ผมรักเพื่อนพรรคร่วมรัฐบาลทุกคน และผมเชื่อว่าเขามีใจให้รัฐบาล′
คุณธรรม-น้ำมิตร-มืออาชีพ และกลเกมการเมืองของ ′สุเทพ′ ทำให้เขาคลุกอยู่กับพวก 8 เหลี่ยม 12 คม
ใน 5 พรรคร่วมรัฐบาล มาแล้ว 1 ปี 4 เดือน กับภารกิจประธานคณะกรรมการระดับชาติไม่น้อยกว่า 30 ชุด
′เอกนัฎ พร้อมพันธุ์′ ลูกชายของ ′ศรีสกุล พร้อมพันธุ์′ ภรรยา ′สุเทพ′ ที่แทรกตัวอยู่ทุกอณูการตัดสินใจครั้งสำคัญของเขา การันตี ′พ่อบุญธรรม′
′ท่านเป็นนักการเมืองมืออาชีพ ชีวิต คุณลุง 100% ให้การเมืองหมด ทั้งชีวิตมีแต่เรื่องการเมืองอย่างเดียว เป็นคนรักษา คำพูด ทำงานเพื่อประเทศชาติ ทำงานเพื่อปกป้องสถาบัน เป็นคนจริงจังกับงาน ทำอะไรก็จะต้องทำให้สำเร็จ ทำให้ดีที่สุด′
ดังนั้นนอกจากอาชีพ ′นักการเมือง′ แล้ว จึงไม่อาจเห็น ′สุเทพ′ ทำอาชีพอื่น อย่างน้อยก็อีก 10 ปี
พรรคประชาธิปัตย์ในห้วง 63 ปี แม้มีมรสุม ′คดียุบพรรค′ แผ้วพาน-ผ่านพบ เข้ามาปะทะ
อีกทั้งยังมีพายุ ′เสื้อแดง′ ที่พัดโหมกระหน่ำกราดเกรี้ยว หวังขุดราก-ถอนโคน ผลักนายกรัฐมนตรี และ 35 รัฐมนตรี ให้พ้นจากระบบ
ยิ่งทำให้ ′สุเทพ′ ไม่คิดวางมือ
ตรงกันข้าม เขากลับคิดค้นเครื่องมือทางการเมือง เข้ามาเป็น ′ตัวช่วย′ ในหมากกลการเมืองที่เข้า ′ตาอับ′
การหยิบวาระ ′แก้รัฐธรรมนูญ′ ที่ ′บรรหาร-เนวิน′ ชงเป็นยาหอมพร้อมดื่ม ไว้ล่วงหน้า เป็นวาระประเทศไทย ทำให้ ′สุเทพ′ คลายความวิงเวียนจากวิกฤตไปหลายชั่วยาม
พิธีกรรมการแก้รัฐธรรมนูญจึงเป็น ทั้งยาคลายความอึดอัดให้ 5 พรรคร่วมรัฐบาล และเป็นสายลมเย็นพัดเข้าสู่รูระบายให้มวลชน แนวร่วม สมาชิกรัฐสภาได้หาทางลง ในฐานะผู้จัดการรัฐบาลกระดูกเบอร์ใหญ่ ไขรหัส กลเกม แก้รัฐธรรมนูญ อย่างเข้าใจ ′คนการเมือง′
′ที่พรรคร่วมต้องเคลื่อนไหว เขาจำเป็นต้องทำ มันเป็นชีวิตทางการเมืองของเขา เป็นความเป็นความตายของเขา เป็นอนาคตของเขา ถ้าเขาไม่ทำ เขาก็จะเล็กลง แล้วก็จะสูญพันธุ์ในทางการเมือง′
การร่วมวง-ขับเคลื่อนเกมการเมืองกลับเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร โดย ′ชัย ชิดชอบ′ และเสียงตามสายโทรศัพท์จาก ′บรรหาร′ สะกดให้ ′สุเทพ′ นิ่ง-นอนใจ รอคอยด้วยความเชื่อมั่น
ผู้จัดการรัฐบาลมั่นใจว่า เมื่อกระบวนการในสภาผู้แทนฯเริ่มต้นขึ้น พรรคประชาธิปัตย์จะมี ′ธง′ คำตอบให้กับพรรคร่วมรัฐบาลที่น่าพอใจ ในการอยู่ร่วมรัฐบาลอย่างราบรื่น
วันเวลาที่ได้ร่วมหัว จมท้าย กับ ′อภิสิทธิ์′ มาไม่น้อยกว่า 30 ปี บทบาทของ ′สุเทพ′ ในฐานะผู้ช่วย ′พระเอก′ วาดภาพนายกรัฐมนตรีได้แจ่มชัด
′นายกรัฐมนตรีเป็นพระเอก ก็ต้องหาทางออกให้สง่างามสมบทบาท′
ทั้งศึกใน-ศึกนอกของ ′สุเทพ-อภิสิทธิ์′ มีมากกว่า 4 ด้าน 4 ทิศ
ทิศแรก-แก้รัฐธรรมนูญ ′สุเทพ′ บอกทางแก้ว่า
ไม่จำเป็นว่าพรรคประชาธิปัตย์จะต้องเป็น ′หัวขบวน′ ออกจากสถานีหัวลำโพง แต่สามารถไป ′ดัก′ ขึ้นรถไฟที่สถานีสามเสน หรือสถานีต่อไปก็ได้ ท้ายที่สุดก็ได้ขึ้นรถไฟขบวนแก้ไขรัฐธรรมนูญทันเวลาเหมือนกัน
ทิศที่สอง-เรื่องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์
ทิศที่สาม-ปัญหากับดักเสื้อแดง
ทิศที่สี่-ความแตกร้าวของนายพลในกองทัพ
ปัญหาจากสารทิศ ′สุเทพ′ ไม่มีคำตอบที่เป็น ′สูตรสำเร็จ′
มีแต่นิทานสอนใจการเมือง ที่ ′สุเทพ′ ตั้งใจเล่าอย่างเป็นระบบ ตอนจบน่าพิศวง
′สุเทพ′ เริ่มต้นว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...
′มีพระราชาองค์หนึ่ง มีแพะ 1 ตัว เฝ้าพยายามทำให้แพะพูดได้ แต่ก็ไม่สำเร็จเสียที จึงมีประกาศไปทั่วเมืองว่า หากมี ชายหนุ่มคนใดทำให้แพะพระราชาพูดได้ จะให้เงินรางวัลครึ่งหนึ่งที่พระราชา ครอบครอง′
′และจะยกพระธิดาให้แต่งงานด้วย แต่ถ้าทำไม่ได้ก็จะถูกประหารชีวิต′
′....ไม่นานก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินทางเข้ามาบอกพระราชาว่า เขาจะทำให้แพะพระราชาพูดได้ พร้อมเสนอเงื่อนไข ให้พระราชา 2 ข้อ...′
คือ 1.พระราชาต้องจ่ายเงินรางวัลก่อน 15% และ 2.เขาต้องได้แต่งงานอยู่กินกับพระธิดาก่อน แล้วจึงทำให้แพะพูดได้
′...พระราชาก็ตกลง โดยให้เงินรางวัล 15% และมอบพระธิดาให้ไปอยู่กินกับชายหนุ่มคนนั้น′
ฉากจบอันพิศวงของเรื่อง เป็นภาพ ชายหนุ่มคนนั้นก็จูงแพะกลับบ้านพร้อมเงินรางวัล พร้อมพระธิดาเป็นภรรยา
คำถามของคนฟัง ดังทั่วสารทิศคือ ชายหนุ่มคนนั้นทำให้แพะพูดได้หรือไม่′
สุเทพตอบว่า ′ไม่ทราบ...เพราะคาดการณ์ไม่ได้ เป็นเรื่องอนาคต เป็นความพยายามของชายหนุ่ม แต่ที่สำคัญคือเขาได้ครอบครองทรัพย์สินแล้ว ได้ภรรยาแล้ว แพะจะพูดได้หรือไม่...ไม่มีใครรู้ เพราะเรื่องจบแล้ว′
′สุเทพ′ บอกว่า ′นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เมื่อได้รับมอบหมายภารกิจอะไรมา มีแต่ต้องพยายาม...พยายามเท่านั้น ส่วนผลลัพธ์ตอนจบจะเป็นอย่างไร ไม่มีใครคาดเดาได้′
′ผมต้องพยายามชี้แจงให้พรรคร่วมรัฐบาลเข้าใจวัฒนธรรมแบบประชาธิปัตย์ และหากเป็นงานที่ง่าย เขาก็คงให้คนอื่นทำไปแล้ว เพราะเป็นงานที่ยาก จึงเป็นงานที่เราต้องทำ′
คอลัมน์.มนุษย์การเมือง
โดย.อิศรินทร์ หนูเมือง
**********************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น