--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2553

นักวิเคราะห์ต่างชาติชี้"ทักษิณ"ยังเป็นศูนย์กลางความขัดแย้ง-ความโกรธแค้นเป็นอันตรายต่อเมืองไทยมากว่า

นักวิเคราะห์ชี้ไทยจำเป็นต้องเร่งเจรจาเหล่ากลุ่มขัดแย้ง หลีกเลี่ยงเหตุปะทะเลือดซ้ำรอย ชี้เมืองไทยกำลังเสี่ยงเจอสถานการณ์ปะทะนองเลือดรอบใหม่ เพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งยอมเจรจา

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ว่า นักวิเคราะห์ระบุว่า เมืองไทยจะต้องหาฉันทามิตทางการเมืองที่สามารถยอมรับได้กับทุกกลุ่มขัดแย้ง เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ปะทะนองเลือดซ้ำรอยซึ่งจะเขย่าภาพลักษณ์สยามเมืองยิ้มของเมืองไทย โดยความจำเป็นที่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหญ่ยิ่ง หลังจากเมืองไทยต้องเผชิญเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายโจมตีถนนสีลม ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และเหตุการณ์ปะทะเลือดที่ถนนราชดำเนินเมื่อ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา

นายไมเคิล มอนเตซาโน ผู้เชี่ยวชาญแห่งสถาบันศีกษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แสดงทัศนะว่า การที่บรรยากาศการชุมนุมไทย กลายเป็นเหตุรุนแรง เป็นผลจากความเก็บกดที่ถูกซ่อนในสังคมไทย และทำให้สังคมไทยทั้งมวลได้ประจักษ์เห็นว่า ความรุนแรงนั้นซึ่งซ่อนอยู่ภายใต้สถานการณ์ชุมนุมเครียด

นอกจากนี้ เอเอฟพีรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังเป็นศูนย์กลางของการขัดแย้ง โดยการโกรธแค้นต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ถือว่าเป็นอันตรายต่อเมืองไทยมากกว่าตัว พ.ต.ทงทักษิณเอง เพราะรัฐบาลไทยเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ร้ายต่าง ๆ ทำให้ปฎิเสธที่จะเจรจาและประนีประนอม ขณะที่ในอนาคตข้างหน้า สิ่งที่น่าวิตกมากกว่าก็คือ การต่อสู้บนท้องถนนของคนไทย โดยแม้ว่า เมืองไทยจะเป็นสังคมแห่งฉันทามติส่วนใหญ่ แต่เมื่อถึงจุดที่เปราะบางที่สุด มันก็พร้อมจะปะทุเป็นความรุนแรงได้

นอกจากนี้ นายมอนเตซาโน ชี้ด้วยว่า ขณะนี้หลายฝ่ายวิตกว่า กลุ่มต่าง ๆ จะใช้ความรุนแรงก่อนการเจรจา โดยขณะนี้มีความรู้สึกว่า หากเมืองไทยเกิดเหตุการณ์นองเลือดอย่างมากพอ ก็จะทำให้ทุกฝ่ายหันมานั่งลงเจรจากันได้


ที่มา.มติชนออนไลน์
***********************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น