--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพฤหัสบดีที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2553

กลุ่มแตกแถว

และแล้วก็เกิดขึ้น!กับเหตุการณ์ที่ “ประชาชน” กับ “ประชาชน” ซึ่งมีความคิดเห็นแตกต่างทางการเมือง...ก่อเหตุปะทะเกือบกลายเป็น “สงครามกลางเมือง” ล้างเผ่าพันธุ์คนไทยถึงเวลานี้ผมยังมองว่า...สิ่งสำคัญที่สุดของการต่อสู้ของ “ประชาชนหลายกลุ่ม” ระหว่าง เสื้อแดง เสื้อหลากสี และ เสื้อเหลืองคือการใช้ “ความอดทน” อย่างยิ่งยวด“คนเสื้อแดง” มีเป้าหมายคือการเรียกร้อง “ความยุติธรรม” ให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง...โดยให้รัฐบาล “ยุบสภา”“คนเสื้อหลากสี”

ต้องการให้บ้านเมืองกลับมาสงบสุข...โดยให้คนเสื้อแดงยกเลิกการชุมนุม...และสนับสนุนให้รัฐบาลทำงานต่อไปจนครบวาระ“คนเสื้อเหลือง” มีแนวคิดเช่นเดียวกับคนเสื้อหลากสี...เพียงแต่ “แกนนำ” ผู้สั่งการยังนั่งดูอยู่ในที่มั่น...คนทุกกลุ่มต่างมี “จุดยืน” แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้มีคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งทำตัว “แตกแถว” ไม่ยอมรับการชุมนุมของกลุ่มคนฝ่ายตรงข้ามโดยเฉพาะความต้องการ “เอาชนะคะคาน” และยั่วยุปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรงข้อเรียกร้อง สงบ สันติ ไม่ใช้

ความรุนแรง...อยากให้หันหน้ามาเจรจากันทั้งผู้ชุมนุมเสื้อแดงและรัฐบาล...รวมไปถึงไม่อยากให้คนไทยทะเลาะกันและกล่าวทิ้งท้าย...คนไทยทุกคนควรหันหน้ามาปรองดอง!แต่สิ่งเหล่านี้เป็นเพียง “คำพูด” ซึ่งพวกเขาไม่มีความจริงใจต่อการนำมาปฏิบัติ...ทำให้มองได้ว่าเป็น “พวกอีแอบ” ไม่กล้าเปิดเผยและที่สำคัญคือการแสดงตัว “เป็นมือเป็นเท้า” ของผู้มีอำนาจใครบางคนคำถามจึงมีว่า...คนเหล่านี้เข้ามา “แอบแฝง” เพื่อหวังผลประโยชน์อันใดเพราะเพียงข้าม

คืน...พวกเขาได้เปลี่ยนจิตเปลี่ยนใจ...โดยเฉพาะ “ลักษณะนิสัย” และ “ความประพฤติ” ได้อย่างรวดเร็ว เชื่อเถิดว่า...ไม่มีประเทศชาติใดพัฒนาเดินหน้าด้วยการที่ประชาชนหันหน้ามาเป็นศัตรู “ห้ำหั่น” กันเองมันมีแต่สร้าง “ความฉิบหาย” และเปิดทางให้ผู้เป็นทรราชสร้างความร่ำรวยและมั่งคั่งทางอำนาจ “กดหัวหดขี่” โดยไม่เปลืองแรงน่าเสียดายที่คนเหล่านี้ปากบอก “รักชาติ” แต่การกระทำนั้นไม่ต่างกับโจร!

คอลัมน์.ปัญหาโลกแตก
โดย.ภูผาหิน
*********************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น