--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552

ซัด ป.ป.ช.โหมไฟขัดแย้ง"บิ๊กจิ๋ว"ถามผู้ใหญ่ในชาติคิดอะไรจึงสร้างปัญหา


ที่มา:หนังสือพิมพ์โลกวันนี้
“บิ๊กจิ๋ว” ผิดหวังถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดสลายม็อบพันธมิตรฯ ทั้งที่ตลอดชีวิตไม่นิยมความรุนแรง มุ่งแต่แนวทางสมานฉันท์ ตั้งคำถามปริศนาผู้ใหญ่ในประเทศชาติคิดอะไร แทนที่จะใช้ ป.ป.ช. เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแต่กลับสร้างปัญหาขึ้นมาอีก “สมชาย” ให้เปรียบใช้แก๊สน้ำตาสลายม็อบพันธมิตรฯกับ “อภิสิทธิ์” ใช้ทหารถือปืนสลายเสื้อแดงอันไหนแรงกว่ากัน สงสัยเชื่อมโยงเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ เพราะทำให้ “พัชรวาท” ร่วมลงมติไม่ได้ ด้านทนายนำ 6 เสื้อแดงที่บาดเจ็บจากเหตุการณ์สงกรานต์เลือดเข้าแจ้งความเอาผิดนายกฯ-ผบ.สส. ฐานสั่งการและคุมปฏิบัติสลายการชุมนุม เล่นข้อหาหนักพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เตรียมยื่น ป.ป.ช. สอบเอาผิดพร้อมฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย ด้าน ผบ.สส. ไม่วิตก มั่นใจทำตามกรอบกฎหมาย

หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ในฐานะอดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้มีความผิดร้ายแรงกรณีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 เนื่องจากเห็นว่าเป็นการประทำที่รุนแรง ทำให้มีคนบาดเจ็บและเสียชีวิต

เสื้อแดงดำเนินคดีนายกฯ-ผบ.สส.
จากมติดังกล่าวทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงที่ได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมของตำรวจและทหารระหว่างวันที่ 12-14 เม.ย. ที่ผ่านมา 6 คน พร้อมนายคารม พลทะกลาง ทนายความ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นผู้ประกาศให้พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลเป็นพื้นที่ที่มีสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง และให้ดำเนินคดีกับ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีในการสลายการชุมนุม ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และในฐานะเป็นผู้ใช้ผู้อื่นพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 80 และ 84
ยื่น ป.ป.ช. สอบเอาผิดพ่วงฟ้องแพ่ง

นายคารมระบุว่า ที่เข้ามาแจ้งความเพราะเห็น ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่รัฐในการสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯที่หน้ารัฐสภา ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นรุนแรงน้อยกว่าการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง เพราะไม่มีการใช้อาวุธปืน

ผมได้นำเทปบันทึกเหตุการณ์และคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีที่สั่งสลายการชุมนุมมาเป็นหลักการฐานด้วย และวันที่ 11 ก.ย. นี้จะไปยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. ให้สอบเอาผิดเหมือนกับกรณีของนายสมชาย และสัปดาห์หน้าจะไปฟ้องศาลแพ่งเรียกค่าเสียหายด้วย” นายคารมกล่าว
ผบ.สส. ไม่วิตกเพราะทำตามกฎหมาย

พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. กล่าวว่า ไม่กังวลที่ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงแจ้งดำเนินคดี เพราะทำหน้าที่ตามกรอบของกฎหมายรัฐธรรมนูญและระเบียบกองทัพ

ผมไม่เห็นต้องเกรงอะไรกับการต้องทำหน้าที่นี้ต่อไป เกรงไม่ได้ ถ้าเกรงก็ต้องลาออกไป และไม่จำเป็นต้องเตรียมข้อมูลอะไรเพราะไม่ได้ทำอะไรผิด” ผบ.สส. กล่าว
“สมชาย” ชี้ม็อบ พธม. มีทั้งปืน-ระเบิด

ที่พรรคเพื่อไทย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงอีกครั้งถึงมติชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช. ว่าเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 เกิดจากกลุ่มคนไปปิดล้อมรัฐสภาและนำอาวุธปืน ระเบิด และมีดไปด้วย ตำรวจจึงต้องทำหน้าที่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งต้องให้กำลังใจตำรวจในการทำหน้าที่ไม่ใช่ได้รับข้อกล่าวหา ไม่อย่างนั้นแล้วต่อไปหากเกิดเหตุอะไรขึ้นตำรวจก็ไม่กล้าทำงาน บ้านเมืองก็จะยิ่งวุ่นวาย
ยันมติ ครม. ให้รักษาความสงบ

นายสมชายยืนยันว่า มติการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษวันที่ 6 ต.ค. 2551 ได้มอบหมายให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ติดตามตรวจสอบสถานการณ์และกำกับดูแลการรักษาความสงบเรียบร้อยในวันประชุมร่วมกันของรัฐสภา โดยให้ประสานสั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ให้เทียบสลายเสื้อเหลือง-เสื้อแดง

มติ ครม. มีเพียงเท่านี้ ไม่มีเรื่องสั่งสลายการชุมนุม ที่ผมพูดอย่างนี้ไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ แต่เอาความจริงมาเล่าให้ฟัง และผมอยากให้นำเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. มาเปรียบเทียบกับการสลายการชุมนุมในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านจะเห็นว่าแตกต่างกันมาก” นายสมชายกล่าวและว่า ที่ผ่านมาพยายามแก้ข้อกล่าวหาของ ป.ป.ช. พยายามขอตรวจเอกสารตามกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ให้สิทธิกับผู้ถูกกล่าวหา โดยร้องไปที่คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารแห่งชาติและศาลปกครอง แต่ปรากฏว่า ป.ป.ช. ไม่รอ รีบตัดสิน

ผู้สื่อข่าวถามว่าการตัดสินของ ป.ป.ช. จะเกี่ยวข้องกับการเลือก ผบ.ตร.คนใหม่หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ผลคือ พล.ต.อ.พัชรวาทจะเข้าประชุมคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) เพื่อเลือก ผบ.ตร. คนใหม่ไม่ได้

“บิ๊กจิ๋ว” ผิดหวังคำตัดสิน ป.ป.ช.

พล.ท.เชวงศักดิ์ ทองสลวย นายทหารคนสนิทของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เปิดเผยว่า พล.อ.ชวลิตรู้สึกเสียใจที่ ป.ป.ช. วินิจฉัยออกมาแบบนี้ เพราะตลอดชีวิต พล.อ.ชวลิตไม่มีแนวคิดเรื่องใช้ความรุนแรง ยึดแนวทางสมานฉันท์มาโดยตลอด จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะสั่งให้เจ้าหน้าที่เข่นฆ่าประชาชน
ตั้งคำถามปริศนาผู้ใหญ่ในชาติคิดอะไร

หนังสือลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีระบุชัดเจนว่า หากยังไม่สามารถเปิดเส้นทางได้ก็ให้ยุติไว้ก่อนเพื่อให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายการเมือง น่าเสียใจที่ ป.ป.ช. ไม่ใช้เอกสารดังกล่าวประกอบการวินิจฉัย” พล.ท.เชวงศักดิ์กล่าวและว่า พล.อ.ชวลิตรู้สึกเสียใจ และไม่ทราบว่าผู้ใหญ่ในประเทศชาติคิดอะไร เพราะ ป.ป.ช. ตั้งขึ้นมาเพื่อหาความยุติธรรม เป็นองค์กรอิสระเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา แต่ ป.ป.ช. กลับมาสร้างปัญหาเองในที่สุด
“พัชรวาท” เข้าทำงานตามปรกติ
ด้านความเคลื่อนไหวของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ยังเข้าทำงานที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตามปรกติ และยังมีท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใส โดยได้ทักทายกับสื่อมวลชนที่มารอสัมภาษณ์สั้นๆว่า “ยังทำงานตามปรกติและจะอยู่ที่นี่ทั้งวัน เว้นแต่จะมีภารกิจไปข้างนอก”
ขณะที่การเคลื่อนไหวของ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ไม่ได้เข้าปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 จังหวัดขอนแก่น โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่า พล.ต.ท.สุชาติเดินทางเข้ากรุงเทพฯ และมีกำหนดปฏิบัติหน้าที่ในกรุงเทพฯประมาณ 1 สัปดาห์
ป.ป.ช. ยันต้องหยุดทำหน้าที่ทันที
น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า พล.ต.อ.พัชรวาทและ พล.ต.ท.สุชาติที่ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที การสั่งการใดๆหลัง ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดจะไม่มีผลทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม การจะให้ข้าราชการยุติการปฏิบัติหน้าที่ขึ้นอยู่กับคำสั่งของนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้บังคับบัญชาด้วย
ส่วนกรณีที่ผู้ถูกชี้มูลความผิดไม่พอใจมติของ ป.ป.ช. นั้น น.ส.สมลักษณ์กล่าวว่า ต้องไปต่อสู้ในชั้นศาล เพราะการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช. สิ้นสุดแล้ว
“มาร์ค” ยังไม่เชือด ผบ.ตร.
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับมติจาก ป.ป.ช. อย่างเป็นทางการ ก่อนจะมีคำสั่งใดกับ พล.ต.อ.พัชรวาทต้องรอให้ ป.ป.ช. ยืนยันมติมาก่อน ซึ่งตนมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนที่เกรงกันว่าอาจทำให้มีปัญหากับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พี่ชายของ พล.ต.อ.พัชรวาทนั้น คิดว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะเป็นเรื่องกฎหมายที่ทุกคนทราบดีว่ากระบวนการเป็นอย่างไร
พันธมิตรฯไล่ฟ้องแพ่ง-อาญาผู้เกี่ยวข้อง
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า แม้มติ ป.ป.ช. ที่ออกมายังไม่น่าพอใจ 100% เพราะยังมีผู้เกี่ยวข้องอีกหลายคนที่ไม่ถูกดำเนินคดี แต่ทนายพันธมิตรฯจะเดินหน้าฟ้องร้องผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งทางแพ่งและอาญาจนถึงที่สุดต่อไป และจะติดตามว่านายอภิสิทธิ์จะมีความกล้าหาญดำเนินการกับ พล.ต.อ.พัชรวาทอย่างไร จะเลือกผลประโยชน์ของประเทศชาติหรือตัวเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น