--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2552

พันธมิตรฯจัดทัพใหญ่ 5 แกนนำเตรียมถกทวงคืนที่ทับซ้อนพระวิหาร


5 แกนนำพันธมิตรฯยืนยันไม่ได้ลอยแพ “วีระ” ให้สู้โดดเดี่ยวในการเคลื่อนไหวทวงคืนพื้นที่ทับซ้อน เตรียมประชุมเพื่อกำหนดแนวทางเคลื่อนไหวใหญ่เร็วๆนี้ จี้รัฐบาลพูดให้ชัดมีวิธีปฏิบัติและกรอบเวลาอย่างไร อย่าดีแต่อ้างอยู่ระหว่างเจรจากับเขมรแต่ไม่มีผลคืบหน้า “อภิสิทธิ์” ระบุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ข้อมูลบางเรื่องเปิดเผยไม่ได้เพราะจะทำให้ไทยเสียเปรียบ ลูกพรรค ปชป. แนะพันธมิตรฯถามข้อมูลจาก “กษิต” ด้าน “บุญยอด” ปูดทีมแพทย์เชี่ยวชาญโรคมะเร็ง 5 คนบินไปดูไบเพื่อรักษาอดีตนายกฯ แกนนำเสื้อแดงเผยรอดูผลคดีสำคัญที่จะทยอยตัดสินกันในเดือน ก.ย. ถึงต้น ต.ค. เพื่อประเมินสถานการณ์ก่อนกำหนดแนวทางเคลื่อนไหวอีกครั้ง

การชุมนุมใหญ่ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดินที่ผ่านพ้นไปด้วยดี และการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่จังหวัดศรีสะเกษที่เกิดการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับชาวบ้านจนมีผู้บาดเจ็บ

“มาร์ค” ย้ำเน้นเจรจาแก้ปัญหาพระวิหาร
เกี่ยวกับเรื่องนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่อยากให้คนไทยมีปัญหากันเอง และไม่อยากเห็นการปะทะเกิดขึ้นอีก ส่วนแนวทางแก้ปัญหาพิพาทกับกัมพูชานั้นจะเน้นการเจรจา แม้จะมีการส่งกำลังเข้าไปแต่ไม่อยากให้เกิดการปะทะ เพราะจะกลายเป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ
ไม่เสียสิทธิ-ไม่เพลี่ยงพล้ำแน่นอน

“ผมขอให้ความมั่นใจว่าเราไม่เสียสิทธิ์ ไม่เพลี่ยงพล้ำ และรัฐบาลไม่มีอะไรแอบแฝงหรือซ่อนเร้น แต่มีเจตนาที่จะรักษาดินแดน” นายอภิสิทธิ์กล่าวพร้อมอ้างว่ามีหลายเรื่องที่ไม่สามารถพูดในที่สาธารณะได้เพราะมีความละเอียดอ่อนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และจะกระทบความได้เปรียบเสียเปรียบของไทย

“สุเทพ” ยันม็อบตีกันจัดการตามกฎหมาย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การปะทะกันที่ศรีสะเกษต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย และไม่ขอวิจารณ์การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯที่มักมีความรุนแรงเพราะไม่อยากสร้างเงื่อนไขอะไรขึ้นมาอีก ส่วนการชุมนุมของคนเสื้อแดงก็ต้องขอบคุณที่อยู่ในกรอบกฎหมาย ทำให้ผ่านพ้นไปด้วยดี
แฉหมอมะเร็งบินไปรักษา “ทักษิณ”

นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ อ้างว่ามีเพื่อนที่รู้จักกับแพทย์ของโรงพยาบาลพระราม 9 บอกให้ฟังว่าแพทย์ของโรงพยาบาลที่เชี่ยวชาญเรื่องโรคมะเร็ง 5 คนได้เดินทางไปที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทำให้มีคำถามว่าไปเพื่อรักษาอาการป่วยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่

ท้าอดีตนายกฯโชว์ผิวหนัง-เสยผม
“ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ป่วยก็ขออย่าใส่เสื้อแขนยาว และขอให้ปัดผมให้ดูหน่อย เพราะมีคนตั้งข้อสังเกตว่า พ.ต.ท.ทักษิณใส่วิกและใส่เสื้อแขนยาวปกปิดผิวหนัง” นายบุญยอดกล่าวและว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากอย่างที่เคยมีข่าวออกมาก่อนหน้านี้

จี้พันธมิตรฯดูข้อมูลพระวิหารที่ “กษิต”
นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้พันธมิตรฯสอบถามข้อมูลเรื่องเขาพระวิหารจากนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่มีความใกล้ชิดกัน ซึ่งดีกว่าการชุมนุมเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน

นายสาธิตปฏิเสธด้วยว่า รัฐบาลไม่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรฯจัดชุมนุมเพื่อดึงความสนใจของประชาชนออกจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างที่ถูกกล่าวหา เข้าใจว่าแกนนำพันธมิตรฯบางส่วนที่รู้ข้อมูลก็เข้าใจรัฐบาลดี และไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม

ตร. ไม่พบเสื้อแดง-“แม้ว” พาดพิงใคร
พ.ต.อ.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า จากการติดตามการปราศรัยของแกนนำคนเสื้อแดงและการวิดีโอลิ้งค์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เบื้องต้นยังไม่พบว่าพาดพิงให้บุคคลใดได้รับความเสียหาย แต่จะต้องตรวจสอบรายละเอียดจากเทปที่บันทึกไว้อีกครั้งหนึ่ง
แกนนำเสื้อแดงหยุดประเมินสถานการณ์

นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า หลังการชุมนุมใหญ่วันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมาจะยุติการชุมนุมชั่วคราว แต่อาจมีการชุมย่อยบ้างตามต่างจังหวัด เพื่อทำกิจกรรมร่วมกับคนเสื้อแดงในพื้นที่
“ช่วงนี้ต้องหยุดรอดูเพื่อประเมินสถานการณ์ก่อน เพราะหลังจากนี้จะมีการตัดสินคดีความสำคัญๆต่างๆหลายคดี จึงต้องการรอดูผลคดีก่อน จากนั้นจึงจะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง” นายจตุพรกล่าว
อัดรัฐตื่นตูมผลาญงบรักษาความมั่นคง

นายจตุพรกล่าวอีกว่า การชุมนุมที่ผ่านมาคนเสื้อแดงได้แสดงให้เห็นแล้วว่าการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธตามสิทธิในรัฐธรรมนูญนั้นเป็นอย่างไร แต่รัฐบาลกลับตื่นตูม ประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงฯ และนำกำลังตำรวจ ทหารออกมาจำนวนมาก ทำให้เสียงบประมาณโดยไม่จำเป็น เพราะตำรวจ ทหารที่ออกมามีเบี้ยเลี้ยงวันละ 180-240 บาท ใช้กำลังตั้ง 66 กองร้อย คิดดูเองว่าหมดเงินไปเท่าไร
พันธมิตรฯขึ้นผามออีแดงอ่านแถลงการณ์

ด้านการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯในวันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมาได้ส่งตัวแทน 30 คนขึ้นไปอ่านแถลงการณ์ที่ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ

นายวีระ สมความคิด แกนนำผู้ชุมนุม อ่านแถลงการณ์ในนามภาคีเครือข่ายประชาชนทวงคืนแผ่นดินไทยรอบปราสาทพระวิหาร ฉบับที่ 1 มีข้อเรียกร้องหลัก 2 ข้อคือ จะมีการดำเนินการทุกวิถีทางตามกรอบกฎหมายทวงคืนแผ่นดินไทยรอบปราสาทพระวิหารให้กลับคืนมาเป็นของราชอาณาจักรไทยดังเดิมทั้งในทางพฤตินัยและนิตินัย และดำเนินการเอาผู้กระทำความผิดที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือสมรู้ร่วมคิดทำให้ดินแดนไทยต้องถูกรุกล้ำ หรือเสียดินแดนมารับโทษทางกฎหมายจนถึงที่สุด
ยันแกนนำ 5 คนไม่ได้ทอดทิ้ง “วีระ”

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของประชาชนทวงคืนพื้นที่เขาพระวิหารแม้ไม่ได้ทำตามมติของแกนนำพันธมิตรฯทั้ง 5 คน แต่ถือว่าเป็นสิทธิและหน้าที่ของคนไทยที่ต้องพิทักษ์และหวงแหนอธิปไตยของชาติ ซึ่งสมควรได้รับการคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับ

อ้างรัฐปลุกระดมจนเกิดปะทะ
“การชุมนุมจะไม่มีความรุนแรงหากไม่มีคนของรัฐไปบิดเบือนข้อมูลปลุกระดมมวลชนมาขัดขวาง” นายสุริยะใสกล่าวพร้อมยืนยันว่า แกนนำพันธมิตรฯไม่ได้ลอยแพนายวีระอย่างที่สื่อบางแขนงเสนอข่าว แม้เรื่องนี้จะไม่ใช่มติของ 5 แกนนำ แต่เครือข่ายพันธมิตรฯทั่วประเทศมีอิสระในการตัดสินใจเข้าร่วมการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะนายวีระสนใจติดตามเรื่องเขาพระวิหารมาตลอด ซึ่งแกนนำทั้ง 5 คนก็เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องให้รัฐบาลผลักดันชาวกัมพูชาออกไปจากพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งพวกเราเห็นด้วยกับการเจรจาไม่สนับสนุนการทำสงคราม แต่รัฐบาลต้องกำหนดกรอบเวลาและแนวทางปฏิบัติให้ชัดเจน ไม่ใช่อ้างว่าอยู่ระหว่างเจรจาแต่ไม่มีความคืบหน้า ซ้ำร้ายการเจรจายังมีเงื่อนงำเรื่องผลประโยชน์ด้านพลังงานเข้ามาปะปนด้วย

5 แกนนำเตรียมถกเคลื่อนไหวใหญ่
“แกนนำทั้ง 5 คนให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้มาโดยตลอด และจะหาทางเคลื่อนไหวต่อไปเพื่อทวงคืนอธิปไตยของชาติกลับคืนมา ซึ่งเร็วๆนี้คงมีการหารือกันในที่ประชุม 5 แกนนำถึงมาตรการและแนวทางในการเคลื่อนไหวใหญ่” นายสุริยะใสกล่าว

โพลไม่เชื่อร้องเพลงชาติทำให้คนรักกัน
ด้านสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อโครงการ “ไทยสามัคคี ไทยเข้มแข็ง” หลังจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน นำคณะรัฐมนตรีร่วมกันร้องเพลงชาติไทยในเวลา 18.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เปิดโครงการเพื่อลดบรรยากาศความตึงเครียดทางการเมือง

ผลสำรวจพบว่าแม้ผู้ตอบแบบสอบถามจะเห็นว่าเป็นโครงการที่ดี ทำให้ภูมิใจในความเป็นคนไทย แต่เสียงส่วนใหญ่ร้อยละ 36.49 ไม่แน่ใจว่าโครงการนี้จะทำให้เกิดความรักความสามัคคีได้จริงหรือไม่ ร้อยละ 32.85 เชื่อว่าจะทำให้มีความสามัคคีมากขึ้น และร้อยละ 30.66 ไม่เชื่อว่าจะทำให้เกิดความสามัคคีเพิ่มขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น