--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552

จตุพรเผยพันธมิตรใช้ คลิปพัทยา'แบล็กเมล์'มาร์ค ม.7




ข่าวสด : เมื่อเวลา 13.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณจากสำนักนายกรัฐมนตรี 300 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ทีเอเอ็น ที่มีน.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ เป็นผอ.สถานี ว่า ขณะนี้ตนมีหลักฐานเป็นเอกสารชัดเจนหมดแล้วว่ารัฐบาลโยกงบประมาณในส่วนไหนไป และจะเตรียมเป็นข้อมูล เพื่อนำไปตั้งกระทู้ถามในวันที่ 1 ต.ค. ที่จะถึงนี้

เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะหากเปรียบเทียบกันแล้ว หากในรัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ หรือนายสมัคร สุนทรเวช ให้เงินสนับสนุนพีเพิลแชแนล ก็อยู่ไม่ได้ แต่นี่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เอาเงินงบประมาณที่กู้มา ไปให้กับเครือข่ายเอเอสทีวีของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่เป็นผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย อย่างนี้ชาวบ้านจะยอมได้อย่างไร และจำนวนเงินที่มากถึง 300 ล้านบาท เอาไปใช้อะไร หากเอาเงินจำนวนนี้มาเปิดสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมได้ตั้ง 40 กว่าสถานี ดังนั้นจึงคิดเป็นอื่นไม่ได้ว่าเป็นการสมยอมรับใช้เขา
“ผมเองก็สงสัยว่าทำไมต้องยอมเป็นทาสเขาอย่างนี้ ทั้งเรื่องโยนงบประมาณ 300 ล้านบาท หรือการแต่งตั้งผบ.ตร. ก็ไปได้ยินมาว่า ที่ยอมเป็นทาสเขาขนาดนี้ ก็เพราะไปถูกเขาแอบถ่ายคลิปที่พัทยาแล้วถูกเอามาแบล็คเมล์ ซึ่งผมก็ไม่อยากจะเชื่อว่าคนหน้าตาดีๆ จะไปมีพฤติกรรมอย่างนี้ได้ เรียกได้ว่ากลับบ้านไปถูกเมียตีแน่นอน” นายจตุพร กล่าว

นายจตุพร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ยอมช่วยเหลือกลุ่มพันธมิตรฯ โดยพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รักษาการผบ.ตร. ที่ไปลดข้อกล่าวหาการยึดทำเนียบรัฐบาล จากเดิมที่เป็นการก่อการร้าย ก่อกบฎในราชอาณาจักร ที่มีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต เป็นแค่การบุกรุกสถานที่ราชการ มีความเสียหายแค่ 6 ล้านบาท โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีเท่านั้น แต่กับคนเสื้อแดงที่ชุมนุมข้างทำเนียบโดนข้อกล่าวหาจำคุกไม่เกิน 7 ปี แต่ยึดทำเนียบโดนแค่ 3 ปี แล้วขอให้คอยดูต่อไปว่าสุดท้ายคงมีแค่โทษปรับ เพราะเขาช่วยกันกันทั้งหมด จึงอยากบอกพล.ต.อ.ธานี ไว้ว่าเรื่องอย่างนี้คนเสื้อแดงยอมไม่ได้แน่นอน และขอให้ระวังว่าจะติดคุกตอนแก่ เพราะไปนั่งประชุมร่วมกับพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง เพื่อคลี่คลายคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล โดยไปพูดจาว่าจะอุ้มคนนั้นคนนี้ แต่สุดท้ายโดนบันทึกคำสนทนาเหล่านี้ไว้ และจะถูกดำเนินคดีแน่นอน

ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะภารกิจของสำนักนายกฯไม่มีหน้าที่สนับสนุนสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมช่องใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้านายจตุพร มีพยานหลักฐานขอให้เปิดเผยออกมา ตนพร้อมให้ตรวจสอบอย่างเต็มที่ ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเป็นการกุเรื่องเท็จ โกหกสร้างความเสียหายให้แก่สำนักนายกและตน ซึ่งพบว่าได้มีการขยายผลในวิทยุชุมชนของกลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งถ้านายจตุพร ไม่มีหลักฐานมายืนยัน เท่ากับว่าเป็นการโกหก ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยออกมายอมรับเสียว่าโกหกเพื่อหวังผลทางการเมือง

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ยังกล่าวถึงภาพเหตุการณ์กลุ่ม นปช. บุกเข้าไปในกระทรวงมหาดไทย และทุบรถนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นกรณีที่กลุ่มนปช. ระบุว่านายกฯไม่ได้อยู่ในรถ ว่า ทางสำนักนายกฯ นำภาพเหตการณ์ดังกล่าวที่เห็นว่านายกฯนั่งอยู่ในรถ เผยแพร่ใน http://factreport.go.th/photo/2009-04-12/426 ซึ่งเป็นภาพที่มีช่างภาพหนังสือพิมพ์ถ่ายไว้ได้ แล้วนำมามอบให้กับนายกฯในภายหลัง ซึ่งภาพนี้เห็นชัดเจนว่านายกฯ อยู่ในรถตลอดเวลาที่กระทรวงมหาดไทย เพราะนักข่าวล่างภาพวิ่งถ่ายรูปตลอดเวลา ดังนั้นถือเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า นายจตุพร พูดนั้นไม่เป็นความจริง ถือเป็นความเท็จทั้งสิ้น ทั้งนี้จะส่งภาพเหตุการณ์ดังกล่าว ไปให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของสภา เพื่อตรวจสอบต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น