--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

จับอาการ หญิงหน่อย. ก่อนคืนฟอร์ม แม่ทัพ พท. !!?

คำพูดที่ว่า “โอกาสในวิกฤติ” ยังคงใช้ได้อยู่เสมอ แม้ในยามที่ประชาชนคนกรุงเทพฯ กำลังประสบกับชะตากรรมจากการสำลักน้ำที่ไหลเอ่อท่วมพื้นที่เมืองกรุงในหลายๆ พื้นที่ แต่ดูเหมือนว่าเรื่องของ “การ เมือง” ที่เคยสร้างความบอบ ช้ำให้กับสังคมไทยหาได้จางหายไปกับมวลน้ำที่ไหลบ่าท่วมพื้นที่เมืองกรุงแห่งนี้ไม่ แต่ยังคงมีให้เห็นมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นกรณีนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กับ นายพายัพ ปั้นเกตุ ส.ส.พรรคเพื่อไทย หรือจะเป็นกรณีระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าฯ กทม. รวมถึงใครต่อใครที่ปรากฎบนหน้าสื่อต่างๆ เรียกว่ามีให้เห็นมาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งๆ ที่สังคมไทยในช่วงที่ผ่านมาแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการใช้วาทกรรมทางการเมืองแก้ปัญหาน้ำท่วม ดังจะเห็นได้จากผลการสำรวจของเอแบคโพลระบุว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 83.6 ทุกข์ใจมากถึงมาก ที่สุด เมื่อได้ยินข่าวความขัดแย้งทาง การเมืองในช่วงที่ชาวบ้านประสบภัยน้ำท่วม และร้อยละ 81.1 อยากเห็นความร่วมมือกันแก้ปัญหาภัยพิบัติน้ำท่วมระหว่างแกนนำพรรคเพื่อไทย กับผู้ว่าฯ กทม.จากพรรคประชาธิปัตย์ แต่จนแล้วจนรอดน้ำลายการเมืองก็ยังคงผสมปนเป อยู่กับกระแสน้ำที่ไหลเอ่อท่วมคนเมืองกรุงอย่างไม่รู้เหน็ดจักเหนื่อย

การปรากฏตัวครั้งแรกของ “คุณหญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย หลังจากที่ก่อนหน้านี้สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ได้พาเหรดมุดเข้าศูนย์เฉพาะกิจแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพร้อมแอ็กชั่นความเป็นมืออาชีพอย่างเต็มที่ โดยการปรากฏตัวของคุณหญิงในครั้งนี้ได้รับการยืนยันว่าไม่ได้รับคำสั่งจากใคร แถมมีข่าวไล่หลังจากพรรคเพื่อไทยว่า การที่ “คุณหญิง” เข้ามาข้องแวะกับปัญหาน้ำท่วมโดยลงพื้นที่และร่วมประชุมศปภ. สร้างความไม่พอใจให้กับส.ส. บางกลุ่มเนื่อง จากมองว่าการกระทำเช่นนี้ของคุณหญิง เป็นการขโมยซีนการแก้ปัญหาน้ำท่วม และการเข้ามาในครั้งนี้ก็เพื่อหวังที่จะสร้างฐานเสียงให้กับตัวเองในการลงรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กทม.ในครั้งหน้า เช่นเดียวกับเสียงที่สะท้อนผ่านสมาชิกพรรคปชป.

อย่างไรก็ตาม พลันสิ้นเสียงลือเสียงเล่าอ้างจบลง นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. ในฐานะประธานภาคกทม. พรรคเพื่อไทย รวมถึงส.ส.ของพรรค ได้ออกมาตอบโต้พร้อมตำหนิพรรคปชป.ว่ากลัวเกินเหตุเล่นการเมืองเกินพอดีทั้งที่ประชาชนกำลังทุกข์ยาก ตนเป็นประธานภาคยังไม่เคยได้ยินคุณหญิงพูดว่าจะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ทั้งๆ ที่มีส.ส.ขอร้องหลายครั้ง คนที่พูดว่าคุณหญิงจะลงสมัครผู้ว่าฯ ก็มีแต่ปชป. เท่านั้นที่ออกมาพูดเตะตัดขา การที่คุณหญิงออกมาช่วยเหลือเรื่องน้ำท่วมในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่ต่อสู้กับน้ำท่วมใหญ่มาตั้งแต่ปี 38 จึงรู้ปัญหาดังกล่าวดี

เช่นเดียวกับ จิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรค เพื่อไทย ส.ส.กทม.เขตคลองสามวา ที่ออกมาระบุ ว่าตนเคยเรียกร้องไปยังพรรคปชป.และผู้ว่าฯ กทม. ขอให้พรรคปชป.หยุดเล่นเกมการเมืองแล้วรวมใจกันช่วยชาวบ้านจะดีกว่า
2.ขอให้ผู้ว่าฯ กทม.ปลอดการเมือง เลิกอิงแอบพรรค ปชป.ชั่วคราวจนกว่าน้ำจะลด 3.ขอให้ผู้ว่าฯ กทม.สั่งการไปยังผอ.เขตที่อยู่ในแนวเสี่ยงให้ทำงานบูรณาการกับส.ส.พื้นที่ โดยไม่เกี่ยงว่าจะเป็นพรรคการเมืองใด 4.ขอให้ ส.ส.กทม.ของพรรคปชป.ที่ไม่อยู่ในแนวน้ำท่วมหยุดใช้ปากแก้ปัญหาและหันมาร่วมมือกับส.ส.ทุกพรรคการเมืองที่อยู่ในแนวน้ำท่วม 5.ขอให้นายอภิสิทธิ์ร่วมแก้ไขปัญหากับรัฐบาล

ประเด็น “คุณหญิงหน่อย” ที่มาปรากฏกายในวันที่มวลน้ำอันเชี่ยวกรากกำลังถล่มกรุงเทพฯ เป็นสิ่งที่สังคมกำลังเฝ้าจับจ้องติดตามกันอยู่ โดยเฉพาะใกล้วันที่สมาชิกบ้านเลขที่ 111 พ้นจากการถูกจองจำในเดือนพฤษภาคมปีหน้า เธอกำลังจะคืนความเป็นนักการเมืองแถวหน้าคนสำคัญในสนามกรุงเทพฯ สนามเดียวที่พรรคเพื่อไทยหมายจะยึดคืนจากพรรคปชป.แต่ดูเหมือนว่าตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา “ขุนพล” หรือ “แม่ทัพ” ในการออกกรำศึกในสนามไม่เป็นที่ยอมรับทั้งจากคนในพรรคและคนกรุงเทพฯ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมผลการเลือกตั้งทั้งในสนามท้องถิ่นรวมไปจนถึงระดับชาติพรรคเพื่อไทยจึงไม่ประสบความสำเร็จ

การกลับมาของ “คุณหญิง” ในครั้งนี้แม้จะไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนว่าถึงที่สุดแล้วเธอจะเบนเข็มทิศการเมืองด้วยการพลิกบทหันมาลงสมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.หรือไม่ แต่อย่างน้อย ๆ เป็นการส่งสัญญาณผ่านไปยังมวลหมู่สมาชิกพรรครวมถึงคอการเมืองได้รับรู้รับทราบว่าใกล้เวลาที่ “แม่ทัพ” หญิงคนนี้จะคืนสังเวียนการเมืองเต็มตัวอีกครั้ง ขณะเดียวกันสนามกรุงเทพฯโดยเฉพาะศาลาว่าการกทม.ที่ครั้งหนึ่งคนกรุงเทพฯ เคยได้ยลโฉมเธอจากการลงสมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.ในการต่อกรกับ “สมัคร สุนทรเวช” มาแล้ว ประการสำคัญใครที่ติดตามผลงานนับจากที่เธอก้าวเข้าสู่เวทีการเมืองครั้งแรกด้วยวัยละอ่อน จะรู้ว่าตอนที่พรรคพลังธรรมเปิดตัวเธอครั้งแรก ครั้งนั้น “พล.ต.จำลอง ศรีเมือง” ได้ใช้ศาลาว่าการกทม.เป็นที่เปิดตัวเธอเช่นกัน ชีวิตทางการเมืองของเธอจึงหนีไม่พ้นกรุงเทพมหานครนั่นเอง

ที่มา.สยามธุรกิจ
/////////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น