ญี่ปุ่นตอบแทนบุญคุณคนไทยช่วยสึนามิ ให้ยืมรถปั๊มระบายน้ำประสิทธิภาพสูง 10 คัน มูลค่า 200 ล้าน กู้นิคมอุตสาหกรรม 7 แห่งเริ่ม 19 พ.ย. พร้อมส่งผู้เชี่ยวชาญร่วมทำงานวิศวกรไทยปฏิบัติภารกิจภายใน 10 วัน วอนคนไทยสามัคคีกัน...
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เป็นประธานพิธีปล่อยขบวนรถปั๊มระบายน้ำในโครงการความช่วยเหลือระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่นกับรัฐบาลไทย ที่ลานพระราชวังดุสิต โดยมีนพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเซอิจิ โคจิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และนายคาซูฮิโระ โยเนะดะ หัวหน้าคณะผู้แทนองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (ไจก้า) ประจำประเทศไทย เข้าร่วมพิธีดังกล่าวด้วย
นพ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจัดส่งรถปั๊มระบายน้ำและอุปกรณ์จำนวน 10 คัน มูลค่า 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นการให้ยืมและส่งคืนเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ ขณะเดียวกันทางญี่ปุ่นได้จัดส่งผู้เชี่ยวชาญและวิศวกรของญี่ปุ่น มาทำงานร่วมกับคณะเจ้าหน้าที่และวิศวกรของไทยในการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ โดยรถปั๊มระบายน้ำแต่ละคันมีกำลังการสูบ 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง หรือ 43,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งจะถูกนำไปใช้เร่งระบายน้ำในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม 7 แห่งที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย.นี้เป็นต้นไปจะเริ่มการระบายน้ำในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมไฮเทคและสวนอุตสาหกรรมโรจนะ ในจ.พระนครศรีอยุธยา แห่งละ 10 วัน
ทั้งนี้หลังจากเสร็จภารกิจดังกล่าว อาจมีการนำรถปั๊มระบายน้ำไปใช้สูบน้ำในพื้นที่สาธารณะอื่นๆ ที่ประสบภัยน้ำท่วมด้วย นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงสาธารณสุข ยังทำหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพน้ำที่ถูกสูบออกจากพื้นที่อย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อประชาชน
ด้านนายโคอิจิ ฟูนะยะมะ หัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่น กล่าวเป็นภาษาไทยว่า เราได้รับมอบภารกิจให้นำรถปั๊มระบายน้ำ 10 คัน มาช่วยระบายน้ำประมาณ 10 วัน ซึ่งแม้จะรู้สึกหนักใจ แต่จะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการดำเนินการดังกล่าว เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณของคนไทยที่มีน้ำใจช่วยเหลือญี่ปุ่นที่ประสบภัยสึนามิที่ผ่านมา โดยรถปั๊มระบายน้ำมีความสามารถสูบระบายน้ำได้มากเท่ากับปริมาณน้ำในสระว่ายน้ำขนาด 25 เมตร ในเวลา 10 นาที อย่างไรก็ตามขอให้คนไทยทุกคนมีสามัคคีช่วยกันพยายามทำให้ชีวิตความเป็นอยู่กลับเข้าสู่สภาวะปกติเหมือนเดิม
ต้นฉบับ: http://www.thairath.co.th/content/pol/217611
ที่มา: ไทยรัฐ
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น