4 ประเทศลุ่มน้ำโขง 'จีน-ไทย-ลาว-พม่า' ได้ข้อสรุปสนธิ กำลัง 4 ชาติลาดตระเวนตลอดลำน้ำโขงป้องกันเหตุร้าย และร่วมมือกันสอบสวนคดี 13 ศพด้วย 'เฉลิม'ขึ้นเชียงรายตามคดีฆ่าลูกเรือ ชี้เป็นเรื่องส่วนบุคคลของทหาร 9 นาย ไม่เกี่ยวกับสถาบัน ให้ 'ภาณุพงศ์'ประสานผบ.ทบ. และแม่ทัพภาคที่ 3 ดำเนินการผู้เกี่ยวข้อง เผยจีนไม่ติดใจเรื่องค่าชดเชย ต้องการเพียงหาผู้ลงมืออย่างโหดเหี้ยมเท่านั้น พบข้อมูลโยงแก๊ง 'ไทยใหญ่' ของ 'จาย หน่อคำ' กองกำลังติดอาวุธ เก็บค่าคุ้มครอง และค้ายาใกล้สามเหลี่ยมทองคำ
ความคืบหน้าเหตุฆ่าหมู่ลูกเรือจีน 13 ศพ กลางแม่น้ำโขง จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังประชุมครม. ถึงความคืบหน้าที่รัฐบาลจีนเรียกร้องให้ดำเนินการกับทหาร 9 นาย ที่เกี่ยวข้องกับคดีสังหารลูกเรือจีนซึ่งมีรายงานข่าวว่าคดีดังกล่าวอาจเชื่อมโยงกับเครือข่ายค้ายาเสพติด ว่า ในวันที่ 4 พ.ย.นี้ จะเดินทางไปจ.เชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์ ขณะนี้เรารวบรวมพยานหลักฐานเรียบร้อยและมีความแน่นหนา มีการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง 9 คน ยืนยันว่าเราทำเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างระเทศ
เมื่อถามถึงชายชุดดำที่มากับเรือสินค้า ซึ่งหลบหนีไปขึ้นฝั่งประเทศลาวนั้น มีความคืบหน้าอย่างไรว่าเป็นใคร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่าทราบแล้วแต่ขอเวลาให้ตรวจสอบในสุดสัปดาห์ก่อนและจะชัดเจนขึ้น
เมื่อถามว่าจะสรุปคดีนี้ได้เมื่อไหร่ รองนายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้ก็ค่อนข้างสรุปได้แล้ว และตนลงไปกำกับด้วย มีพยานยืนยันว่าเป็นเรื่องบุคคลไม่เกี่ยวกับสถาบันทหาร ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาของเขาก็ให้ความร่วมมืออย่างดี และมอบหมายให้พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธนา ซึ่งมีความใกล้ชิดกับผบ.ทบ. แม่ทัพภาคที่ 3 ให้ไปประ สานเรื่องนี้และได้รับความร่วมมืออย่างดี ซึ่งกอง ทัพภาค 3 และกองกำลังผาเมืองก็ช่วย แต่มีเด็กซนอยู่ ดังนั้นเมื่อลงไปตรวจสอบจึงจะรู้ว่าบกพร่องผิดพลาดหรือตั้งใจและจะได้ความชัดเจน
"ยืนยันว่ารัฐบาลจะทำอย่างตรงไปตรงมาแน่ นอน ถ้ารัฐบาลหรือผมบิดเบี้ยวประเทศชาติจะเสียหายยิ่งกว่าคดีซาอุฯหลายร้อยล้านเท่า ส่วนค่าชดเชยทางจีนเขาไม่ติดใจ แต่ติดใจที่การฆ่าครั้งนี้มันโหดร้ายทารุณมาก" รองนายกฯ กล่าว
วันเดียวกันสำนักข่าวซินหัว ประเทศจีน ราย งานว่า จากการหารือร่วมระหว่างประเทศในลุ่มแม่น้ำโขง 4 ประเทศ ได้แก่ จีน ไทย ลาว และพม่า เพื่อหาแนวทางความร่วมมือกำกับดูแลความปลอดภัยการเดินเรือในลำน้ำโขง หลังเกิดเหตุลูกเรือชาวจีนถูกสังหารไป 13 ราย เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมานั้น ผลสรุปออกมาว่า ทั้ง 4 ประเทศจะร่วมมือกันบังคับใช้กฎหมายในแม่น้ำโขง
นายเมิ่ง เจี้ยนจู รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน กล่าวภายหลังการหารือกับผู้แทนรัฐบาลอีก 3 ประเทศ ได้แก่ พล.ต.อ. โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรีไทย พล.ท.ดวง ใจ พิจิต รมว.กลาโหมลาว และพล.ท.โกโก รมว.มหาดไทยพม่าว่า เจ้าหน้าที่จากทั้ง 4 ชาติ จะร่วมกันลาดตระเวนบริเวณลำน้ำโขงและแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองระหว่างกัน
ในคำแถลงการณ์ร่วม มีเนื้อหาระบุว่าการลักลอบขนยาเสพติดและอาวุธผิดกฎหมาย ดำเนิน การกันผ่านแม่น้ำโขงมานานนับปี นอกจากนี้ยังมีกรณีข่มขู่ ขูดรีด และใช้กำลังจี้ปล้น เกิดขึ้นหลายครั้ง จึงเห็นควรให้ร่วมกันบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มแข็งเพื่อทำลายกลุ่มนอกกฎหมายในพื้นที่ มติครั้งนี้รวมไปถึงความร่วมมือกันสืบสวนเพื่อเปิดเผยความจริงเบื้องหลังคดีสังหารลูกเรือจีนทั้ง 13 ราย ซึ่งจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศ รวมไปถึงกำลังพลถ้าจำเป็น
ด้านนายซ่ง ชิงหรัน นักวิจัยด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของจีน กล่าวว่าความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการทำลายกำแพงเดิมๆ ด้านกรอบความสัมพันธ์ของประเทศที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับพลเรือนที่สัญจรบนแม่น้ำโขงอีกครั้ง และจะเป็นการช่วยในเรื่องของระบบเศรษฐกิจระหว่างจีน กับประเทศต่างๆ บนลุ่มน้ำโขง ด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า จากแหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคงหลายฝ่ายระบุตรงกันว่า พื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงเขตสามเหลี่ยมทองคำไทย-สปป.ลาว-พม่า ใกล้จุดเกิดเหตุฆ่าหมู่ เป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มนายจาย หน่อคำ ซึ่งเป็นกลุ่มกองกำลังติดอาวุธชาวไทยใหญ่ มีพฤติกรรมเรียกเก็บค่าผ่านทางจากเรือสินค้าและค้ายาเสพติดในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มีเรือสินค้าจีนถูกปล้นหรือยิงทำร้ายซึ่งหลายครั้ง หลายฝ่ายต่างเพ่งเล็งไปที่กลุ่มนี้เป็นสำคัญ แม้แต่ในการประชุมคณะกรรมการประ สานงานชายแดนไทย-พม่า ระดับท้องถิ่นหรือทีบีซี ที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ตรงข้าม อ.แม่ สาย ทาง พ.ต.หล้าเมียวอู รอง ผบ.กองพันเคลื่อน ที่เร็วที่ 526 เป็นประธานฝ่ายพม่าได้เสนอให้ฝ่ายไทยช่วยติดตามจับกุมเครือข่ายกลุ่มนี้ด้วย เพราะพม่าถือว่าเป็นภัยต่อประเทศพม่าเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังเกิดเหตุลูกเรือจีนถูกฆ่าหมู่และทางการไทยยึดของกลางยาบ้าได้ 920,000 เม็ด ทางกองกำลังผาเมืองคาดการณ์ว่าอาจเป็นฝีมือของกลุ่มนายจาย หน่อคำด้วย ทั้งนี้นายจาย หน่อคำ มีเครือข่ายในฝั่งไทยหลายคนหนึ่งในนั้นคือ นาย น. ซึ่งกำลังหลบหนีการตรวจสอบ และมีความสัมพันธ์รู้จักกับข้าราชการระดับสูงบางคน
ที่ผ่านมาทหารพม่าเข้าปราบปรามกลุ่มนี้และทำลายแพที่พักกลางแม่น้ำโขงของกลุ่มนายจาย หน่อคำ เหนือสามเหลี่ยมทองคำไปแล้ว แต่คาดการณ์กันว่ากลุ่มนี้ยังมีกำลัง 20-30 คน ใช้เรือเร็วเป็นพาหนะ เก็บค่าผ่านทางยาบ้าจากกลุ่มค้ายาบ้าเม็ดละ 3 บาท ค่าผ่านเรือสินค้าครั้งละ 3,000-4,000 บาทเป็นอย่างต่ำ เคลื่อนไหวอยู่แถบเมืองเชียงกกหรือป่าเลียว-เชียงลาบ เรื่อยมาจนถึงเกาะสีดอนเรือง เหนือสามเหลี่ยมทองคำขึ้นไปเล็กน้อย โดยอาศัยป่าเขาที่อำนาจรัฐของทั้งสองประเทศเข้าไปไม่ถึง
ที่มา:ข่าวสดรายวัน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น