--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

มติโหวตหนุน ประชา.ฉลุยเทให้273ต่อ188เสียง ปู พูดชัดไม่ปรับครม. !!?

ประชา. ผ่านฉลุยญัตติไม่ไว้วางใจ 273 ต่อ 188 เสียง ไม่ลงคะแนน 15 เสียง งดออกเสียงอีก 5 คน เผยกลุ่ม "เนวิน" โหวตสวน ขณะที่กลุ่มมัชฌิมาโดดประชุม "น้องปู" พูดชัดยังไม่ปรับครม. เปรยรัฐมนตรีทุกคนตั้งใจทำงานดีพร้อมน้อมรับข้อบกพร่องไปแก้ไข “พิชัย” ยังไม่จบตามบี้จับโกหก “หมอวรงค์” โชว์หนังสือพ่อเมืองพิษณุโลกทำถึงปลัดมหาดไทย ยัน ส.ส.ประชาธิปัตย์บีบขอถุงยังชีพ ลั่นขัด รธน.266 แทรกแซงราชการ ขณะที่ ปชป.ตามบี้ต่อเตรียมยื่นถอดถอน ส.ส.เพื่อไทยอีก 2 คน พร้อมสั่งจับตางบฯฟื้นฟูน้ำท่วม หวั่นปากมันอีกรอบ ด้าน พท.เดินเกมลาก “มาร์ค-เทพ” ขึ้นศาลโลก ตัดสินคดี 91 ศพ ด้านดีเอสไอรับเปลี่ยนตัวพนักงานสอบคดีล้มเจ้าใหม่
มติสภาไว้วางใจ “ประชา”

เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญทั่วไปนัดพิเศษ มีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เพื่อลงมติญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล พร้อมยื่นคำร้องต่อประธานวุฒิสภาขอให้ถอดถอน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ด้วย โดยรัฐมนตรีและ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลเข้าร่วมประชุมอย่างคึกคัก

ก่อนลงมติประธานได้เช็กองค์ประชุมด้วยการเสียบบัตรแสดงตน ปรากฏว่ามีสมาชิกอยู่ในห้องประชุม 489 เสียง จากนั้นประธานได้ขอให้ลงมติด้วยการเสียบบัตร ปรากฏว่าที่ประชุมลงมติไว้วางใจ พล.ต.อ. ประชา ด้วยเสียง 273 ต่อ 188 เสียง งดออกเสียง 5 ไม่ลงคะแนน 15 เสียง ทำให้เสียง ไม่ไว้วางใจไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิก ถือว่าที่ประชุมสภามีมติไว้วางใจ พล.ต.อ. ประชา จากนั้นนายสมศักดิ์ได้สั่งปิดการประชุมทันที

15 รมต.ไม่ลงคะแนน

สำหรับผลการลงคะแนนไม่ไว้วางใจพล.ต.อ.ประชานั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในซีกรัฐบาล ส.ส.พรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีใครแตกแถว ต่างยกมือสนับสนุน ในส่วนของรัฐมนตรีที่โหวตไม่ลงคะแนนจำนวน 15 คน ได้แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ รมช.มหาดไทย นายฐานิสร์ เทียนทอง รมช.มหาดไทย นางกฤษณา สีหลักษณ์ รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี นางบุญรื่น ศรีธเรศ รมช.ศึกษาธิการ นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล รมช.ศึกษาธิการ

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.การต่างประเทศ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรฯ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ รมช.คมนาคม, นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.อุตสาหกรรม นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รมช.พาณิชย์ นางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม และนายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ รมช.เกษตรฯ ส่วนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ไม่แสดงตนในการโหวตลงมติ เพราะทำหน้าที่ประธานในการประชุม ขณะที่นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาคนที่สอง ลงมติไว้วางใจ

“ปุ-บิ๊กบัง” งดออกเสียง

ในส่วนของผู้ที่งดออกเสียง 5 เสียง ประกอบด้วย 1. นายเจริญ จรรย์โกมล ส.ส. ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานสภา คนที่หนึ่ง 2. ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์สันติ 3. พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ 4. นายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี พรรคมาตุภูมิ 5. นายเรืองศักดิ์ งามสมภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย

ฝ่ายค้านปัจจุบันมี ส.ส. 199 คนแต่ลงคะแนนไม่ไว้วางใจ 188 คน หายไป 11 คน ประกอบด้วยพรรคประชา ธิปัตย์ 2 คน คือ นางนันทพร วีรกุลสุนทร ส.ส. กรุงเทพฯที่ป่วยเป็นโรคฉี่หนูรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และนายนิติรัฐ สุนทรวร ส.ส.สมุทร สาคร ส่วนพรรคภูมิใจไทย 4 คน คือ นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกุล ส.ส.สุโขทัย นายบุญดำรง ประเสริฐโสภา ส.ส.ราชบุรี นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี นายรังสิกร ทิมาตฤกะ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคมาตุภูมิ 2 เสียง คือ พล.อ. สนธิ และนายอนุมัติ เช่นเดียวกับ ร.ต.อ. ปุระชัย จากพรรครักษ์สันติ ที่งดออกเสียง รวมถึงพรรครักประเทศไทยอีก 2 เสียง คือ นายโปรดปราน โต๊ะราหนี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่มาประชุม และนายชัยวัฒน์ ไกรฤกษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่โหวตหนุน พล.ต.อ.ประชา

ลูกน้อง“ชูวิทย์”โหวตสวน

ในส่วนของพรรครักประเทศไทย ที่มี ส.ส. 4 คนนั้น ปรากฏว่าการลงมติไม่เป็นเอกฉันท์ โดย 2 เสียงแรก คือ นายชูวิทย์และนายพงษ์ศักดิ์ เรือนเงิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลงมติไม่ไว้วางใจ ในขณะที่นายชัยวัฒน์ โหวตสวนโดยลงคะแนนไว้วางใจให้กับ พล.ต.อ.ประชา ส่วนนายโปรดปรานไม่มาประชุม

นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล ส.ส.สุโขทัย พรรคภูมิใจไทย กลุ่มมัชฌิมา กล่าวถึงสาเหตุที่ไม่ได้มาลงคะแนนเสียงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.ประชาว่า ตนเข้าใจผิดว่ามีการประชุมในเวลา 10.00 น. ขณะที่ตัวเองไปพักที่ จ.ชลบุรี เพราะบ้านพักที่กรุงเทพฯน้ำยัง ท่วมอยู่จึงเดินทางมาไม่ทัน และทางพรรคก็ ไม่ได้แจ้งมาว่าจะลงมติในทิศทางใด พอมา ถึงสภาก็หาที่จอดรถอยู่นาน เขาก็ลงมติเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“น้องปู”ยังไม่ปรับ ครม.

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในเรื่องเดียวกันว่า พล.ต.อ.ประชาตอบคำถามฝ่ายค้านในทุกข้อ ไม่มีประเด็นอะไรเพิ่มเติมอีกจากที่เป็นข่าว ท่านให้ข้อมูลในทุกประเด็นที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสงสัย เมื่อถามว่า คะแนนเสียงที่ออกมาจะนำไปสู่การทบทวนการทำหน้าที่ของ พล.ต.อ.ประชาหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในแง่การทำงานต้องให้กำลังใจทุกคน การทำงานไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะต้องดีที่สุด อยากให้ดูในภาพรวมว่าทุกคนตั้งใจทำงาน อย่างไรก็ตามยอมรับว่าอาจจะมีบ้างที่มีข้อบกพร่อง จึงทำให้การแก้ไขปัญหาอาจทำไม่ได้ดีเท่าที่ควรซึ่งเราก็น้อมรับและจะนำข้อเสนอแนะดี ๆ มาปรับใช้ แต่ยืนยัน ว่ารัฐมนตรีทุกคนทำงานด้วยเจตนาที่จะช่วยเหลือประชาชน เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะมีการพิจารณาปรับ ครม.หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้

“เรื่องการปรับ ครม.ยังไม่มีแนวคิด ขอให้รัฐมนตรีได้ทำงานในส่วนของตัวเองก่อน เชื่อว่าประชาชนคลายข้อสงสัยไปได้ส่วนหนึ่ง แต่อาจมีบางส่วนที่ยังมีความข้องใจอยู่ รัฐบาลก็พยายามอธิบายให้เกิดความเข้าใจและเข้าไปดูแลเรื่องความเดือดร้อนโดยเร็วที่สุด

เปรยประเมินผลงานรายตัว

นายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามีนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนบอกนายกฯว่าทุกวันนี้ทำดีที่สุดแล้ว เมื่อเช้าก็เล่าให้ฟังว่า ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนประทับใจการทำงานของนายกฯ ซึ่งนายกฯบอกว่าดีใจที่ทำงานเหนื่อยแล้วประชาชนเห็น เมื่อถามว่า นายกฯบอกว่าจะปรับ ครม.หรือไม่ นายอนุสรณ์กล่าวว่า บอกว่ากำลังดูอยู่โดยใช้วิธีเก็บผลงานและประเมินไปเรื่อย ๆ จุดไหนงานอ่อนก็ต้องเรียกมาพูดคุยว่าต้องเร่งทำผลงาน เพราะถ้าไม่มีผลงานก็อยู่ไม่ได้

นายกฯได้โทรศัพท์หารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บ้างหรือไม่ นายอนุสรณ์กล่าวว่า ไม่ได้หารือ เห็นที่คุยบ่อยสุดคือ พล.ต.อ.ประชา อย่างไรก็ตามน้องไปป์ลูกชายจะเป็นคนที่ให้กำลังใจอย่างมาก อย่างบางวันกลับมาถึงบ้านก็จะเข้าไปถามว่าคุณแม่เหนื่อยไหม ตนก็จะคอยกระซิบบอกให้ลูกไปกอด นายกฯก็จะยิ้ม แต่พ่อไม่ต้อง เพราะถ้าพ่อกอดแล้วไม่ยิ้มก็จะเครียด หรือคิดว่ามาขออะไร

ปล่อยข่าวปรับ รมต.ไร้ผลงาน

รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า หลังจบการอภิปรายไม่ไว้วางใจและถอดถอนพล.ต.อ.ประชา ส.ส.ภายในพรรคเริ่มจับกลุ่มหารือและประเมินสถานการณ์ทางการเมืองว่า อาจมีการพิจารณาปรับเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี บางคน เพื่อรักษาเสถียรภาพของรัฐบาลให้ เข้มแข็ง เนื่องจากการแก้ปัญหาน้ำท่วมที่ผ่านมามีบางกระทรวงทำงานได้ไม่เต็มที่หรือไม่กระตือรือร้นที่จะลงไปช่วยงาน ทำให้เกิดช่องว่างในการบริหารงานและเปิดช่องให้ฝ่ายค้านสามารถโจมตีการทำงานของรัฐบาลได้ โดยเฉพาะรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทย ที่ มีจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในข่ายที่จะมีการปรับเปลี่ยน อาทิ กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นต้น เพราะก่อนหน้านี้ในพรรคได้มีการทำความเข้าใจในการทำงานของรัฐมนตรีไว้แล้ว หากไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ก็ต้องเปิดโอกาสให้คนอื่นที่มีความพร้อมเข้ามาทำหน้าที่แทน

เผยหนังสือ ปชป.ขอถุงยังชีพ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน ได้ให้ทีมงานส่งสำเนาหนังสือที่นายปรีชา เรืองจันทร์ ผวจ.พิษณุโลก ทำหนังสือประทับตราด่วนที่สุด ที่พล 0016.2/ 26141 ลงวันที่ 28 พ.ย. 2554 ถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย เรื่องขอชี้แจงกรณีการอภิปรายประเด็นที่พาดพิงถึงการแจกจ่ายถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัย โดยมีเนื้อหาสรุปว่า เมื่อประมาณกลางเดือน พ.ค. 54 ได้รับโทรศัพท์จาก นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส. พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ประสงค์ขอรับการสนับสนุนถุงยังชีพจำนวน 500 ถุง จึงได้เรียนไปว่าขณะนี้ถุงยังชีพของจังหวัดหมดแล้วไม่มีสนับสนุน

นพ.วรงค์ได้แจ้งยืนยันให้ทราบว่ายังมีถุงยังชีพอยู่ที่สำนักงานพลังงาน จ.พิษณุโลก อีก 500 ถุง เมื่อตรวจสอบจึงได้ทราบว่ามีอยู่จริง ซึ่งในสถานการณ์ขณะนั้นรู้สึกอึดอัดและกังวลใจเป็นอย่างยิ่ง หากจะปฏิเสธการสนับสนุนดังกล่าวก็เห็นว่าผู้ที่ขอร้องมาคือ ส.ส. ต้องการที่จะนำไปช่วยเหลือราษฎรและอาจถูกตำหนิได้ว่าไม่ให้ความสนใจดูแลประชาชน เป็นเสมือนสถานการณ์บังคับให้ข้าพเจ้าต้องอนุญาตให้ไปตามจำนวนเท่าที่สำนักงานพลังงาน จ.พิษณุโลก มีอยู่

ชี้ผิด รธน.แทรกแซงราชการ

นายพิชัย กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า หลังจากที่ตนชี้แจงเรื่องดังกล่าว นพ.วรงค์ได้กล่าวหาตนเองโกหกกลางสภา แต่จากเอกสารฉบับนี้เป็นการจับโกหกได้เป็นอย่างดีว่าใครกันแน่ที่พูดจริงหรือพูดเท็จ และถ้าเอาจริงนี่คือหลักฐานฟ้องว่า นพ.วรงค์มีพฤติการณ์เข้าข่ายแทรกแซง บีบบังคับการทำงานของส่วนราชการ คือ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 266

นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงตำแหน่ง ผอ.ศปภ.ว่า หากจะให้ตนเข้ามาเป็นคงไม่ได้ เพราะตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ก็เป็นประธานศูนย์อำนวยการภัยพิบัติแห่งชาติโดยตำแหน่งอยู่แล้ว เมื่อถามถึงความเหมาะสมกรณีที่มี ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย นำสิ่งของที่นำไปบริจาคให้ประชาชน ติดป้ายชื่อให้ตัวเองจนถูกมองว่าเป็นการหาเสียง นายยงยุทธกล่าวว่า ตนเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่มีใครคิดอะไร ทุกคนต้องการที่จะให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็ว

“ตู่”เล็งฟ้องแพ่ง-อาญา ปชป.

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชี รายชื่อ พรรคเพื่อไทย แถลงว่า กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ยื่นถอดถอนและอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีการกล่าวหาตนเอง พ.ต.ท.ทักษิณ และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ว่ากระทำการทุจริต ยักยอกทรัพย์ราชการนั้น เป็นการแจ้งความอันเป็นเท็จต่อประธานวุฒิสภา ต่อประธานรัฐสภา และต่อ ป.ป.ช. ดังนั้นสัปดาห์หน้าตนจะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อกองปราบปรามเพื่อเอาผิดกับนายอภิสิทธิ์และ 154 ส.ส.พรรคประชา ธิปัตย์ ที่ลงนามในญัตติ 2 ข้อหา คือ ฐานแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาท จากนั้นจะฟ้องคดีทางแพ่งเรียกร้องค่าเสียหายต่อไป ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์จะยื่นถอดถอน ส.ส.พรรคเพื่อไทยเพิ่มเติมนั้น ขอบอกว่าอย่าชักช้า เราทำงานช่วยเหลือประชาชนจึงไม่รู้สึกหวั่นไหว

อีกด้านหนึ่งนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบการจัดซื้อถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามที่กระทรวงมหาดไทยยื่นเรื่องมาว่า จะเร่งสรุปผลสอบให้เสร็จภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าระเบียบการใช้จ่ายเงินกองทุนที่มาจากการรับบริจาคเพื่อนำไปจัดซื้อนั้นเปิดช่องโหว่อยู่ เนื่องจากเป็นช่วงภาวะฉุกเฉินซึ่งมีข้อยกเว้นให้จัดซื้อด้วยวิธีพิเศษได้

“มาร์ค”เล็งยื่นถอดถอนเพิ่ม

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึง การประเมินภาพรวมภายหลังการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.ต.อ.ประชา ว่า ไม่ถือ
ว่าฝ่ายค้านเหนื่อยฟรี เราทำหน้าที่ตรวจสอบให้ประชาชนได้เห็นถึงข้อเท็จจริงในการบริหารจัดการที่ผิดพลาด และมีการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งกระบวนการถอดถอนจะเดินหน้าต่อไป และจะมีการยื่นถอดถอน ส.ส.เพิ่มเติมด้วย กำลังดูตามข้อเท็จจริงว่าจะเกี่ยวข้องกับใครบ้าง และจะตรวจสอบถึงการที่เอกสารลับที่ฝ่ายค้านยื่นถอดถอนต่อ ป.ป.ช.รั่วไหลออกมาด้วย

นายกฯยืนยันว่าจะไม่ปรับ ครม.แสดงว่าการอภิปรายครั้งนี้ไม่ส่งผลอะไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถือเป็นความรับผิดชอบของนายกฯ เพราะการบริหารจัดการที่ผิดพลาดยังคงดำรงอยู่ โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างประชาชน ดังนั้นนายกฯต้องเป็นผู้ รับผิดชอบ นอกจากนี้ตนได้กำชับ ส.ส.ของพรรคที่เป็นกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ให้ตรวจสอบการจัดสรรงบฯฟื้นฟูน้ำท่วม

“จารุพงศ์-แซม”เหยื่อรายใหม่

นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา ในฐานะหัวหน้าทีมกฎหมาย พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า พรรคจะยื่นถอดถอดส.ส.เพื่อไทยเพิ่มเติมอีก 2 คน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 270 คือ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ และนายยุรนันท์ ภมรมนตรี ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กระทำความผิดต่อมาตรา 265-266 โดยนายจารุพงศ์ถูกแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษา ผอ.ศปภ. ส่วนนายยุรนันท์พบหลักฐานเซ็นชื่อรับของที่ ศปภ.สั่งซื้อจากเอกชน

สำหรับ ส.ส.เพื่อไทยเดิม 7 คน ที่พรรคประชาธิปัตย์ยื่นถอดถอนไว้แล้วนั้น โดยในส่วนของ พล.ต.อ.ประชาได้ยื่นถอดถอนต่อประธานวุฒิสภา เพื่อประกอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว ส่วน ส.ส.อีก 6 คน แบ่งเป็น 4 ส.ส.ที่ถูกตั้งตามคำสั่ง ศปภ.เป็นกรรมการบริหารของบริจาค ขัดมาตรา 265-266 ได้แก่ นายการุณ โหสกุล นายสุรชาติ เทียนทอง ส.ส.กรุงเทพฯ นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ และนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ส.ส.อุตรดิตถ์ ส่วนอีก 2 คนเกี่ยวข้องกับพฤติการณ์ต่อปัญหาประตูน้ำคลองสามวาและของบริจาคได้แก่ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพฯ รวม ส.ส.เพื่อไทยที่ถูกยื่นถอดถอนทั้งสิ้น 9 คน

พท.เดินเครื่องคดี 91 ศพ

ส่วนการเมืองด้านอื่นนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า การเสียชีวิตของประชาชนจำนวน 91 ศพ ในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เม.ย. และ 19 พ.ค. 2553 เป็นความเจ็บปวดของประชาชนที่เสียชีวิต เหตุการณ์ดังกล่าวต้องมีผู้รับผิดชอบทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งทำหน้าที่ ผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้

“เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่าย ผมจึงจะเสนอคดีดังกล่าวไปยังศาลอาญาระหว่างประเทศ (ศาลโลก) เพื่อให้ดำเนินคดี และไม่เกิดข้อครหาว่ารัฐบาลปัจจุบันได้ดำเนินคดีกับใครคนใดคนหนึ่ง หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ผมจะเดินทางไปยังศาลโลกที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในวันที่ 9 ธ.ค.และจะขอให้ศาลโลกรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ” นายสุนัยกล่าว

ด้าน น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนยื่นเรื่องต่อนายอภิสิทธิ์เมื่อปี 53 เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการเสียชีวิตของบิดา คือ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า เมื่อมีการเสนอนำเรื่องเข้าสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ดี

“มาร์ค-เทือก”พร้อมให้ปากคำ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่ อัยการให้พนักงานสอบสวนขอความร่วมมือมาให้ปากคำกรณีถูกกล่าวหาอ้างในเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 ศพเมื่อ เดือน เม.ย. 2553 ว่า ขอให้ทำทุกอย่างไปตามขั้นตอนของกฎหมายและข้อเท็จจริง ส่วนหนังสือเชิญตนไปให้ปากคำเพิ่มเติมในวันที่ 2 ธ.ค.นั้น ยังไม่เห็นหนังสือ ถ้าเชิญมาก็ไม่มีปัญหา

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส. สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรอง นายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวสั้น ๆ ว่า ขอให้ส่งหนังสือเชิญมา ตอนนี้ตนยังไม่เห็นหนังสือเชิญเลย

ดีเอสไอเปลี่ยนคนสอบคดีล้มเจ้า

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวว่า กระบวนการยุติธรรมจะเป็นคนตัดสินว่าใครผิดใครถูกอย่างไร เจ้าหน้าที่ทุกคนทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ เป็นไปตามกฎหมายทุกประการ ส่วนกลุ่มมวลชนสีต่าง ๆ จะออกมาชุมนุมเพื่อสร้างสถานการณ์นั้น เป็นเรื่องของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ทำอย่างนี้มันไม่เกิดประโยชน์ไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ตาม หาวิธีการอื่นแก้ปัญหาน่าจะดีกว่า

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ชี้แจงกรณีดีเอสไอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนคดีล้มเจ้าว่า มีการปรับเปลี่ยนพนักงานสอบสวนบางคนจริงแต่ไม่ได้เปลี่ยนทั้งชุด เป็นไปตามคำสั่งของ พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ตามที่กลุ่มคนเสื้อแดงยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม โดยดีเอสไอมีคำสั่งแต่งตั้ง พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีดีเอสไอ ร่วมเป็นชุดพนักงานสอบสวนด้วย.

ต้นฉบับ: http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=8&contentId=178616

ที่มา: เดลินิวส์
////////////////////////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น