--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันเสาร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2553

ฝ่ายมั่นคงปูดแผน"แดง"ล้อมสถานที่สำคัญ-บ้านวีไอพี ใช้รถก่อกวน-ปิดแยก "สุเทพ"ซ้อมใช้พรก.ฉุกเฉิน

คาด"เสื้อแดง"ใช้รถก่อกวน-ปิดแยกล้อมสถานที่สำคัญ-บ้านวีไอพี "ประวิตร"ห่วงมือที่3 "สุเทพ"ซักซ้อมใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากสถานการณ์ 1-2 วันนี้วุ่นวาย นายกฯมั่นใจบริหารจัดการม็อบชุมนุมใหญ่ได้ ชี้มวลชนที่ใช้ความรุนแรงสุดท้ายจะเสียหายเอง รับปากดูแลไม่ให้กลุ่มหนุน-ต้านออกมาปะทะกัน

"สุเทพ” เรียกประชุมฝ่ายกม.ด่วน หาช่องประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้เดินทางมายังที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ โดยได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมาย อาทิ กระทรวงยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยใช้เวลาการประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง

รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมวันนี้ เพื่อหารือถึงความรอบคอบในการบังคับใช้กฎหมายและการซักซ้อมทำความเข้าใจในเรื่องการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อเตรียมการหากมีความจำเป็นที่ต้องประกาศใช้ในช่วงวันที่ 3 และ 4 เม.ย.นี้ เพราะหากการชุมนุมของคนเสื้อแดงเกิดความวุ่นวาย รุนแรง และจลาจล ก็จะสามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง

ภายหลังการประชุมนายสุเทพกล่าวถึงการเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 2-5 เม.ย.นี้ ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า “อาจจะไปไม่ได้ เพราะงานยุ่งจริงๆ แต่ถ้ามีเวลาก็อยากจะไป เพราะจะไปคุยกับฮุนเซนซะหน่อย ให้เบาๆๆบ้าง เพราะผมคิดว่าผมคุยได้”

ตร.ประเมินม็อบป่วน3รูปแบบ

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) กล่าวว่า เป็นห่วงสถานการณ์การชุมนุม เพราะกลุ่มที่มีความเห็นต่างกันอาจเผชิญหน้ากัน โดยพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษา (สบ 10) แจ้ง บช.น. ให้แจ้งความประสงค์หากต้องการกำลังสนับสนุน ซึ่งพร้อมเข้าสมทบภายใน 3 ชั่วโมง โดยตำรวจใช้กำลัง 42 กองร้อย พร้อมทั้งร้องขอกำลังทหารไปแล้วเพื่อสนับสนุนตามสถานการณ์ด้วย

พล.ต.ต.ปิยะกล่าว ผู้มาร่วมชุมนุม มาจากต่างจังหวัดโดยเฉพาะแถบภาคเหนือ กรุงเทพฯและปริมณฑล

น่าจะเคลื่อนไหว 3 ลักษณะ คือ

1.ปิดล้อมสถานที่สำคัญ หรือบ้านพักบุคคลสำคัญ

2.ใช้รถจักรยานยนต์ รถยนต์วิ่งไปก่อกวนตามสถานที่ต่างๆ และ

3.ปิดทางร่วม ทางแยกต่างๆ

เตรียมพร้อมรับสถานการณ์รุนแรงสุด

พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ 3 เมษายน ว่ามีโอกาสเกิดความรุนแรงขึ้นได้ ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้มาชุมนุม คำประกาศของแกนนำที่บอกว่าจะยกระดับการชุมนุมให้เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งได้เตรียมกำลังตำรวจร่วมกับทหารไว้พร้อมแล้ว และจะมีการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้งในวันที่ 3 เมษายน ตอนนี้ก็บอกไม่ได้ว่าจำนวนผู้ชุมนุมจะมากแค่ไหนต้องดูสถานการณ์ในวันชุมนุมก่อน

"เราเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่บนสมมติฐานที่ว่าสถานการณ์ความรุนแรงสูงสุด แต่ไม่ได้บอกว่าสถานการณ์รุนแรง การเตรียมการป้องกันต้องเตรียมให้พร้อมที่สุดต้องประเมินสูงสุดไว้ก่อนเพื่อจะรับสถานการณ์ที่อาจจะรุนแรงได้ แต่หากไม่มีความรุนแรงก็ลดระดับการดูแลลง เป็นการเตรียมความพร้อมตามหลักการรักษาความปลอดภัย ส่วนมือที่ 3 นั้นยังมีโอกาสเข้ามาสร้างสถานการณ์วุ่นวายตลอด เราก็ดูอยู่ตลอด" รรท.ผบ.ตร.กล่าว

"ประวิตร"เผยศอ.รส.ห่วงมือที่ 3

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ระหว่าง เป็นประธานในพิธีงานวันสถาปนาโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ครบรอบ 101 ปี โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. ร่วมพิธีถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ในวันที่ 3 เมษายน ว่า ศอ.รส.มีความเป็นห่วงมือที่สาม เพราะมีเหตุการณ์ที่ไม่เรียบร้อยเกิดขึ้นเป็นประจำ

นายกฯมั่นใจคุม"ชุมนุมใหญ่"ได้

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เชื่อว่าจะบริหารจัดการ การชุมนุมใหญ่ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือมวลชนเสื้อแดง ในวันที่ 3 เมษายน ไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้นได้ ในการให้สัมภาษณ์เมื่อบ่ายวันที่ 2 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เท่าที่คุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ได้รับการยืนยันว่าจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพยายามไม่ให้เกิดความรุนแรง คิดว่าทุกฝ่ายทราบดีว่าความรุนแรงไม่ช่วยแก้ปัญหา มีแต่จะเกิดความวุ่นวาย ความสูญเสีย รัฐบาลแสดงออกชัดเจนว่าจะไม่ให้เกิดความรุนแรง จึงเชื่อว่าจะบริหารจัดการได้ เพราะมวลชนที่ใช้ความรุนแรงสุดท้ายจะเสียหายเอง จึงเชื่อว่าทุกฝ่ายจะช่วยดูไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น

นายกฯกล่าววว่า เรื่องการก่อเหตุต่างๆ เจ้าหน้าที่พยายามดูแลไม่ให้เกิดเหตุอยู่ ส่วนเหตุที่จับคนร้ายลอบวางระเบิดรายวันตามสถานที่ต่างๆ ไม่ได้สักทีนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ความจริงมีทั้งคนที่ถูกจับได้ คนที่ถูกออกหมายจับ และคนที่อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน ทางตำรวจยืนยันว่าไม่มีตอ

จะดูไม่ให้กลุ่มต้าน-หนุนปะทะกัน

กรณีที่เริ่มมีบางกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน นปช. นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คิดว่าหากทุกฝ่ายเคารพสิทธิของฝ่ายอื่น ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร อยากให้สังคมช่วยกันบอกว่า ถ้ามีใจเป็นประชาธิปไตย ต้องยอมรับการแสดงความเห็นจากฝ่ายที่เห็นไม่ตรงกัน เมื่อถามว่าห่วงกรณีดังกล่าวหรือไม่ อย่างกรณีคนเสื้อชมพูที่ออกมาคัดค้าน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าแสดงออกอย่างสันติ มีสิทธิแสดงออก รัฐบาลจะพยายามดูแลไม่ให้เกิดการปะทะกันของประชาชน สำหรับท่าทีแกนนำ นปช.ที่ดูเหมือนออกมาข่มขู่ทุกกลุ่มที่ออกมาคัดค้านนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อยากให้สังคมได้มองเห็นว่า หากเป็นประชาธิปไตยจริง ต้องไม่มีลักษณะการข่มขู่คุกคาม เพราะทุกคนมีสิทธิที่จะชุมนุมเช่นกัน ส่วนตัวอยากให้ผู้ชุมนุมทุกกลุ่มได้แจ้งมาก่อน รัฐบาลจะได้ส่งคนไปดูแล

ตั้ง2เงื่อนไขเปิดเจรจานปช.รอบ3

นายกฯกล่าวย้ำอีกครั้ง ถึงการเปิดเจรจารอบ 3 กับแกนนำ นปช.ว่า คงต้องให้การชุมนุม ไม่มีการเคลื่อนไหวและมีปัญหากับใคร เพราะนั่นคือเงื่อนไขการเจรจา ขณะนี้ยังไม่มีการเจรจารอบ 3 เงื่อนไข 9 เดือนยุบสภาที่เสนอไปนั้น สิ่งที่สำคัญไม่ได้อยู่เวลา แต่อยู่ที่ว่าจะทำอะไร

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การเจรจารอบ 3 จะมีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ 1.การเคลื่อนไหวผู้ชุมนุมเป็นอย่างไร หากยังเคลื่อนไหวในกรอบ รัฐบาลก็ไม่ได้ปิดทาง 2.การยุบสภาจะเป็นไปได้หรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับประโยชน์ส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อความต้องการหรือไม่ต้องการของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถ้ายอมรับจุดนี้ก็มาคุยกันได้ ถ้ายังไม่ยอมรับก็ไม่มีทาง

เมื่อถามว่า นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ ยังคงประสานงานอยู่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายกอร์ปศักดิ์รายงานว่ามีคนเสนอตัวเป็นคนกลาง และมีคนติดต่อมาแต่ยืนยันเงื่อนไขตรงนั้นไป

เผยศอ.รส.กำลังหาทางเปิดพื้นที่

ผลกระทบหลัง นปช.ชุมนุมต่อเนื่องมากว่า 20 วัน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า 1.ความรู้สึกที่เกิดความตึงเครียด จึงอยากให้ดูแลให้ดีที่สุด 2.การท่องเที่ยวที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงการเข้าไปทำงานในทำเนียบรัฐบาล เป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ว่าพยายามจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติให้มากที่สุด เมื่อถามว่า สงกรานต์นี้ประชาชนมีโอกาสฉลองอย่างมีความสุขหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พยายามอย่างเต็มที่ ทุกกลุ่มไม่ว่าใส่เสื้อสีอะไร อยากให้คนไทยทุกคนได้ฉลองสงกรานต์ เมื่อถามว่า นปช.ประกาศหากยังล้มรัฐบาลไม่ได้จะชุมนุมยืดเยื้อถึงสงกรานต์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อยู่ที่ผู้ชุมนุม แต่ผมว่าน่าจะกลับไปฉลองสงกรานต์กันมากกว่าŽ เมื่อถามว่า สถานที่ราชการอยู่ใกล้ที่ชุมนุมได้รับความเดือดร้อน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้ ศอ.รส.กำลังดูข้อกฎหมายต่างๆ ควบคู่กับการพูดคุยเพื่อหาทางเปิดพื้นที่ ส่วนจะฟ้องต่อศาลขอให้ออกคำสั่งเปิดพื้นที่หรือไม่ กำลังคุยกันอยู่เพราะยังมีความเห็นที่แตกต่างกัน

ปราม"แดง"ใจกว้างต่อกลุ่มอื่น

นายสุเทพกล่าว ระหว่างเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลว่า รัฐบาลตั้งใจที่จะให้บ้านเมืองกลับคืนสู่ปกติโดยเร็วที่สุด นายกฯกำชับตลอดให้หาทางให้ทุกอย่างกลับคืนสู่ปกติ และอยากเข้ามาทำงานในทำเนียบรัฐบาลหลายวันแล้ว ตนพยายามดูแลให้สถานการณ์คลี่คลาย ไม่อยากเห็นการเผชิญหน้าใดๆ และขณะนี้ในส่วนของข้าราชการก็เริ่มทยอยกลับมาทำงานในทำเนียบแล้ว ส่วนการประชุม ครม. วันที่ 7 เมษายน ที่กำหนดสถานที่ไว้ที่รัฐสภา จะกลับมาที่ทำเนียบรัฐบาลเหมือนเดิมได้หรือไม่นั้น นายสุเทพกล่าวว่า คงต้องดูก่อน ถ้าไม่มีอะไรอาจกลับมาประชุม ครม.ที่ทำเนียบรัฐบาล

เมื่อถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศจะเคลื่อนขบวนไปสอบถามการรวมตัวของคณะอาจารย์และนักวิชาการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายสุเทพกล่าวว่า คนเสื้อแดงควรใจกว้าง เพราะที่ผ่านมาชุมนุมมาเป็นเดือนๆ อยู่กลางถนนทำให้ประชาชนคนกรุงเทพฯเดือดร้อนในการสัญจรไปมา ซึ่งได้แสดงความเห็นของตัวเองอย่างเต็มที่แล้ว เมื่อจะมีคนกลุ่มอื่นอยากจะแสดงความเห็นในบ้านเมืองบ้าง ไม่ทราบว่าจะไปโกรธเคืองทำไม ซึ่งที่ผ่านมาคนเสื้อแดงบอกว่าตัวเองเป็นพวกนิยมประชาธิปไตย ดังนั้น จึงควรมีความอดทนที่จะฟังความคิดที่แตกต่าง และไม่ควรไปรังควานคนอื่น ตั้งแต่ทราบว่าคนเสื้อแดงจะเคลื่อนขบวนไปได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลเข้าไประวังเหตุ ซึ่ง พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผช.ผบ.ตร. ได้ไปประชุมร่วมกับตำรวจนครบาลและหน่วยต่างๆ พร้อมแล้ว

ประเมินม็อบแผ่วเหตุใกล้สงกรานต์

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลประเมินว่าการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 3 เมษายน น่าจะมีผู้มาร่วมชุมนุมใกล้เคียงกับการชุมนุมที่ผ่านๆ มา แต่มีความเป็นไปได้ที่จะมีประชาชนมาร่วมน้อยกว่าการชุมนุมใหญ่ครั้งที่แล้ว เนื่องจากใกล้เทศกาลสงกรานต์ ประชาชนน่าจะอยากเดินทางออกจาก กทม. มากกว่าอยากเดินทางเข้ามา รัฐบาลกังวลเรื่องผลกระทบด้านการจราจร และความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นคู่ขนาน เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้ไม่หวังดีใช้อาวุธสงครามสร้างสถานการณ์ในยามวิกาล แต่ในระยะหลังมานี้ได้เปลี่ยนเป้ามาก่อเหตุในที่ชุมชน ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีการคุกคามชีวิตประชาชน ดังนั้น จะมีการปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยต่อไป

นายกฯเลื่อนเดินทางถกสุดยอดผู้นำ

นายปณิธานกล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ได้ตัดสินใจเลื่อนกำหนดการเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ที่ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 7-9 เมษายน จากเดิมมีกำหนดออกเดินทางในวันที่ 7 เมษายนนี้ เป็นเดินทางในวันที่ 8 เมษายนแทน เนื่องจากนายกฯต้องการอยู่ร่วมประชุม ครม.ในวันที่ 7 เมษายน เพราะจะมีการพิจารณาว่าจะต่ออายุการประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรในพื้นที่ กทม. และปริมณฑลหรือไม่ อีกทั้งในวันที่ 10-15 เมษายน นายกฯยังมีกำหนดเดินทางไปประชุมสุดยอดนิวเคลียร์ที่ประเทศสหรัฐด้วย

กลุ่ม40ส.ว.จี้รบ.เข้มชุมนุมใหญ่

กลุ่ม 40 ส.ว.อาทิ ทพ.อนุศักดิ์ คงมาลัย นางตรึงใจ บูรณสมภพ พล.อ.อ.วีรวิทย์ คงศักดิ์ ส.ว.สรรหา นางสาวสุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี นายสาย กังกะเวคิน ส.ว.ระยอง ลุกขึ้นอภิปรายระหว่างการประชุมวุฒิสภาวันเดียวกัน ในช่วงเปิดให้หารือ โดยแสดงความวิตกอาจเกิดความรุนแรงขึ้นกับการชุมนุมใหญ่ของมวลชนเสื้อแดง พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลใช้มาตรการทางกฎหมายเพื่อควบคุมการชุมนุมให้เข้มแข็งเข้มงวดกว่านี้

นอกจากนี้ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ ศรีอรุณ นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา ยังกล่าวในทำนองเดียวกัน ไม่เห็นด้วยกับการที่กลุ่ม นปช.ออกมาพูดในลักษณะข่มขู่ จะเคลื่อนพลไปขัดขวางการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนเสื้อสีชมพู เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิผู้ออกมาแสดงจุดยืน

ขู่ยื่นถอดถอน"ตู่"พ้นเก้าอี้ส.ส.

ส่วนนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา เรียกร้องให้รัฐบาลขยายผลการจับกุมนายพันธวุฒิ หรือหนุ่ม ผู้จัดทำเว็บไซต์ นปช.USA และ นปช.USA2.com ที่มีเนื้อหาหมิ่นเหม่จาบจ้วงสถาบัน อยากให้กลุ่ม นปช.แถลงให้ชัดเจนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับ นปช.ยูเอสเอมีส่วนเกี่ยวพันกับกลุ่มเสื้อแดงหรือไม่Ž นายคำนูณกล่าว

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา กลุ่ม 40 ส.ว. ยังแถลงว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย (พท.) แกนนำ นปช. - ข่มขู่คุกคามการใช้สิทธิประชาชนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ลานอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี เป็นการขัดขวางการใช้สิทธิของประชาชน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 การกระทำนายจตุพรส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ โดยภายในสัปดาห์จะมีกลุ่มประชาชนเข้าชื่อ 20,000 รายชื่อยื่นต่อประธานวุฒิสภา เพื่อดำเนินการถอดถอนนายจตุพรออกจาก ส.ส.ตามมาตรา 270 และมาตรา 271 ของรัฐธรรมนูญ

ที่มา.ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
*************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น