--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันศุกร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2553

คอมานโดบุกเอสซี ปาร์คบุกจับ แกนนำ นปช.เหลว "อริสมันต์" โรยตัวหนี "รอง ผบช.น." เสียท่าถูกจับเป็นตัวประกัน

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ (ศอฉ.) แถลงข่าวเมื่อวันที่ 16 เม.ย.เวลา 10.00 น.ว่า ขอรายงานการปฏิบัติงานและมาตรการต่างๆ ที่ ศอฉ.จะดำเนินการ โดยขณะนี้ชัดเจนว่า นอกจากจะมีผู้ชุมนุมที่มาเรียกร้องเหตุทางการเมือง ยังมีกลุ่มผู้ก่อการร้ายรวมอยู่ด้วย แล้วได้ปฏิบัติการอย่างชัดเจน เช่น การวางระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูง เพื่อให้ กทม.ไม่มีไฟฟ้าใช้ และการก่อวินาศกรรมที่ร้ายแรงที่สุดคือการโจมตีเจ้าหน้าที่ ในคืนวันที่ 10 เม.ย. โดยใช้อาวุธสงคราม และขอให้ประชาชนที่บริสุทธิ์แยกตัวออกจากกลุ่มผู้ก่อการร้าย ไม่เป็นโล่มนุษย์อีกต่อไป ศอฉ.จะดำเนินการทางกฎหมายโดยเด็ดขาดกับผู้ก่อการร้ายและแกนนำที่ทำผิดกฎหมาย

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ส่วนการดำเนินคดี ศอฉ.มีมติเสนอให้คณะกรรมการคดีพิเศษ ที่จะประชุมในวันนี้ เวลา 10.30 น.ได้รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ แล้วให้ระดม 9 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจสันติบาล สืบสวนเอาตัวการมาลงโทษให้ได้ โดยการประชุมวันนี้ ตนจะเข้าร่วมประชุมด้วย

นายสุเทพกล่าวว่า สำหรับการจับกุมปราบปรามผู้ก่อการร้ายนั้น ได้จัดชุดกระจายกำลังออกไปติดตามจับกุมผู้ก่อกการร้ายและแกนนำ โดยให้ชุดปฏิบัติการพิเศษปิดล้อมโรงแรมเอสซี ปาร์ค เพราะทราบมาว่า ผู้ก่อการร้ายและแกนนำบางส่วนซ่อนตัวอยู่

"นอกจากนี้ จะดำเนินการเรียกผู้ต้องสงสัย ผู้สนับสนุน ให้มารายงานตัวที่กรมทหารราบที่ 11 หากไม่มาจะออกหมายจับ และยังออกหมายบจับเพิ่มเติม ผู้ที่สืบสวนแล้วมีหลักฐานว่าผิดกฎหมายชัดเจน รวมทั้งการค้นหาอาวุธที่ถูกกลุ่มผู้ก่อการร้ายยึดได้ ทางเจ้าหน้าที่จะตรวจค้นสถานที่ต่างๆ ถ้ามีความคืบหน้าเพิ่มเติมจะเรียนให้ทราบ" นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพกล่าวว่า ขอให้บรรดาพี่น้องประชาชนที่ร่วมชุมนุมได้ออกมา เพราะเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปฏิบัติการโดยเด็ดขาดต่อผู้ก่อการร้าย ไม่ปล่อยให้ดำเนินการที่เสียหายต่อบ้านเมือง และเกรงว่าจะกระทบต่อประชาชน โดยสิ่งที่กังวลใจ คือ ผู้ก่อการร้ายทำร้ายประชาชน โดยโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่และสร้างสถานการณ์

นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า ประชาชนได้ออกมาแล้ว จากนี้ให้การเมืองได้แก้ปัญหาตามวิถีทางการเมือง ขอให้ญาติหาทางติดต่อผู้ชุมนุมให้กลับบ้าน ศอฉ.ได้ทำใบปลิวและให้รถขยายเสียงประกาศผู้ชุมนุมให้รับทราบ เพราะผู้ก่อการร้ายแฝงตัวเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อบ้านเมืองและต้องยุติโดยเร็ว ทั้งนี้ ที่แกนนำได้ประกาศบุกสถานที่ราชการ สถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุ รวมทั้งสำนักงานสื่อ เพื่อข่มขู่คุกคามให้ฟังคำสั่งและปฏิบัติตามแกนนำ รัฐบาลยอมรับไม่ได้ และได้สั่งเจ้าหน้าที่ไปคุ้มครองทุกสถานีแล้ว หากแกนนำบุกเข้าไปจะปฏิบัติการโดยเด็กดขาด หากจำเป็นจริงๆ ที่รัฐบาลต้องปฏิบัติการเพื่อหยุดยั้งการข่มขู่คุกคามและการเป็นอันธพาล

นายสุเทพ ยังขอให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา หากเห็นแกนนำ ผู้ก่อการร้ายซุกตัวที่ไหน ก็ให้แจ้งข่าวเจ้าหน้าที่จะไปจับกุมทันที โดย ศอฉ.แยกออกเป็นสองส่วน 1.การบังคับใช้กฎหมายพิเศษ 2.การติดตามจับกุมปราบปรามเด็ดขาด ส่วนในเรื่องการเมือง บ่ายวันนี้ นายกรัฐมนตรีจะแถลงกับประชาชนว่าจะแก้ไขอย่างไร ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลดำเนินการตามพื้นฐานของกฎหมาย เพื่อให้บ้านเมืองสงบสุข เป็นการปกครองตามกฎหมายอย่างแท้จริง โดยธรรมะและกฎหมายต้องชนะ ไม่ใช่ชนะของฝ่ายการเมืองหรือพรรคการเมือง แต่เป็นพี่น้องทั้งประเทศเพื่อลูกหลานในอนาคต

รายงานข่าวล่าสุดแจ้งว่า ตำรวจหน่วยคอมานโดได้บุกเข้าโรงแรม เอสซี ปาร์ค ถนนพระราม 9 เพื่อจับกุมตัวนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นายสุภรณณ์ อัตถาวงศ์ นายพายัพ ปั้นเกตุ นายวันชนะ เกิดดี และเจ๋ง ดอกจิก ทำให้กลุ่มเสิ้อแดงที่อยู่รอบๆโรงแรมฮือล้อมบริเวณรอบและบุกเข้าในโรงแรมเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม นายอริสมันต์ได้โรยตัวหนีจากระเบียงชั้นสามของโรงแรมโดยมีกลุ่มเสื้อแดงรอรับอยู่เบื้องล่างและนำตัวไปขึ้นหลังคารถเวทีปราศรัย

นอกจากนั้นยังมีกระแสข่าวว่า ในที่สุดแกนนำ นปช.ทั้งหมดไม่ได้ถูกจับกุม และสามารถกลับไปที่เวทีราชประสงค์ได้ ขณะเดียวกันสามารถจับกุมตัวนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร 4-5นายยศ พ.ต.ท.และนายร้อยตำรวจไปเป็นตัวประกันและนำตัวไปที่สี่แยกราชประสงค์ด้วย

ทั้งนี้ มีรายงานแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.45 น. ที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้จับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นชุดที่เข้าไปบุกจับตัวแกนนำที่โรงแรมเอสซีปาร์ค หนึ่งในนั้นคือ พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. โดยรายงานข่าวระบุว่า สภาพของ พล.ต.ต.สุเมธ อยู่ในสภา อ่อนล้า พร้อมกับพยายามทำร้าย แต่ก็ถูกแกนนำบางคนห้ามไว้ ด้านตำรวจ ปจ.ก็พยามยามที่จะเข้าช่วยเหลือ แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้นำตัวไป เพื่อใช้ในการต่อรองไม่ให้จับกุมแกนนำ


ที่มา.มติชนออนไลน์
****************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น