--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันอังคารที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2553

ลุยแล้วใครออกหน้า?

อภิสิทธิ์

แจกปุ๊บฉีกปั๊บต่อหน้าต่อตาตำรวจ

ในอารมณ์ที่ม็อบคนเสื้อแดงโชว์ให้เห็นเลยว่า ไม่ได้อนาทรร้อนใจไปกับคำสั่งเข้มๆที่ลงนามโดย "เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ออกประกาศฉบับที่ 5 และ 6 ของ ศอ.รส.

บังคับให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่แยกราชประสงค์ และห้ามกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวเข้าไปป้วนเปี้ยนบนถนน 11 สาย

ยั่ว ท้าทายกันในที

ในจังหวะที่แกนนำคนเสื้อแดงประกาศย้ำการชุมนุมแบบสันติ อหิงสา แต่โดยกระบวนท่าการเคลื่อนไหว จับเอาความเดือดร้อนของคนกรุงเป็นตัวประกัน

เพิ่มระดับการกดดันขั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ

เช่นเดียวกันกับลีลาของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่บทหนึ่งก็ท่องคาถา จะพยายามอดทนให้ถึงที่สุดในการดำเนินการตามขั้นตอนกับคนเสื้อแดงอย่างนุ่มนวล

แต่อีกนัยที่แฝงไว้ก็ด้วยคำกล่าวอ้าง มีกลุ่มผู้สนับสนุนจำนวนมากที่ยุรัฐบาลกดดันให้ จัดการขั้นเด็ดขาดกับกองทัพคนเสื้อแดง

นัยว่าปูทางความชอบธรรม ถ้าจำเป็นต้อง "ทุบ"

ในยุทธศาสตร์ที่ฝ่ายรัฐบาลเหนือกว่าด้วยเกมบล็อกแนวร่วมเล่นเป็นแพ็กเกจ ตามจังหวะโผล่ออกมาโวยของทีมสภาหอการค้าฯ สภาอุตสาหกรรมฯ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวฯ

ด่าม็อบแดงทำเศรษฐกิจเสียหาย

ส่งมุกรับไม้กับสมาชิกวุฒิสภาสายม็อบพันธมิตรฯ นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา ไล่บี้กดดันให้รัฐบาลเร่งจัดการขั้นเด็ดขาดกับม็อบแดงที่ยกระดับการชุมนุม

ฐานทำให้ประเทศบรรลัยวายป่วง

โหมกระแสคนกรุงทนไม่ไหว ชิงชังม็อบเสื้อแดงที่สร้างความเดือดร้อน โดยเงื่อนไขไฟต์บังคับต้องจัดการสลาย

ก่อนที่รัฐบาล "อภิสิทธิ์ชน" จะโดนคนเมืองหลวงอัปเปหิซะเอง

ฉากสลายกองทัพแดงเขียนบทไว้พร้อม รอแค่สั่งเดินกล้อง

แต่รูปการณ์มาถึงจุดวัดใจ "ใครลงมือก่อนแพ้" โดยยุทธศาสตร์ "ย้อนศร" แกนนำกองทัพแดงยึดเอาบรรทัดฐานเดียวกับแกนนำม็อบพันธมิตรฯ เมื่อคราวบุกยึดทำเนียบรัฐบาล ยึดสนามบิน ในการเปิดเกมสู้กับฝ่ายถืออำนาจรัฐที่ยื่นขออำนาจศาลในการสั่งให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่แยกราชประสงค์

ตีปี๊บดักคอ ขอเป็นมาตรฐานเดียวกัน

และที่สุดศาลแพ่งได้มีคำสั่งยกคำร้อง โดยชี้ว่า กอ.รมน.มีอำนาจในการดูแลรักษาความสงบอยู่แล้ว

ที่แน่ๆ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ "สามเกลอ" ประกาศแผนล่วงหน้า หากมีการควบคุมตัวแกนนำชุดแรก แกนนำชุดที่ 2 จะปฏิบัติหน้าที่แทน จนถึงที่ชุด 3 ถ้ายังโดนรวบ คนเสื้อแดงจะกลายเป็นกองทัพเสรีโดยทันที

ขู่กันกรายๆ สงครามมุดลงใต้ดิน

กองทัพแดงไม่กลัว เล่นบท "ยั่วให้ทุบ"

โจทย์ก็กลับมาตกอยู่ที่นายกฯอภิสิทธิ์ ถึงเวลาต้องลุยจริงๆ ใครจะออกหน้า

ไม่ต้องพูดถึงคิวของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกจัดให้เป็นด่านแรกในการชนกับกองทัพเสื้อแดง โดยตัวอย่างสยองๆจากกรณีการสลายม็อบเสื้อเหลืองในเหตุการณ์ "7 ตุลา" แล้วโดนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สั่งลงดาบเชือดเลือดสาด

ตายทั้งเป็นไปตามๆกัน

ถึงคิวนี้ตำรวจเองก็คงเลือกโดนด่า "ใส่เกียร์ว่าง" กับคนเสื้อแดง ดีกว่าเสี่ยงไปเผชิญชะตากรรมยามที่เกมอำนาจเปลี่ยนมือ

หันไปมองกองทัพที่ว่าขึงขังๆ แต่จับอารมณ์ที่ "บิ๊กป๊อก" พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ก็ออกตัวแล้วว่า ทหารแค่ดูแลความสงบเรียบร้อย

จะไม่ทำร้ายประชาชนเด็ดขาด

เล็งไปที่ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. ที่ถือแต้มว่าที่จ่าฝูงกองทัพบกคนใหม่ โดยอาศัยตั๋วของฝ่ายคุมเกมอำนาจประเทศไทย ถ้าจะเร่งเกมไล่ที่ "พี่ป๊อก" ฉวยจังหวะปราบกองทัพเสื้อแดง เพื่อประกันความชัวร์ในตำแหน่ง ผบ.ทบ. ก็ทำได้เลย

แต่ก็ยังกั๊กจังหวะ ไม่บุ่มบ่ามเอาตัวเข้าเสี่ยงเพื่อ "อภิสิทธิ์"

ตามเกมที่อ่านกันได้ ในเมื่อ "ฝ่ายคุมเกมอำนาจตัวจริง" ยังมีไพ่เล่นอีกหลายใบ ถึงที่สุดถ้ามวยอย่าง "อภิสิทธิ์" ไปไม่ไหว บอบช้ำเกินกว่าจะปั้นต่อ ก็เปลี่ยนมวยตัวใหม่

ทำไมจะต้องทุ่มเดิมพัน "แทงเต็ง".


ทีมข่าวการเมือง รายงาน
ไทยรัฐออนไลน์
**************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น