--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2553

‘พท.’ฉีกหน้ารัฐบาลขี้โม้ แฉเศรษฐกิจไทยยังหืดจับ

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้แถลงต่อกรณีที่นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่าเศรษฐกิจในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ดีขึ้นว่า สิ่งที่ รมว.คลังพูดนั้นไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะเป็นการอ้างตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลจากการฟื้นตัวชั่วคราวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่เศรษฐกิจไทยในเวลานี้จึงฟื้นตัวอยู่เฉพาะเพียงบางกลุ่มเท่านั้น

ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะมีเม็ดเงินจากต่างประเทศไหลเข้าสู่ภูมิภาคนี้และไม่ใช่ไทยประเทศเดียวแต่เป็นการปรับสูงขึ้นทั้งภูมิภาคเลยก็ว่าได้ "จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าแค่เดือนมีนาคมเดือนเดียวยอดซื้อสุทธิจากนักลงทุนต่างชาติสูงกว่า 40,000 ล้านบาทเข้าไปแล้ว ส่วนการส่งออกทุกวันนี้ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ การฟื้นตัวในช่วงที่ผ่านมาเกิดขึ้นจากความต้องการในตลาดต่างประเทศที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นแต่หากไปดูตัวเลขที่แท้จริงจะพบว่ามูลค่าการส่งออกของไทยตลอดปี 52 ยังต่ำกว่าปี 51"

ด้านการท่องเที่ยวก็มีการปรับลดเป้าตัวเลขนักท่องเที่ยวในปี 52 ลงไปก่อนหน้านี้ จากเดิมตั้งไว้ 16 ล้านคน รัฐบาลมาเปลี่ยนให้ต่ำลงเป็น 10 ล้านคน พอตัวเลขการท่องเที่ยวของปี 52 ประกาศออกมาอยู่ที่ 14.094 ล้านคน รัฐบาลก็ออกมาแถลงว่าเกินเป้าทั้งที่จริงแล้วสถิตินักท่องเที่ยวปี 52 ยังต่ำกว่าทั้งปี 50 และ 51 นอกจากนี้ยังมีความสับสนในเรื่องข้อมูลระหว่างรัฐมนตรีที่กำกับดูแลและภาคเอกชน เพราะฝ่ายหนึ่งบอกว่าตัวเลขดีขึ้นแต่อีกฝ่ายหนึ่งบอกว่าตัวเลขลดลง "การลงทุนจากต่างประเทศทุกวันนี้ก็ยังติดลบอยู่ ตัวเลขการอนุมัติการลงทุนของ BOI ของปี 52 ต่ำกว่าปี 51 ทั้งจำนวนโครงการ มูลค่าโครงการ และทุนจดทะเบียน รวมทั้งปัญหามาบตาพุดที่วันนี้ยังไม่มีความคืบหน้าและไม่มีแนวโน้มที่จะแก้ไขปัญหาได้ในเร็ววันนี้"

ส่วนปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำที่กระทบชาวไร่ ชาวนาเกิดขึ้นจากนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาล ทำให้ราคาข้าวในประเทศตกต่ำทั้งๆที่ราคาข้าวในต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น วันนี้ราคาข้าวขาว 5% ของรัฐบาลอภิสิทธิ์เฉลี่ยอยู่ที่ 9,666.22 บาท ต่อตัน ต่ำกว่าสมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ 10,051.12 บาทต่อตัน และรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ที่ 11,375.97 บาทต่อตัน

ปัญหาภัยแล้งทุกวันนี้รัฐบาลยังไม่ได้ให้ ความสนใจกับปัญหานี้ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก รัฐบาลพูดแต่เพียงว่าจะไปเจรจากับประเทศจีนเรื่องแม่น้ำโขงซึ่งเป็นเรื่องที่ไกลตัวและไม่มีมาตรการอะไรออกมาที่เป็นรูปธรรมเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าแต่อย่างใด มีโรงเรียนมากกว่า 30,000 แห่งทั่วประเทศที่ขาดแคลนน้ำดื่มมากกว่า 2,000 แห่ง ขาดน้ำอย่างรุนแรงซึ่งยังไม่เห็นรัฐบาลเข้าไปแก้ปัญหาแต่อย่างใด "หนี้นอกระบบทุกวันนี้มีผู้ลงทะเบียน 1,181,133 ราย คิดเป็นมูลหนี้ 122,406.2 ล้านบาท แต่เจรจาสำเร็จเพียงแค่ 34,225 ราย วงเงิน 3,077.85 ล้านบาทหรือช่วยไปได้แค่ 2.8% เท่านั้น ถือว่าเรื่องนี้รัฐบาลยังล้มเหลวอยู่"

นายปานปรีย์กล่าวสรุปว่า การที่รัฐบาลกล่าวอ้างความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโดยหยิบยกตัวเลขบางตัวขึ้นมากล่าวอ้างนั้นทั้งเรื่องตลาดหุ้นหรือการส่งออกก็ล้วนแต่เป็นสิ่งที่รัฐบาลได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกแต่ไม่ได้เกิดขึ้นจากผลงานหรือนโยบายในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศแต่อย่างใด พรรคเพื่อไทยขอให้รัฐบาลกลับไปเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ยังคั่งค้างอยู่ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วเสียก่อน

"พรรคเพื่อไทยคิดว่าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นและรัฐบาลควรที่จะทำได้ดีกว่านี้ ถ้าเศรษฐกิจดีทำไมเรายังสร้างหนี้สินเพิ่มขึ้นเป็นรายวันอยู่ ไม่มีแนวโน้มที่จะคืนหนี้เลย หากเศรษฐกิจฟื้นตัวแล้วจริง รัฐบาลก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกู้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มให้ครบวงเงิน 400,000 ล้าน ก็ควรระงับการกู้เพิ่มตั้งแต่นี้ไปทั้งหมดเพื่อจะได้ไม่เกิดภาระต่อหนี้สาธารณะของประเทศ" นายปานปรีย์กล่าว



ที่มา.ข่าวเพื่อไทย
**************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น