--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันศุกร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2553

สีชมพู เสื้อเหลืองแปลงกาย จะแปลงกายังไง ก็พวก "อำมาตย์นิยม" นั่นเอง

อันที่จริงการต่อสู้ทางการเมือง มันไม่มีสี สีเป็นสิ่งที่สมมุติกันขึ้นเท่านั้นเอง แทนอุดมการณ์ของคนกลุ่มหนึ่ง พวกที่ต่อสู้กับอำมาตยาธิปไตย ต้องการประชาธิปไตย ใช้สีแทนกลุ่มของตน คือ "สีแดง" หากจะเรียกอุดมการณ์ก็น่าจะแทนแนวคิด "เสรีประชาธิปไตย (อุดมการณ์ทางการเมือง ส่วนแนวคิดทางเศรษฐกิจอาจเป็นเสรีนิยม หรือโซเชียลลิตก็ได้)

ส่วนอีกพวกหนึ่งเป็นพวกอำมาตยาธิปไตย สนับสนุนคนชั้นสูงและกลุ่มอำนาจเก่าทางสังคม เป็นพวกนิยมเจ้าหรือ Royalist เคยมีอุดมการณ์สุดโต่งถึงระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เช่น แนวคิดถวายคืนอำนาจแก่พระมหากษัตริย์ (ซึ่งก็คือ สมบูรณาญาสิทธิราชย์) กลุ่มพวกนี้ อุดมการณ์ทางการเมืองคือ "อนุรักษ์นิยม" แต่ก่อนใช่ "สีเหลือง" แทนพวกของตน

มีพวกหนึ่งพยายามใช้สีขาว แต่ถูกจับได้ว่า ไม่ใช่ ขาวจริง แต่เป็นพวก "เหลืองปลอมตัวมา" เช่น พวกปริญญา เทวานิรมิตรกุล เป็นต้น พวกนี้อาจไม่ใช่ พวก พธม. แต่แนวคิดคือ "อนุรักษ์นิยม" เป็นเครือข่ายหนึ่งของอำมาตย์

สีขาวจริงๆ ในเมืองไทยตอนนี้ ผมยังมองไม่เห็น ไม่ว่า ประเวศ วะสี หรือ โคทม อารียา พวกนี้เหลืองแปลงตัวมาทั้งสิ้น

สีเหลืองผิดพลาดในการยึดสนามบิน ทำให้ กลายเป็น "จุดด่าง" ของพวกเสื้อเหลือง

เมื่อพวก "เสื้อแดง" เข็มแข็งขึ้น ขยายตัวอย่างรวดเร็ว พวก "อำมาตย์ก็พยายามปลุกมวลชนสู้ มวลชนที่เป็นมี "อุดมการณ์แบบอนุรักษ์นิยม" ก็ละอายที่จะใส่เสื้อเหลือง

ก็เลยพยายามแปลงกายเสียใหม่ เป็น "เสื้อชมพู"

แต่เนื้อแท้ จิตวิญญาณ อุดมการณ์ทางการเมือง ก็เป็นพวก "เสื้่อเหลือง" นั่นเอง

การเมืองไทยตอนนี้สรุปคือ "ไพร่ VS อำมาตย์"

ไพร่ ใช้ สีแดง

อำมมาตย์ละอายที่จะใช้ สีเหลือง ก็เลยพยายามแปลงกายเป็นเสื้่อสีชมพู

แปลงกายยังไงมันก็พวกเดิมนั่นแหละ



ที่มา.ไทยฟรีนิวส์
โดย.ลูกชาวนาไทย
**********************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น