พล.อ.นพดล อินทปัญญา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวกรณีถูกพาดพิงเป็นทหารแตงโมให้ข้อมูลกับกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ตนไม่อยากให้รัฐมนตรี ซึ่งเป็นทั้งผู้บังคับบัญชา และเพื่อนของตนเกิดความเสียหาย ซึ่งตนก็ไม่เคยเป็นคณะกรรมการทั้ง ศอ.รส.และ ศอฉ. ในการประชุมของ 2 หน่วยงานนี้ ก็ไม่เคยเข้าประชุม จึงเป็นไปไม่ได้ ที่จะไปรู้ความลับของที่ประชุมและไปบอกกับคนเสื้อแดง ซึ่งยอมรับว่าตนมีเพื่อนมาก มีหลายวงการ และในฐานะเลขารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็พยายามแสวงหาข้อมูลต่างๆและ มาเรียนให้ท่านทราบ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ตนจะรับรู้ข้อมูลของการประชุมและไปบอกกลุ่ม นปช.ตนไม่ใช่ทหารแตงโม ตนคือนายทหารที่เกษียณคนหนึ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้มาทำหน้าที่เลขาฯ ทั้งนี้ ทหารที่ถูกฝึกมา และ ถูกสั่งสอนมาว่าอย่าเผยแพร่ความลับของทางราชการเด็ดขาด เป็นเรื่องที่เราท่องกันมาแต่เด็ก
“ ผมเชื่อว่าไม่มีทหารแตงโม มีแต่พวกสื่อมวลชนที่ตนยอมรับว่าเก่ง อาจจะไปถามคนโน่น คนนี้ และ เขียนข่าว พวกคุณคือแตงโมงมากกว่ามั้ง ไม่ใช่พวกผม และผมไม่เชื่อว่าทหารระดับสูงของ ศอฉ.และ ศอ.รส.จะเอาความลับไปเปิดเผยกับบุคคลอื่น ซึ่งทุกคนมีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกัน มีความเป็นเอกภาพ ในส่วนของสื่อเองก็ไม่ได้เข้าร่วมประชุมกับ ศอฉ.ด้วยก็ไม่น่าจะรู้ข้อมูล สื่อเก่ง อาจจะไปสอบถามจากคนใกล้ชิด และ ไปประมวลเหตุการณ์ขึ้นมา ” พล.อ.นพดล กล่าวและว่า ส่วนที่มีข่าวว่า ตนสนิทสนมกับนางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์นั้น เป็นความจริง แต่ไม่ใช่ว่าตนสนิทกับนักการเมืองเพียงคนเดียว อย่าง นายเชน เทือกสุบรรณ ก็ถือว่าสนิทสนมกันมากกว่าอีก โดยเฉพาะกับภริยา นอกจากนั้น ยังมีนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง ซึ่งก็คุ้นเคยกัน
เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นเลขาฯของ รมว. กห. กรณีที่มีนายทหารระดับผู้บังคับบัญชาเสียชีวิตเมื่อคืนวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา จะมีการตั้งคณะตรวจสอบหรือไม่ว่าเพราะเหตุใดคนยิงถึงรู้ว่าใครเป็นผู้บังคับบัญชาและเล็งถูกคน พล .อ.นพดล กล่าวว่า ตนได้มีการพูดคุยกับรมว.กลาโหม ซึ่งท่านได้แสดงความเสียใจ ที่ผู้ใต้บังคับบัญชาได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต คิดว่าเรื่องนี้ต้องเป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม และดำเนินการสอบสวน เอาผู้กระทำผิดมาลงโทษ
เมื่อถามถึง กรณีที่มีการนำอาวุธสงครามยิงทหารที่เข้าสลายการชุมนุม พล.อ.นพดล กล่าวว่า อาวุธสงคราม เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะปราบปรามยาก คนที่ทำค่อนข้างจะเตรียมการดี คิดว่ากระบวนการยุติธรรม สามารถดำเนินการได้ ซึ่งการลักลอบขนอาวุธจากแนวชายแดน อาจจะเล็ดลอดเข้ามาบ้าง เหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 10 เม.ย. ซึ่งมีการใช้อาวุธสงครามยิงทหารและประชาชนนั้น ก็ไม่รู้เป็นใคร แต่ต้องมีการตรวจสอบต่อไป
ที่มา.เนชั่นทันข่าว
*********************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น