--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพุธที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2553

‘ทักษิณ’ควักกระเป๋าช่วยผู้เสียชีวิตศพละแสน

“ทักษิณ” ควักกระเป๋าช่วยผู้เสียชีวิตศพ 1 แสน ขณะที่ “ณัฐวุฒิ” อุบไต๋ไม่บอกแผนเคลื่อนไหวพรุ่งนี้เมื่อ เวลา 18.00 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. ขึ้นร้องเพลงบนเวทีสะพานผ่านฟ้า หลังจากนั้นกล่าวว่า การต่อสู้ของคนเสื้อแดงยังไม่หยุด จะต้องสู้ต่อไป ไม่ให้การสูญเสียของคนเสื้อแดงต้องสูญเปล่า และในวันที่ 14 เม.ย. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะมอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้เสียชีวิตผ่าน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ศพละ 1 แสนบาท

นอกจากนั้น ท่านผู้หญิงวิริยา ชวกุล ประธานกรรมการเลขาธิการมูลนิธิบำรุงขวัญทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร ชายแดนใต้ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ที่ประกาศชัดเจนว่าอยู่เคียงข้างคนเสื้อแดงบริจาคเงินร่วมสมทบกองทุนเพื่อ ผู้เสียชีวิตรวม 5 แสน และยังมีนายเผด็จ ภูริปฎิภาน คอลัมนิสต์ชื่อดังเจ้าของนามปากกา พญาไม้ สมทบกองทุนเพื่อผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเบื้องต้น 1 แสนบาท นอกจากนั้นยังรับปากว่าจะชักชวนเพื่อฝูงร่วมกันบริจาคเพิ่มเติมอีก พร้อมทั้งขอบคุณประชาชนไทยทั่วโลกที่บริจาคเงินสมทบเข้ากองทุน

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ศอ.รส. ประเมินว่าวันที่ 13 เม.ย. วันมหาสงกรานต์คนจะน้อย เพราะทุกคนต้องกลับบ้านไปหาญาติพี่น้อง และกำลังหาช่องทางรุกคนเสื้อแดงอีกภายในวันหรือสองวัน แต่ประเมินแล้วว่า คนเสื้อแดงยังเหนียวแน่น แสดงว่านายอภิสิทธิ์ถูกหลอกอีกแล้ว เพราะหน่วยงานต้องรายงานแบบถูกใจนาย เพราะไม่มีใครเชื่อว่าจะมีคนออกมาต่อสู้ในวันที่ 13 เม.ย. ทั้ง 2 เวทีไม่น้อยกว่ากัน แสดงว่าคนเสื้อแดงก้าวข้ามงานเทศกาลต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และคนเสื้อแดงจะสนุกสนานเพียงวันนี้เท่านั้น จะเริ่มรุกรบอีกครั้งในวันที่ 14 เม.ย.

นายณัฐวุฒิ ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่ขอเปิดเผยถึงยุทธวิธีและสถานที่ในการเคลื่อนไหวในวันที่ 14 เม.ย. ส่วนที่ออกข่าวว่าจะไปที่ราบ 11 นั้น ยังไม่มีแนวคิดที่จะไปยังสถานที่ดังกล่าว แต่กำหนดพื้นที่เป้าหมายและยุทธวิธีไว้เรียบร้อยแล้วรอเพียงการประกาศ เคลื่อนไหวอย่างเป็นทางการเท่านั้น

นายณัฐวุฒิยังกล่าวกรณีสำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ทรงโปรดฯ รับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยระบุว่า รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณทั้งสองพระองค์อย่างหาที่เปรียบมิได้

ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
***********************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น