พึ่งพระบารมีดับวิกฤต แม้วชี้ยุบสภา-จบทันที มาร์คใช้ราบ11ถกครม. สมานฉันท์จี้ถอนทหาร
ขอเข้าเฝ้าฯ - พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ สองอดีตนายกฯ เปิดแถลงข่าวระบุได้ทำเรื่องขอเข้าเฝ้าฯ พึ่งพระบารมียุติปัญหาขัดแย้งในบ้านเมือง ขณะที่ทางสำนัก ราชเลขาฯ ปฏิเสธยังไม่ได้รับการประสานมาแต่อย่างใด
"จิ๋ว-สมชาย" สองอดีตนายกฯ แถลงใหญ่ ขอเข้าเฝ้าฯ ในหลวง ขอพึ่งพระบารมีดับวิกฤตบ้านเมือง อ้างได้ข่าว 1-2 วันข้างหน้าจะเกิดความรุนแรงปราบปรามประชาชน "แม้ว" แวะบรูไน จี้ "มาร์ค" ยุบสภาทุกอย่างจบทันที สื่อนอกตีข่าวอดีตนายกฯ ไทยเตรียมลี้ภัยอยู่ฟิจิ "ดิเรก" อดีตปธ.สมานฉันท์แนะเลิกพ.ร.ก. ฉุกเฉิน ถอนทหาร แล้วเจรจา เตือนอ้างก่อการร้ายแล้วปราบยิ่งทำวิกฤตบานปลาย ปชป.โหยหาทหารที่กล้ารับผิดชอบเพียงผู้เดียวหากมีคนเจ็บคนตาย ศาลแพ่งยกฟ้องมาร์ค-เทือกใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินแบนพีทีวี
แม้วแวะบรูไนจี้มาร์คยุบสภาด่วน
เมื่อวันที่ 19 เม.ย.สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานสัมภาษณ์พิเศษทางโทรศัพท์พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะเดินทางไปแวะประเทศบรูไน โดยพ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ปัญหาการเมืองต้องแก้ด้วยวิถีทางการเมืองเท่านั้น ขอเรียกร้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภา และกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปโดยด่วน เพราะเป็นวิธีเดียวเท่านั้นที่จะปลดชนวนสถานการณ์ตึงเครียด และลดการเผชิญหน้ากันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง
สื่อนอกตีข่าวไปขอลี้ภัยในฟิจิ
เว็บไซต์สถานีวิทยุ เรดิโอ นิวซีแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล รายงานอ้างแหล่งข่าวจากหนังสือพิมพ์มอร์นิ่ง ซิดนีย์ เฮรัลด์ ของออสเตรเลียว่า พ.ต.ท.ทักษิณซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนีโทษจำคุก 2 ปี อาจกำลังเดินทางไปขอลี้ภัยในประเทศฟิจิ เนื่องจากไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับไทย ขณะที่รัฐบาลฟิจิยืนยันว่าจะปฏิบัติต่อพ.ต.ท.ทักษิณเช่นเดียวกับผู้อพยพธรรมดาทุกคนอย่างเท่าเทียม
นายราตู อีเปลิ กานิลัว รมต.ตรวจคนเข้าเมืองฟิจิ กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว การขอเป็นพลเมืองเพื่อลี้ภัยต้องพิจารณาเป็นรายกรณี สำหรับพ.ต.ท.ทักษิณอาจเป็นไปได้ยาก เนื่องจากคุณสมบัติบางเรื่อง แต่หากเข้ามาเพื่อทำธุรกิจ รัฐบาลฟิจิพร้อมพิจารณา เพราะนโยบายของรัฐบาลฟิจิให้ความสำคัญกับนักลงทุนรายใหญ่จากต่างชาติ
"รัฐบาลจะให้สิทธิพิเศษกับบุคคลที่สามารถลงทุนในฟิจิด้วยเงินทุนจำนวนสูงๆ" นายราตู กล่าว
วันเดียวกัน เว็บไซต์สำนักข่าวเรดิโอฟิจิ เปิดเผยว่า นายพลเรือจัตวาแฟรงก์ ไบนิมารามา นายกรัฐมนตรีรัฐบาลเฉพาะกาลฟิจิ กล่าวยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางมาฟิจิเพื่อแสวงหาโอกาสในการลงทุน
"จิ๋ว"ควง"สมชาย"แถลงใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า เวลา 14.00 น.พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ และประธานพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายสมชาย วงค์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ และอดีตหัวหน้าพรรคพลังประชาชน มีกำหนดร่วมกันแถลงข่าว และออกแถลงการณ์เสนอข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล ทั้งนี้เจ้าหน้าที่พรรคจัดเตรียมสถานที่ โดยอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ติดตั้งบนเวทีแถลงข่าว
เมื่อถึงเวลาแถลงข่าว พล.อ.ชวลิตและนายสมชายถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ จากนั้นแถลงข่าวร่วมกัน นายสมชายกล่าวว่า วันนี้บ้านเมืองมีวิกฤตเกิดขึ้น มีความขัดแย้งรุนแรง นำไปสู่ความเสียหายทั้งชีวิตประชาชน และความแตกแยกอย่างใหญ่หลวง ตนทั้งสองในฐานะอดีตนายกฯ เห็นว่าในระยะยาวเราไม่อาจแก้ปัญหาของประเทศได้ ถ้าไม่สร้างประชาธิปไตยที่แท้จริงให้เกิดขึ้นในประเทศและขจัดการเลือกปฏิบัติ 2 มาตรฐาน
อดีตนายกฯแถลงอีกว่า ดังนั้นเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไป ตนและพล.อ.ชวลิตมีข้อเรียกร้องสำคัญคือ 1.ต้องหยุดความรุนแรงและหยุดสังหารประชาชนทันที 2.รัฐบาลต้องประกันว่าจะไม่มีคนไทยเสียชีวิตจากการชุมนุมทางการเมืองอีก 3.ต้องยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินโดยทันที เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิชุมนุมทางการเมืองตามปกติ 4.ยุติการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว เลิกปิดกั้นสื่อสารมวลชนและละเมิดสิทธิการรับรู้ข่าวสารของประชาชน และ5.คืนอำนาจประชาชนเลือกรัฐบาลใหม่ โดยยุบสภาทันที
ยุบสภาจบ-ไม่ต้องมีคนตาย
ผู้สื่อข่าวถามว่าจุดยืนของพรรคเพื่อไทยคือจุดยืนเดียวกับม็อบเสื้อแดง นายสมชายกล่าวว่า ยุบสภาก็จบ ตนเคยเป็นนายกฯ ถ้ายุบสภาพรุ่งนี้ไม่ต้องมีคนตายอีกต่อไรป เมื่อถามว่ายุบสภาแล้วตั้งรัฐบาลแห่งชาติรักษาการ เป็นไปได้หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า เป็นไปได้หลายทางแต่คิดว่าบางอย่างมันอาจไม่จบสิ้น ไม่เหมือนกับการตัดปัญหาอย่างที่เสนอ เพราะการตั้งรัฐบาลแห่งชาติไม่ใช่เรื่องง่าย จะตั้งอย่างไร วิธีไหน ใครเป็นใคร เมื่อถึงเวลานั้นจะรบรากันขนาดไหน แต่ถ้าตัดสินใจให้ประชาชนเลือกเองทีเดียวก็จบ หากเลือกตั้งครั้งต่อไปพรรคประชาธิปัตย์ได้คะแนน 280 หรือ 240 เราเต็มใจให้บริหารบ้านเมือง แต่ถ้าประชาชนเลือกคนอื่น เลือกพรรคเพื่อไทยทุกคนก็ต้องยอมรับ คิดว่ายุติธรรมที่สุด
เมื่อถามว่าประเมินหรือไม่ม็อบเสื้อแดงอาจจะจบ แต่สีอื่นอาจไม่จบ นายสมชายกล่าวว่า การเรียกร้องเป็นสิทธิของประชาชน ถ้าทำโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ตามรัฐธรรมนูญ ใครๆ ก็เรียกร้องได้ แต่ข้อเรียกร้องอันไหนดีที่สุด และระงับเหตุร้ายแรงได้ดีที่สุด ระงับชีวิตของประชาชนได้ดีที่สุดควรเลือกทางนั้นใช่หรือไม่
ขอเข้าเฝ้าฯขอพระมหากรุณาธิคุณ
ด้านพล.อ.ชวลิตกล่าวว่า สาระสำคัญขอให้รัฐบาลยุติสั่งการกองทัพใช้กำลังกับประชาชน เพราะการสูญเสียชิวิตแแม้แต่คนเดียวก็ยอมรับไม่ได้ ในฐานะเคยเป็นผบ.ทบ. ผบ.สส. น้อยคนนักที่จะได้รับพระราชทานเหรียญจุลจอมเกล้าฯ เหรียญรามา และรับผิดชอบต่อความสงบเรียบร้อย ของบ้านเมืองตลอดเวลารับราชการ สถานการณ์ ขณะนี้หนทางที่ตนและพรรคเพื่อไทยคิด คือ หวังในพระมหากรุณาธิคุณที่จะพระราชทานให้พวกเรา เพื่อยุติความขัดแย้งที่มีมานาน จนสร้างความเสียหายให้กับบ้านเมืองอย่างมหาศาล
"สิ่งที่อยู่ในหัวใจของพวกเราวันนี้คือขอรับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณปกเกล้าปกกระ หม่อมให้กับพี่น้องคนไทย ให้กับพวกเราด้วย ผมคิดว่าถ้าไม่มีพระมหากรุณาธิคุณ ก็ไม่แน่ใจต่อการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นภายในวันสองวันข้างหน้านี้ และจะเป็นตราบาปที่คนไทยไม่ต้องการเห็น หากมีสิ่งใดที่ผิดพลาดข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียว เรามีความพยายามไปกราบพระบาทด้วยตัวเอง แต่พระอาการยังไม่ค่อยดี แต่วันนี้ทรงพระสำราญแล้ว ก็อาจมีพระมหากรุณาธิคุณ และจะเป็นโชคอย่างที่สุดของพี่น้องคนไทย" พล.อ.ชวลิต กล่าว
ห่วงทหารชิงฆ่าประชาชน
พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ยืนยันมาตลอดว่าที่ตัดสินใจทำงานทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทย เพราะมีภารกิจที่ต้องพิสูจน์ว่าพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อสีนี้ และคนที่เกี่ยวข้องมีความจงรักภักดี วันนี้พิสูจน์ด้วยสายเลือดทหารรักษาพระองค์ สิ่งที่ตนหวังคือให้สังคมไทยเกิดสันติสุขและปัญหาได้รับการแก้ไข ตนและนายสมชายจะยืนหยัดทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน โดยเฉพาะคือการสถาปนาการปกครองในระบอบประชา ธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐให้สถิตสถาพรต่อไปให้จงได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าเกรงหรือไม่ว่ารัฐบาลจะแปรการขอพระมหากรุณาธิคุณ ว่าทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ความหวังในพระมหากรุณาธิคุณที่ลูกทุกคนมีต่อเสด็จพ่อเป็นความน่ารัก เชื่อว่าพระองค์ท่านคงไม่มีน้ำพระทัยในลักษณะนั้น
เมื่อถามว่าแสดงว่า 1-2 วันนี้ทหารจะใช้กำลังสลายประชาชน พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า นั่นคือสิ่งที่ต้องเน้นย้ำ เพราะกลัวว่าทหารจะใช้กำลังเข่นฆ่าประชาชน หากการพัฒนาด้านการ เมืองการปกครอง หรือพัฒนาทางสังคมของเมืองไทยที่กำลังดำเนินการกันอยู่นี้ มองว่าเป็นการพัฒนาโดยเป็นสมุนหรือเพื่อประโยชน์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นสิ่งที่น่าเสียใจเป็นที่สุด เพราะไม่น่าจะมีความคิดที่คับแคบ ความคิดของประชาชนวันนี้ไปไกลและมีอุดมการณ์ที่จะเห็นประชาธิป ไตยอย่างแท้จริง ผู้นำและทหารส่วนใหญ่ในกองทัพมีความผูกพันกับประชาชนรวมทั้งคนเสื้อแดง แต่ด้วยปัจจัยบางประการที่เกรงว่าจะเกิดข้อขัดแย้ง และใช้ความรุนแรงจึงต้องออกมาเรียกร้อง
ภูมิใจอนุพงษ์ไม่ปราบม็อบ
ต่อข้อถามว่าพรรคเพื่อไทยมีข้อเสนอดำเนินการกับกลุ่มก่อการร้ายหรือมือที่สามอย่างไร พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ยังไม่เห็นว่ากลุ่มที่พูดถึงคือกลุ่มไหน และไม่เข้าใจว่าการแถลงของรัฐบาลที่ระบุว่าการเกิดเหตุระเบิดที่โน่นที่นี่ หรือเสาไฟฟ้า เกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดง ความจริงไม่เกี่ยวกับคนเสื้อแดงแม้แต่น้อย รวมถึงการพูดถึงคนที่แต่งกายที่ระบุไม่ได้ว่าเป็นพวกใด ที่เข้ามาพยายามยั้บยั้งการปะทะระหว่างทหารกับประชาชนเป็นการก่อการร้าย ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเจ้าหน้าที่จึงวิเคราะห์เช่นนั้นได้ และน่าเสียใจกว่านั้นคือเจ้าหน้าที่ในกองทัพบางคนไม่มีประสบการณ์ลักษณะนี้มาก่อน กลับออกมาพูดรุนแรงโดยชี้ว่ากองทัพต้องใช้กำลังเพื่อปราบปรามประชาชนถ้าจำเป็น
เมื่อถามว่ามองว่าพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. จะเลือกแนวทางใด พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า คงไปพูดถึงความคิดพล.อ.อนุพงษ์ไม่ได้ แต่เท่าที่ดูพล.อ.อนุพงษ์ยังมีความเข้าใจปัญหาการเมืองและความปรารถนาของประชาชนเป็นอย่างดี จึงมีความภูมิใจในตัวพล.อ.อนุพงษ์ เชื่อว่าไม่ใช่คนๆนี้ที่จะใช้กำลังปราบปรามประชาชน
พยายามติดต่อราชเลขาธิการ
"พยายามประสานและติดต่อไปยังท่านราชเลขาธิการเป็นการภายใน เพื่อขอเข้าเฝ้าฯ ยังพยายามติดต่อท่านอยู่ วันนี้ทุกคนวุ่นวายกันหมดทุกอย่าง เหมือนที่นายสมชายพูด ถ้าวงจรของสถานการณ์ปล่อยให้เดินไปอย่างนี้เรื่อยๆ ไม่ตัดวงจร มันจะยุ่งจริงๆ ปล่อยให้เดินแบบนี้ไม่ได้ อาจจะพัฒนาไปสู่จุดที่อันตรายมากๆ แต่ถ้าตัดวงจรอย่างน้อยที่สุดหยุดชั่วคราวแล้วเอาอำนาจนี้ให้ประชาชน" พล.อ.ชวลิตกล่าว
พล.อ.ชวลิตกล่าวต่อว่า มีคนกลุ่มหนึ่งไม่เชื่อว่าการเลือกตั้งจากประชาชนคืออำนาจที่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง แต่ในส่วนกองทัพต้องขอร้องว่าอย่าใช้กำลังกับประชาชน รับรองหากใช้ความรุนแรงคงไม่ใช่แค่ 400-500 ศพ มันจะเยอะกว่านั้น ต่อข้อถามว่าการพูดเรื่องพระมหากรุณาธิคุณ เพราะอยากเห็นภาพลักษณะเดียวกับเมื่อครั้งพฤษภาทมิฬใช่หรือไม่ พล.อ. ชวลิตกล่าวว่า เป็นความฝันของตน เป็นความหวังจริงๆ เพราะว่ามีแต่พระมหากรุณาธิคุณ เท่านั้นที่จะปกป้องทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น
ทักษิณไม่เกี่ยวคนไทยพัฒนาไปเยอะ
เมื่อถามว่าถ้าเลือกตั้งใหม่พล.อ.ชวลิตพร้อมเป็นนายกฯหรือไม่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า แก่จะตายอยู่แล้ว คนในพรรคที่เหมาะสมมีเยอะ จะชี้ตัวให้ ตนจบหน้าที่ของตนเองบ้านเมืองจะไปสู่ความสงบสุขอีกครั้ง เมื่อถามว่าหารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณถึงแนวคิดประสานราชเลขาธิการเพื่อขอเข้าเฝ้าฯหรือไม่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ไกล ไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่ได้หารือ ไม่ได้คุย ไม่ได้พูด สถานการณ์ตอนนี้คนไทยพัฒนาไปเยอะ พัฒนาไปสู่ประชาธิปไตยที่มุ่งหวัง ไม่ใช่พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่คนหนึ่งคนใด บ้านเมืองอื่นกว่าจะเป็นประธิปไตยก็ผ่านขั้นตอนของความโหดร้ายกันมาก เราอย่าเป็นอย่างนั้นเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่าทะเลาะกันอย่างนี้แล้วยังให้พ่อมาแก้ปัญหา เมื่อไหร่ลูกจะโตเสียที พล.อ.ชวลิต หัวเราะก่อนกล่าวว่า ลูกไม่โตสักที
รายงานข่าวจากสำนักราชเลขาธิการแจ้งว่า กรณีพล.อ.ชวลิตแถลงข่าวเรื่องกำลังติดต่อประสานงานราชเลขาธิการเพื่อขอเข้าเฝ้าฯนั้น ทางสำนักราชเลขาธิการขอชี้แจงว่ายังไม่เคยได้รับการติดต่อใดๆจากพล.อ.ชวลิต
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ยังไม่เคยมีหนังสือจากพล.อ.ชวลิตแจ้งมาเลย อยู่ๆ การแถลงว่าจะขอเข้าเฝ้าฯ อีกด้านหนึ่งเหมือนเป็นการกดดัน เพราะอยู่ดีๆ ไม่ใช่ใครจะเข้าเฝ้าฯก็ได้ จะต้องทำเรื่องขึ้นมาก่อน และต้องพิจารณาว่าสมควรนำความขึ้นทูลเกล้าฯหรือไม่ และถ้าทูลเกล้าฯขึ้นไปแล้วก็ต้องได้รับพระบรมราชานุญาตก่อนถึงจะมีกำหนดเข้าเฝ้าฯ ดังนั้นการออกข่าวก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการตามขั้นตอน ถือเป็นการกดดัน ซึ่งมิบังควรอย่างยิ่ง
กก.สิทธิ์จัดคิวคุย"เติ้ง"
วันเดียวกันนางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า วันที่ 20 เม.ย.คณะกรรมการสิทธิ์จะไปพบนายบรรหาร ศิลปอาชา ในฐานะอดีตนายกฯ เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง จะพูดคุยแนวทางเดียวกับที่หารือกับอดีตนายกฯหลายคนที่ผ่านมา อาทิ นายอานันท์ ปันยารชุน พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ หวังว่าคงจะได้รับคำตอบจากนายบรรหารมากกว่าการเสนอแก้รัฐธรรมนูญแล้วค่อยยุบสภา เพราะอยากได้ความคิดเห็นแตกต่างไปจากที่เคยแสดงผ่านสื่อ
นางอมรากล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะพบกับนายชวน หลีกภัย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก่อนนำข้อมูลทั้งหมดมาสรุปเสนอต่อนายกฯ และเผยแพร่ต่อสาธารณชน ทั้งนี้ขอปฏิเสธว่าไม่เคยมีแนวคิดเชิญอดีตนายกฯทั้ง 5 คนมานั่งโต๊ะเจรจาหาทางออกของประเทศร่วมกัน เพราะแต่ละคนมีจุดยืนของตัวเองที่แตกต่างกัน การให้มานั่งโต๊ะพูดคุยกันคงเป็นเรื่องยาก
อดีตปธ.สมานฉันท์เตือนมาร์ค
นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี อดีตประธานคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ปัญหาการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ตามที่ผบ.ทบ.พูดไว้ อย่าใช้กำลังทหารเข้าแก้ รัฐบาลต้องตั้งสติให้ดีและวิเคราะห์สถานการณ์ให้ออก ถ้าใช้มาตรการเหมือนที่ใช้อยู่ขณะนี้จะนำไปสู่ความรุนแรงเกิดสงครามระหว่างประชาชน คนที่มาชุมนุมไม่ได้ทำเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ แต่มาชุมนุมเพราะอุดมการณ์ประชาธิปไตยและความไม่เป็นธรรมที่ได้รับ ตรงนี้รัฐบาลต้องมองให้ออกว่าผู้มาชุมนุมไม่ได้มีเจตนาก่อการร้าย
นายดิเรกกล่าวว่า เรื่องกองกำลังไม่ทราบฝ่ายในวันที่ 10 เม.ย. ฝ่ายทหารต้องไปวิเคราะห์เอง แต่อย่าเหมารวมกับผู้ชุมนุม เพราะถ้าใช้กำลังปราบ ถามว่าจะปราบทั้งประเทศหมดหรือ หากมีเสียงปืนดังขึ้นแม้ทหารอาจชนะในตอนนี้แต่ปัญหาไม่จบ อาจเจอการก่อความรุนแรงทุกจังหวัด แล้วผู้คนจะอยู่กันอย่างไร ทำให้ยิ่งเป็นปัญหาระยาว ตนเกรงว่าจะกลายเป็น 3 จังหวัดภาคใต้ไปทั่วประเทศ
นายดิเรกกล่าวด้วยว่า รัฐบาลต้องถอนทหารออกไป และยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วเปิดเจรจาให้ได้ รัฐบาลต้องลดเงื่อนไขทุกเรื่องให้ยอมกันให้ได้ ปกติประเทศประชาธิปไตยหากถึงทางตันก็ยุบสภา แต่ก่อนถึงทางตันต้องเจรจากันเป็นระยะ ถ้าไม่ได้ผลจริงๆ ก็ต้องยุบ แม้เลือกตั้งใหม่รัฐบาลใหม่อยู่ไม่นานแล้วต้องยุบอีกก็ตาม ภาวะแบบนี้จะเกิดขึ้นช่วงเปลี่ยนผ่านการเมือง แต่สุดท้ายจะลงตัวเอง แต่อย่าใช้กำลังสลายการชุมนุมเด็ดขาด เพราะจะกลายเป็นสงครามประชาชนที่เอาไม่อยู่ และรัฐบาลต้องทบทวนเรื่องเสรีนิยมประชา ธิปไตย และปัญหาเรื่อง 2 มาตรฐานในเรื่อง ใหญ่ๆ และหยุดใช้สื่อของรัฐปลุกระดม
โหรส.ว.ชี้ดวงมาร์ค-ดวงเมืองแย่
ขณะที่นายบุญเลิศ ไพรินทร์ อดีตส.ว. ฉะเชิงเทรา เจ้าของฉายาโหรส.ว. กล่าวว่า ทางโหราศาสตร์ดวงบ้านดวงเมืองไม่ดีเลยตอนนี้ ดาวร้ายที่ให้โทษตรึงดวงกรุงเทพฯมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงประชาธิปไตยเปราะบางมาก เพราะถูกตรึงด้วยดาวบาปเคราะห์ หรือดาวร้ายทุกด้าน โอกาสกระทบกระเทือนประชาธิปไตยมีมาก ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 26 เม.ย.53 ถึงวันที่ 3 พ.ค.54 ทั้งปี เป็นช่วงที่ไม่ดี มีปัญหามาก การแก้ไขต้องใช้สติ ปัญญา และความจริงใจเท่านั้น
นายบุญเลิศกล่าวว่า เหตุการณ์ความรุนแรงจะรุนแรงไปเรื่อยๆ จบไม่ได้ตอนนี้ และขัดแย้งกันรุนแรงมากขึ้นด้วย ดวงผู้นำ ดวงผู้บริหาร ตั้งแต่ 26 เม.ย.53 ดวงนายกฯ ดวงเมืองไม่ดี ดวงนายกฯดาวให้คุณไม่สามารถให้คุณได้ ขณะดาวร้ายทำมุมร้ายส่งถึงดวงนายกฯมากขึ้น พอวันที่ 26 เม.ย.53 ไปแล้วให้คุณไม่ได้จะลำบาก โอกาสมีความรุนแรงมากขึ้น โอกาสเปลี่ยนแปลงรัฐบาลมีมากขึ้น ทหารอาจเข้ามามีบทบาทมากขึ้น บ้านเมืองจะถึงทางตัน ดวงหัวหน้ารัฐบาล ดวงเมืองไม่สู้ดี เมื่อรัฐบาลแก้ปัญหาไม่ได้ทหารจะเข้ามาแก้แทน อาจเปลี่ยนแปลงโดยปฏิวัติรัฐประหาร อยากให้ผู้ชุมนุมหันมาพูดจากัน มิฉะนั้นเสื้อแดงจะลงไม่สวย จากนั้นกำหนดวันยุบสภาให้แน่นอน เวลา 6 เดือนเหมาะที่สุด ยุบ 1 ต.ค.แล้วเลือกตั้งพ.ย.-ธ.ค.ไม่ต้องรอถึงปลายปี เนื่องจากดวงเปลี่ยนแปลงช่วงก.ย.-ต.ค.-พ.ย. ดวงรัฐบาลร่อแร่ หากรัฐบาลไม่ทำทหารจะทำ ขอเตือนนายอภิสิทธิ์จะเกิดการนองเลือด
ส.ว.แยกข้างถล่มฝ่ายตรงข้าม
เมื่อเวลา 09.30 น.ที่รัฐสภา วุฒิสภาประชุม โดยมีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธาน ก่อนเข้าระเบียบวาระสมาชิกหารือถึงสถานการณ์บ้านเมือง กรณีการชุมนุมของคนเสื้อแดง และเหตุปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย. โดยสมาชิกที่ขอหารือเกือบทั้งหมดเป็นกลุ่ม 40 ส.ว. เน้นโจมตีแกนนำนปช.เป็นหลัก
ขณะที่กลุ่มส.ว.เลือกตั้ง มีเพียงนางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ อภิปรายเรียกร้องนายกฯแสดงภาวะผู้นำที่ชัดเจนมากกว่า 7 วันที่ผ่านมา เมื่อมีผู้เสียชีวิตถึง 25 ศพ ใครรับผิดชอบ ทำไมนายกฯไม่ออกมาชี้แจงประชาชนให้ชัดเจน จากนั้นนายประสพสุขขอให้วุฒิสภายืนไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตวันที่ 10 เม.ย. 1 นาที ก่อนปิดประชุมเนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ
ยื่นมาร์คเข้าสู่กระบวนการสภา
ต่อมาเวลา 14.00 น.ตัวแทนส.ว. 24 คน นำโดยนายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ นางกอบกุล พันธ์เจริญวรกุล และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา แถลงกรณียื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ เพื่อขอให้นำปัญหากลุ่มนปช.เข้าสู่การแก้ไขโดยกระบวนการรัฐสภา เนื่องจากเห็นว่าการชุมนุมยังมีต่อเนื่องและขยายตัวมีหลายสีมากขึ้น ขณะที่รัฐบาลยังไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ แต่กลับกล่าวหาผู้ชุมนุมเป็นผู้ก่อการร้าย และดำเนินการยั่วยุโดยสื่อของรัฐ ข่มขู่โดยโฆษกต่างๆ ซึ่งนำไปสู่การเผชิญหน้า ท้าทาย สุดท้ายอาจสูญเสียชีวิต ดังนั้นส.ว.ทั้ง 24 คนขอเรียกร้องนายกฯตอบรับเข้าชี้แจงในที่ประชุมวุฒิสภ ตามที่ส.ว.ยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ หรือรัฐบาลจะขอเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อให้ส.ส. ส.ว.ร่วมเสนอทางออกที่ดีที่สุดนำพาประเทศกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว
นายเรืองไกร กล่าวถึงกลุ่มพันธมิตรฯ และกลุ่มเสื้อหลากสีเคลื่อนไหวในขณะนี้ว่า ไม่ควรออกมา เพราะยิ่งตอกย้ำภาพว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ได้ผล แม้จะอ้างว่ามาให้กำลังใจและสนับสนุนรัฐบาล แต่ถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายเช่นเดียวกับกลุ่มเสื้อแดง
จากนั้นเวลา 15.00 น.นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ พร้อมด้วยนายวิทยา อินาลา ส.ว.นคร พนม และคณะ เดินทางไปหารือกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย แกนนำนปช. ที่เวทีคนเสื้อแดงแยกราชประสงค์ เพื่อขอคำยืนยันจากนปช.ว่าเมื่อเปิดประชุมสภาแล้วจะไม่ไปปิดล้อมรัฐสภา แต่นายจตุพรยังไม่รับปาก ขอหารือกับแกนนำนปช.เพื่อตัดสินใจ
รัฐบาลตอบรับให้ส.ว.ซักฟอก
ด้านนายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิปรัฐบาลมีมติให้วันที่ 21 และ 22 เม.ย.ประชุมสภาตามปกติ เพื่อพิจารณากฎหมายที่ค้างอยู่ให้แล้วเสร็จ มั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาคนเสื้อแดงมาปิดล้อมสภา ไม่จำเป็นต้องขอกำลังทหารมาดูแลความปลอดภัย
นายวิทยาในฐานะแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมพรรคประชาธิปัตย์วันที่ 20 เม.ย.ว่า จะหยิบยกเรื่องแก้รัฐธรรมนูญมาหารือ ประเมินสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งนี้วันที่ 23 เม.ย.รัฐบาลตอบรับเข้าชี้แจงที่ประชุมวุฒิสภาที่ขอเปิดญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 161 ส่วนนายกฯจะเข้าชี้แจงหรือไม่ขึ้นกับการตัดสินใจของนายกฯ
ประชุมครม. 20 เม.ย.ในราบ 11
ส่วนที่ศอฉ.ภายในร.11 รอ. นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า กำลังพิจารณาสถานที่ประชุมครม.วันอังคารที่ 20 เม.ย. ซึ่งมีหลายแห่งรวมทั้งหอประชุมร.11 รอ. ภายใน 1-2 วันนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ จะออกมาพบสื่อมวลชนเพื่อสื่อสารถึงประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯจะเข้าทำงานที่ทำเนียบได้เมื่อไหร่ นายปณิธานกล่าวว่า "พร้อมเมื่อไหร่ก็จะเข้า"
ทั้งนี้นายกฯไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนนาน 9 วันแล้ว
ต่อมาเวลา 18.00 น.นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า ได้รับการยืนยันแล้วว่าจะใช้หอประชุมในร.11 รอ.เป็นสถานที่ประชุมครม.วันที่ 20 เม.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากร.11 รอ.ว่า ร.11 รอ.จัดเตรียมอาคารศาสนสถานเป็นสถานที่ประชุมครม. โดยติดตั้งโต๊ะ เก้าอี้ ไมโครโฟนไว้ครบจำนวน ครม. และเตรียมเก้าอี้สำหรับผู้เกี่ยวข้องอื่นๆที่เข้าร่วมประชุมด้วย ส่วนด้านนอกอาคารกางเต็นท์สีขาวแบบปิดติดเครื่องปรับอากาศ 4 หลัง พร้อมโต๊ะเก้าอี้ไว้สำหรับผู้ติดตามครม.และผู้รอชี้แจงครม. และเตรียมพื้นที่เฉพาะไว้สำหรับสื่อมวลชนเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย เนื่องจากสถานที่ประชุมครม.ดังกล่าวอยู่ใกล้สถานที่ทำงานของนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในศอฉ.ซึ่งมีมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด
นิพิฏฐ์ถกชวนวางแผนสู้ยุบปชป.
วันเดียวกันที่พรรคประชาธิปัตย์ ช่วงเช้านายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรค เข้าหารือกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค เกี่ยวกับแนวทางต่อสู้คดีกกต.มีคำสั่งยุบพรรคประชาธิปัตย์
นายนิพิฏฐ์ให้สัมภาษณ์หลังหารือว่า วันที่ 20 เม.ย.เวลา 09.30 น. นายชวนจะเป็นประธานประชุมคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย เพื่อให้ที่ประชุมเข้าใจข้อกฎหมายตรงกัน และเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลด้วย ส่วนกรณีนางสดศรี สัตยธรรม กกต. ระบุมติกกต.ยุบพรรคประชาธิปัตย์ เป็นไปตามมติของคณะทำงานนายทะเบียนพรรคการเมืองที่ให้ยุบด้วยเสียง 7 ต่อ 2 นั้น การพิจารณาให้ใบเหลืองใบแดงกับส.ส.ก็ตั้งคณะทำงานมาพิจารณาก่อนเช่นกัน เมื่อคณะทำงานเสนอให้ใบเหลืองหรือใบแดง มีหลายครั้งที่กกต.มีมติให้ใบขาวหรือยกคำร้อง ฉะนั้นความเห็นของคณะทำงานนายทะเบียนพรรค การเมือง ถือเป็นความเห็นหนึ่ง แต่ที่สุดแล้วต้องอยู่ที่การวินิจฉัยของนายทะเบียนพรรค การเมือง
โหยหา"ขอรับผิดชอบเพียงผู้เดียว"
นายนิพิฏฐ์กล่าวถึงการแก้ปัญหากลุ่มนปช. ว่า รัฐบาลต้องมีความเข้มแข็งภายใต้กฎหมายที่บังคับใช้ สังคมควรออกมาสนับสนุนมากกว่านี้ เป็นฉันทามติให้รัฐบาลกล้าตัดสินใจดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุม ควรมีคนในฝ่ายปฏิบัติกล้าบอกนายกฯว่าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว หากเกิดมีผู้บาดเจ็บและล้มตาย จะปล่อยให้สถานการณ์เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้ สังคมต้องยอมรับว่าการแก้ปัญหาครั้งนี้ต้องมีความสูญเสียเกิดขึ้น ไม่มากก็น้อย พล.อ.อนุพงษ์ระบุเรื่องนี้เป็นปัญหาการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง เป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นปัญหาของประเทศชาติ การชุมนุมของคนเสื้อแดงส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมและความปลอดภัยของประชาชน ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกับรัฐบาล ไม่ใช่ปล่อยรัฐบาลแก้ปัญหาอยู่ฝ่ายเดียว
ขณะที่ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์แจ้งว่า วันที่ 20 เม.ย.เวลา 09.00 น.นายชวนจะให้สัมภาษณ์กรณีพล.อ.ชวลิตและนายสมชาย อดีตนายกฯ จะขอเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอพระมหากรุณาธิคุณยุติปัญหาบ้านเมือง
ปิดทางยุบสภา-นายกฯลาออก
ด้านนายชุมพล กาญจนะ ประธานส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันที่ 20 เม.ย. เชิญส.ส.ประชุมและรับประทานอาหารร่วมกัน โดยจะหารือ 2-3 เรื่อง ที่ผ่านมาเคยมีส.ส.ของพรรคไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ แต่ขณะนั้นสถานการณ์การเมืองยังไม่เข้มข้นเท่านี้ วันนี้การเมืองเข้มข้น มีเสียงเรียกร้องจากหลายส่วนว่าควรปรับปรุงแก้ไข แต่คงไม่ถึงกับต้องให้ส.ส. โหวตว่าพรรคและรัฐบาลจะเดินไปทางไหน ประเด็นยุบสภาหรือนายกฯลาออกปิดทางไปได้เลย เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย พรรคร่วมเองก็ได้ฟังเสียงสะท้อนของประชาชนเหมือนกันว่าให้รัฐบาลอยู่ต่อ เพื่อกอบกู้เศรษฐกิจและแก้ปัญหาทางการเมืองต่อไป
ที่มา.ข่าวสดรายวัน
*************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น