--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันจันทร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2553

รุนแรงที่ไม่ใช้กำลัง

คำขวัญติดปากข้อหนึ่งของสังคมไทย ช่วงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในระยะเวลา 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็คือขอให้กลุ่มที่เผชิญหน้ากันอยู่อย่าใช้ความรุนแรงเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหา

ความรุนแรงที่กล่าวถึงนั้นพุ่งเป้าไปที่การใช้กำลังเข้าปะทะหรือเอาชนะอีกฝ่ายหนึ่งเป็นสำคัญ
แต่ที่สังคมจะต้องระวังก็คือการใช้ความรุนแรงชนิดที่ไม่มีการใช้กำลัง แต่ก่อให้เกิดความเสียหายและบาดแผลแก่สังคมได้ไม่น้อยไปกว่ากัน
ยกตัวอย่างเช่นการป้ายสีสาดโคลน ด้วยความเท็จหรือข้อเท็จจริงที่พูดไม่หมด
ไปจนกระทั่งถึงการใช้วาจาส่อเสียดยุยง หรือเหยียดหยามเหยียบย่ำอีกฝ่ายหนึ่ง


ความรุนแรงที่ไม่ใช้กำลัง แต่แสดงออกด้วยท่าทีหรือวาจาเช่นนี้ ไม่ก่อแผลทางกายก็จริง แต่สร้างแผลในใจให้กับฝ่ายตรงข้ามอย่างร้ายกาจ
และสามารถก่อให้เกิดความเกลียดชังเป็นส่วนตัวต่อกันขึ้นมาได้โดยไม่ยาก ความเกลียดชังชนิดนี้ยิ่งจะทำให้ความแตกแยกที่มีอยู่ในสังคมร้าวลึกจนยากจะประสานยิ่งขึ้น
เพราะการต่อสู้ที่เริ่มต้นขึ้นด้วยอุดมการณ์หรือผลประโยชน์ จะแปรเปลี่ยนเป็นเรื่องส่วนตัว เป็นเครื่องของอารมณ์ความรู้สึก เป็นเรื่องที่ไม่สามารถใช้เหตุผลเข้าอธิบายหรือคลี่คลายได้อีก
ถึงวันนั้นแม้ต้องการประสานเยียวยาหรือเรียกหาความสมานฉันท์ก็อาจจะสายเกินการณ์


ฉะนั้น ถ้าตระหนักและเป็นกังวลอย่างแท้จริงว่าความรุนแรงจากการเผชิญหน้าทางการเมืองในปัจจุบันจะทำให้สังคมเดินหน้าเข้าสู่กลียุค
ก็จะต้องหยุดพฤติกรรมความรุนแรงที่ไม่ใช้กำลังเหล่านี้ หรือลดการกระทำที่จงใจทำร้าย ดูถูกเหยียดหยามอีกฝ่ายให้เหลือน้อยที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือบริษัทบริวาร ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนเสื้อแดง หรือว่าจะเป็นกลุ่มพลังอื่นๆ ที่ต่างเรียกหาความสงบสันติ และยืนยันว่าตนเองหรือฝ่ายของตนยึดแนวทางอหิงสา

เพราะสถาานการณ์อันดีเลิศเหล่านี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยการป่าวประกาศ แต่ลงมือทำในทางตรงข้าม
เว้นเสียแต่ต้องการจะเห็นกลียุคเกิดขึ้นจริงในสังคมไทย


ข่าวสดรายวัน
บทบรรณาธิการ
************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น