--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เก็บตกคำสัมภาษณ์ ‘เทพเทือก’ แลกหมัด ‘มาร์ค’


การประกาศเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา 5 ข้อหรือแผนปรองดองของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 3 พฤษภาคม 2553 มีผลทำให้อุณหภูมิความขัดแย้งทางการเมืองลดลง แต่ยังคงมีคำถามจากสังคมถึง “ความโปร่งใส” ที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่ามันน่าจะมีการ “เกี๊ยเซี๊ยะ” กันเอง...ผลประโยชน์มิได้ตกกับประชาชนตัวละครเอกสำหรับเรื่องนี้ นอกจากนายอภิสิทธิ์และแกนนำเสื้อแดงแล้วยังมี สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะหัวหน้าศอฉ.ที่น่าจับตามอง...โดยเฉพาะเรื่องของความรู้สึก เพราะที่ผ่านมานายสุเทพมักจะแสดงอาการยืนคนละฝั่งกับนายอภิสิทธิ์และพรรคประ

ชาธิปัตย์ อาทิ เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่นายสุเทพมักมีข่าวเห็นด้วยกับพรรคร่วมรัฐบาลสนับสนุนให้แก้ไข สวนทางกับจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์
กรณีการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจที่ยังคาราคาซังมาจนวันนี้ เนื่องจากกลุ่มคนที่มีข่าวว่า สนับสนุนพล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รองผบ.ตร.ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 26 รุ่นเดียวกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่เป็นก้างขวางคอชิ้นสำคัญของรัฐบาลแล้ว นอกจากจะได้รับการสนับสนุน

จากฝ่ายพรรคภูมิใจไทย ยังปรากฏชื่อของนายสุเทพรวมอยู่ด้วย ทำให้หลายฝ่ายอดแปลกใจไม่ได้ว่า เหตุใดนายสุเทพจึงแสดงอาการยืนอยู่คนละฝั่งกับนายอภิสิทธิ์ที่ยืนยันชัดเจนว่า สนับสนุน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. รวมถึงหลายๆ กรณีที่นายสุเทพมีพฤติกรรมลอยตัวอยู่เหนือปัญหา โดยปล่อยให้นายอภิสิทธิ์ต้องเล่นเกมตอบโต้โดยตรงกับฝ่ายผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องเหล่านี้อาจเกี่ยวพันกับข้อแลกเปลี่ยน

บางอย่างทางการเมือง เพราะยี่ห้อการเมืองระดับนายสุเทพแล้ว ย่อมไม่คิดอะไรแค่ชั้นเดียวเป็นแน่ล่าสุด นายสุเทพได้ให้สัมภาษณ์ถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ไว้อย่างน่าสนใจ โดยกล่าวถึงความขัดแย้งขอพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2553 ว่า “ผมได้ศึกษาการทำงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาโดยตลอด พบว่าคุณทักษิณยึดหลักการแบ่งแยกและปกครองซึ่งเป็นทฤษฎีหนึ่งในทางรัฐศาสตร์ ผู้นำหลายคนก็ใช้วิธีนั้น ดังนั้นคุณทักษิณจะมีคนที่จะใช้งานหลากหลาย

ปัญหา คือ เมื่ออยู่ในอำนาจก็สามารถเลือกใช้คนเหล่านี้ได้ แต่พอวันนี้ไม่มีอำนาจและกำลังอยู่ในช่วงที่คิดว่าตัวเองมีทางเลือกไม่มาก ฉะนั้นเวลาใครไปเสนอมาตรการใดๆ ที่จะล้มรัฐบาลหรือสู้กับรัฐบาล คุณทักษิณก็จะรับเอาไว้หมด จนเกิดปัญหาแต่สิ่งที่กังวลก็คือการขาดเอกภาพในการดำเนินการมันก็อาจทำให้เกิดความวุ่นวายได้ สำหรับผมถ้าคุณทักษิณ จะต่อสู้ในทางการเมือง ตามกฏเกณฑ์กติกา ตามกฎหมายและวิถีทางประชาธิปไตยสู้อย่างไรผมก็ยินดี แต่เมื่อไป

ใช้คนบางกลุ่มบางพวก และมีเป้าหมายที่จะดำเนินการโดยไม่ถูกกฎหมาย เช่นการมุ่งสร้างความวุ่นวายและรุนแรง ก่อจลาจล อย่างที่เคยประกาศจะสร้างกองทัพประชาชน อย่างนี้เราก็ต้องตั้งหลักให้ดี แต่เมื่อเขาประกาศถอยเรื่องนี้ไปแล้วก็ถือเป็นสิ่งที่ดี”16 มีนาคม 2553 นายสุเทพในฐานะผอ.ศอฉ.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินปลุกระดมกลุ่มคนเสื้อแดงต่อต้านรัฐบาล ว่า “ตอนนี้คุณทักษิณยังไม่เข้าข่ายโทษความผิดภัยความมั่นคง แต่เฉียดเข้ามาใกล้แล้ว

คิดว่าคนส่วนใหญ่ของเขาน่าจะยึดแนวสันติวิธี ทำคะแนนอะไรก็ว่าไป หากพ.ต.ท.ทักษิณ อดทนได้ ไม่ต้องทรัพย์สินคืนภายในวันนี้ ไม่ต้องรอดพ้นคุกวันนี้ แล้วยอมไปสู้กันในศาล จัดกระบวนการให้พร้อมแล้วทำบรรยากาศบ้านเมืองให้สงบลง แล้วไปสู้กระบวนการประชาธิปไตย พวกผมก็เสียเปรียบอยู่แล้วซึ่งมีความเป็นไปได้ หากชนะการเลือกตั้งแล้วรัฐบาลจะแก้กฎหมายก็ว่าไป”
ที่มา.บางกอกทูเดย์
.......................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น