--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพุธที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

หมดเวลา!

“จิรนันท์ พิตรปรีชา” กวีซีไรท์ อดีตนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยสมัย 14 ตุลา 16 ระดับแกนนำ เขียนเพลงสะท้อนเหตุการณ์เลือดอันเนื่องมาจากความแตกแยกของคนไทยที่ผ่านมาว่า “หมดเวลา” โดยให้ “แอ๊ด คาราบาว” ขับร้อง ซึ่งนับเป็นบทเพลงดีที่สุดเมื่อเปรียบกับอีกหลายบทเพลงที่เขียน

สะท้อนเหตุการณ์ “หมดเวลาแล้วหมดเวลา จะต่างสีต่างศรัทธาหมดความหมาย...หมดเวลาค่าของคนหล่นกระจาย นี่แหละคือภาพสุดท้ายสุดทางตัน...หมดเวลา หมดเวลามากล่าวโทษ หมดเวลาจะเกลียดโกรธโหดห้ำหั่น... ...ทุกสิ่งที่ไขว่คว้า ต้องฆ่ากัน สลายวับกับม่านควันโลกบรรลัย...ให้มันสิ้นให้มันสุด

หยุดตรงนี้ อย่าให้มีสิ่งใดเหลือเพื่อวันใหม่...ขอพื้นที่กว้างกว้างกลางใจไทย ดับเปลวไฟปลุกสติผลิปัญญา” ผมไม่รู้ว่า “คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หรือคนที่มีอิทธิพลต่อคุณอภิสิทธิ์ ได้ฟังได้อ่านบ้างหรือไม่? เพราะคำว่า “หมดเวลา” นี้น่าจะไม่ใช่เวลาของคนเสื้อแดงฝ่ายเดียว น่าจะหมดเวลาสำหรับคนทุก

ฝ่ายที่อยู่บนความขัดแย้ง ที่สำคัญคือ “รัฐบาล” คนเสื้อแดงถูกกวาดล้างเหี้ยนเตียน หนีตายกันกระเซอะกระเซิง สื่อที่เคยใช้เป็นเครื่องมือปลุกผู้คนทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุชุมชน เคเบิลทีวีถูกกำจัดสิ้น แต่อนิจจา...สื่อของรัฐบาลและสื่อพวกรัฐบาลยังคง “ใส่ร้ายป้ายสี” คนเสื้อแดงฝ่ายเดียวอยู่ทั้งวันทั้ง

คืน คนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี ยังพ่นน้ำลายใส่ร้ายฝ่ายตรงข้ามอย่างมันปาก นี่หรือความปรองดองที่ท่านอยากเห็น อย่าพูดแต่ปาก ทำบ้างเถอะ หยุดปากไอ้พวกที่ว่าเสียทีและขอบคุณคนที่หยุดความตายให้เป็นบ้าง คนที่หยุดความตายไม่ให้เกิดมากกว่านี้คือ จตุพร พรหมพันธุ์ กับ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ประกาศ

ต่อผู้ชุมนุมก่อนการสลาย เพราะทั้งคู่รู้ดีว่าถ้าไม่ยุติความตายจะมากกว่านี้ เหมือนสื่อหลายสำนักก็รู้ล่วงหน้าว่าจะมีปฏิบัติการเด็ดหัวเหมือนที่ “เสธ.แดง” โดน...หากไม่ยุติการชุมนุม ถ้าคุณอภิสิทธิ์ทำเป็น ย่อมไม่ทำอย่างที่ทำอยู่คือกำจัดเสื้อแดงทุกอย่าง จะยิ่งสั่งสมความคั่งแค้นและขยายความแตกแยก

ลองยอมเดินเข้าหาฝ่ายตรงข้าม ยอมทนถูกด่า ยอมขอโทษ และรู้จักให้อภัยและนิรโทษกรรมคนทุกคนทุกฝ่าย ประเทศไทยจะ หมดเวลาแตกแยกกันจริง ๆ เชื่อเถอะ เป็นนายกฯ 88 ศพ แล้ว อยากเป็นนายกฯ 100 ศพ ก็ตามใจ

คอลัมน์.ปัญหาโลกแตกคนเมือง
ที่มา.บางกอกทูเดย์
.....................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น