--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพุธที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

อำนวย-ธาริตแจงข้อกฎหมายกรณี"สุเทพ"มอบตัว

พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานด้านกฎหมาย พร้อม นายธาริต เพ็งดิษ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะทำงานสอบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมและคดีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ร่วมกันแถลงข่าวกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เข้ารับทราบคำร้องทุกข์กล่าวหาหลังสั่งสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา และการดำเนินสอบสวนคดีกับแกนนำผู้ชุมนุม นปช.ว่า การทำร้ายร่างกายประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าข่ายความผิดตามมติคณะกรรมการคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2553 ในมูลฐานความผิด เป็นคดีพิเศษ คือการก่อการร้าย การขู่บังคับให้รัฐบาลดำเนินการใดๆ การทำร้ายประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ และกระทำต่ออาวุธยุทธภัณท์ของทางราชการ โดยเมื่อเป็นคดีพิเศษแล้วจะกลับเป็นคดีธรรมดาไม่ได้ และการสอบสวนต้องกระทำโดยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษหรือผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจาก 13 หน่วยงานที่ถูกตั้งขึ้นเท่านั้น

หนังสือกล่าวโทษของญาติของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุ 10 เมษายน และเหตุการณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งกล่าวหานายกฯ และนายสุเทพ กรณีสั่งการให้ใช้อาวุธจริงประทุษร้ายต่อชีวิตร่างกายประชาชน จึงเข้าข่ายลักษณะที่ 3 ของมติคณะกรรมการคดีพิเศษครั้งที่ 3/2553 ลงวันที่ 16 ม.ย.2553 คือ กรณีทำร้ายร่างกายประชาชนจึงถือเป็นคดีพิเศษ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 250 มาตรา275 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 66 กรณีกล่าวหาว่าผู้ดำรงตำแหน่งนายกฯหรือข้าราชการการเมืองอื่นกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่นๆจะต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติดำเนินการไต่สวน " พล.ต.ต.อำนวยกล่าวและว่า ดังนั้น คดีนี้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะดำเนินการรวบรวมข้อเท็จจริงเบื้องต้นเท่านั้น แล้วส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อไป ส่วนการรับทราบข้อกล่าวหาของนายสุเทพนั้นเป็นการรับทราบข้อกล่าวหาตามหนังสือกล่าวโทษของผู้กล่าวหาทั้ง 14 คนโดยตรง กล่าวคือ กรณีกล่าวหาว่าสั่งการให้ใช้อาวุธจริงประทุษร้ายต่อชีวิตร่างกายประชาชน

ด้าน อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า นายสุเทพเข้ามอบตัวกับกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว แม้จะไปมอบตัวกับใคร ไม่ว่าจะเป็นนายอำเภอ หรือท้องที่ใด สุดท้ายเรื่องก็จะถูกส่งไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ดี ส่วนที่ นปช. เรียกร้องให้ไปมอบตัวกับกองปราบปรามนั้นไม่สมเหตุสมผล จึงอยากเรียกร้องให้แกนนำสลายการชุมนุมตามที่ได้ประกาศต่อประชาสังคม

ส่วนความกังวล หากแกนนำ นปช.จะเข้ามอบตัวแล้วไม่ได้รับการประกันตัวนั้น พล.ต.ต.อำนวย กล่าวเสริมว่า อำนาจอยู่ที่ศาล หากยังไม่มอบตัวก็ไม่ควรพูดถึงการให้ประกันตัว หมายจับ พ.ร.ก.ไม่ใช่หมายจับคดีอาญา เมื่อมีการยกเลิกก็จบ ส่วนแกนนำคนใดมีคดีอาญาในฐานความผิดใดก็ว่ากันไปตามกฎหมาย พนักงานสอบสวนจะใช้มาตรฐานเดียวกันทั้งหมด ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พศ.2546 ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ซึ่งเป็นคดีการเมือง ต้องมีการสอบสวนในเบื้องต้น เพื่อส่งเรื่องให้กับ ปปช. เช่นเดียวกับเหตุสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ได้ส่งเรื่องเอาผิดกับ นาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ชี้มูลความผิดต่อไป

ที่มา.เนชั่น
*********************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น