--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพุธที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ศอฉ.ทำแดงมี‘ลูกฮึด’


ทำท่าจะบานปลายใหญ่โต...จนเห็นภาพผู้คน “บาดเจ็บล้มตาย” ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เมษายนลอยมาอยู่ตรงหน้าเพราะจากคำประกาศของ ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. ประกาศใช้มาตรการกดดัน “ม็อบเสื้อแดง” เต็มรูปแบบทั้งการตัดน้ำตัดไป...ตัดช่องทางการสื่อสาร...

รวมไปถึงตัดเส้นทางการเดินทางของคนเสื้อแดง “คนในไม่ให้ออก...คนนอกไม่ให้เข้า”สิ่งเหล่านี้เป็น “คำขู่” ที่เพิ่มพลังให้กับมวลชนคนเสื้อแดงโดยที่ “ผู้มีอำนาจ” ไม่รู้ตัว...เพราะมวลชนบางส่วนเกือบ “ถอดใจ” ไปกับมติแกนนำที่รับแผนปรองดองรัฐบาล ซึ่งนั่นไม่ใช่ข้อตกลงหรือ “สัญญาใจ” ตั้งแต่ต้น...ในการออกมารวมตัวชุมนุมเพื่อกดดันให้รัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ยุบสภาในทันที! และสิ่งสำคัญคือข่าวคราวของแกนนำที่ดูจะ “ไม่มีเอกภาพ” แต่สุดท้ายทาง

แกนนำก็ออกมายืนยันความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นว่าพวกเขาจะไม่ทำให้สิ่งที่ผ่านมา “ต้องสูญเปล่า”“ถ้ากลับบ้านโดยไม่ได้รับความยุติธรรมแล้วจะกลับไปทำไม ก็ไม่ต้องกลับ เป็นไงเป็นกัน” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวคนเสื้อแดงพร้อมสู้ “ถวายหัว...แลกชีวิต” เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาล “คืนอำนาจ” อันชอบธรรมให้กับประชาชนแต่จนแล้วจนรอด “วิธีปรองดอง” ซึ่งทางรัฐบาลคลอดออกมา...กลับไม่ส่งผลให้เกิดประโยชน์ เพราะมีการ “ใส่ร้าย” เล่นแง่เล่นมุมกันอยู่ตลอดเวลา

โดยเฉพาะการปฏิบัติและแสดงออกของรัฐบาลด้วยแววตา “อาฆาต” ไร้ความปราณี...ซึ่งเหตุผลดังกล่าวยิ่งทำให้เหตุการณ์ต่างๆ บานปลายยืดเยื้อเหตุผลสำคัญเป็นเพราะ “ผู้ปฏิบัติ” ไม่มีความจริงใจยกตัวอย่างกรณี “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ที่เข้ามอบตัวกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เมื่อสองวันก่อนหน้านี้ความคลุมเคลือทางระบบกฏหมาย...ทำเป็นว่าสุเทพได้เข้ามอบตัว...และดักว่าเป็นเพราะเสื้อแดงไม่ปรองดองนั่นเป็นเหตุผลในการหาความชอบธรรมเพื่อ

การสั่งการ “ปราบปรามม็อบ” รอบใหม่เพราะแม้แต่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ยังออกมาบอกกับดีเอสไอว่า...ไม่มีสิทธิ์สอบสวนคดี นายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ ในเหตุสั่งสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เมษาเหตุเพราะ “ไม่มีอำนาจ”สิ่งที่ผู้มีอำนาจปฏิบัติต่อประชาชนของพวกเขา ดูแล้วเหมือนมีแต่ “น้ำเสียง” แต่หน้าไร้ซึ่ง “จิตสำนึก” ในสิ่งที่ทำมันเป็นตอกย้ำ “ความคิด” ของผู้มีอำนาจภายใต้ “หน้ากากแป๊ะยิ้ม” เมื่อ ศอฉ.

ประกาศ “เดดไลน์” ตัดน้ำ-ตัดไฟ กดดันม็อบเสื้อแดงเลิกชุมนุมทำให้ความลังเลและความหวั่นไหวของ “มวลชนคนเสื้อแดง” บางส่วนหายไปเป็นปลิดทิ้ง...พร้อมจับมือร่วมกันต่อสู้กับ “อำนาจ” ที่ไม่ชอบธรรม ด้วยคำประกาศว่าเสื้อแดงในวันนี้ไม่ใคร “กลัวตาย”สำนวนฝรั่งมีว่า High risk high return...ลงทุนลงแรงมาก ย่อมได้รับกลับคืนมากคนเสื้อแดงรู้ว่า...การต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่ง “ประชาธิปไตย” จำเป็นต้องแลกด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ไม่เว้นแม้กระทั่งชีวิต ซึ่งพวกเขา

ก็เต็มใจพร้อมยอม “สละชีพ” เพื่อให้ได้สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า นั่นคือ ประชาธิปไตยไทย ต้องเป็นกติกาของคนส่วนใหญ่สงสัยก็แต่ว่า...การออกทีวีแล้วมาปลุกการต่อสู้ของคนเสื้อแดงหลายครั้งที่ผ่านมา...ดูแล้ว “พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด” ก็แอบแดงด้วยใช่ป่ะ?พูดมาแต่ละครั้ง...คนเสื้อแดงปิดทีวี...ขึ้นรถขึ้นราออกไปร่วมชุมนุมที่ราชประสงค์กันตรึม!
ที่มา.บางกอกทูเดย์
..............................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น