--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

นายกฯสั่ง ศอฉ.เข้ม หลังแดงขอนแก่นมาสมทบ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ช่วงเย็น โดยมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะ ผอ.ศอฉ. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมสรุปสถานการณ์ประจำวัน โดยเฉพาะกรณีคนร้ายได้ใช้ปืนเอ็ม16 และเอ็ม79 ยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณย่านสีลม เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดย พล.ต.อ.ปทีป รายงานว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบของวิถีโค้งอาวุธสงครามเอ็ม 79 ว่ายิงมาจากบริเวณใด คาดว่าจะรู้ผลภายใน 1-2 วันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายอภิสิทธิ์ ได้สั่งการให้ ศอฉ.บังคับใช้กฎหมายดำเนินคดีกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่กระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะ 9 แกนนำที่ถูกออกหมายจับก่อนหน้านี้เกี่ยวกับคดีก่อการร้าย ตาม พรก.ฉุกเฉิน รวมถึงให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษเร่งดำเนินคดีทั้งคดีภัยความมั่นคงและคดียั่วยุปลุกปั่นล้มล้างสถาบัน ให้ปรากฎต่อสาธารณะชนโดยเร็วที่สุด ส่วนแนวทางการปรองดองแห่งชาติยังคงดำเนินการต่อไป เนื่องจากเป็นทางออกที่ดีที่สุด ซึ่งแนวทางทั้ง 2 อย่างจะต้องทำควบคุมกันไป คือการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มแข็ง และ การปรองดองแห่งชาติ

แหล่งข่าวในที่ประชุม ศอฉ.บอกด้วยว่า ที่ประชุมได้วิเคราะห์ถึงการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงขอนแก่น ที่เข้ามาสมทบที่ราชประสงค์ โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ พล.อ.อนุพงษ์ ในฐานะผู้รับผิดชอบในการใช้กำลัง พลเรือน ตำรวจ และ ทหาร ให้จัดเตรียมกำลังในการดูแลความสงบเรียบร้อย หลังคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็ให้จัดกำลังดูแลการเข้าออกของอาวุธสงคราม ไม่ให้ขนถ่ายได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะเส้นทางน้ำย่านคลองแสนแสบให้กวดขันอย่างเข้มงวดเช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น