วันเข้ามอบตัว มาร์คไล่บี้เลิก ก่อนวันที่ 15พค. แดงโต้อย่าบีบ จี้ต้องดำเนินคดี สั่งปราบ10เมย.
"มาร์ค"ออกทีวีไล่บี้แดงอีก ยอมรับแผนปรองดองต้องยุติม็อบ ระบุสลายตัวในวันที่ 15 พ.ค.ช้าไป ซัดแกนนำอย่ากลัวเสียหน้า ขู่ถ้าไม่เลิกม็อบ ก็อาจไม่ยุบสภา ด้าน"ณัฐวุฒิ"โต้ทันควันอย่าใช้เกมการเมืองบีบ เร่งรัดกับผู้ชุมนุม เพราะไม่ใช่ลูกน้องของรัฐบาล ขณะที่"จตุพร"เรียกร้อง"มาร์ค-เทือก"ต้องยอมรับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมกรณีวันที่ 10 เม.ย.ด้วย ยอมรับชี้แจงผู้ชุมนุมลำบากถ้าละเลยที่จะพูดถึงเรื่องดังกล่าว
-"มาร์ค"แจงซ้ำแผนปรองดอง
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 พ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ ถึงแนวทางการดำเนินการตามแผนปรองดอง 5 ประการว่าในส่วนของแผนที่ 1 เรื่องการปกป้องสถาบันพระมหากษัติย์นั้น ขณะนี้กรมสอบสอนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รับคดีที่เกี่ยวข้องกับขบวนการก่อการร้ายไปดูแล และเริ่มจับกุมบุคคลที่กระทำความผิดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้ว ขณะเดียวกันเครือข่ายของขบวนการนี้ก็เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในแผนที่ 2 เรื่องการสร้างสวัสดิการ ความเป็นธรรม ความเท่าเทียมกันให้เกิดขึ้นในสังคม วันที่ 12-13 พ.ค. นี้ คณะกรรมการที่ทำงานด้านการดูแลชุมชนจะประชุมร่วมกันเป็นกรณีพิเศษ เพื่อเปิดโอกาสให้องค์กรต่างๆ ได้แสดงความคิดเห็นร่วมกัน ในวันที่ 13 พ.ค. จะนำข้อเสนอเบื้องต้นยื่นให้ตน และวันที่ 20 พ.ค. จะจัดประชุมสมัชชาเพื่อเชิญชวนให้ประชาชนให้ภาคส่วนต่างๆ ได้มาระดมความคิดเห็นอีกครั้งหนึ่ง และหลังจากวันที่ 20 พ.ค. ควรมีข้อยุติเรื่องกลไกพิเศษ ที่จะอยู่และทำงานเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องข้ามรัฐบาล หลังจากเลือกตั้งไปแล้ว กลไกนี้จะดำเนินการโดยบุคคลที่เป็นที่ยอมรับของสังคม เป็นกลไกที่มีความหลากหลาย และไม่ถูกชี้นำโดยรัฐบาล อีก 10 วันข้างหน้าน่าจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
นายกฯ กล่าวว่า แผนข้อที่ 3 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปฏิรูปสื่อให้มีบทบาทการทำงานที่สร้างสรรค์มากขึ้นนั้น ในด้านกฎหมาย ขณะนี้มีการยกร่างกฎหมาย ซึ่งนำไปสู่การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนว่าจะทำอย่างไร จึงจะควบคุมดูแลสื่อต่างๆ ไม่ให้มีบทบาทยั่วยุ ปลุกระดม และสร้างความเกลียดชัง ความรุนแรงในสังคมต่อไป ในเบื้องต้นเห็นว่า กทช. หรือ กสทช.ในอนาคต น่าจะเข้ามามีบทบาท และเป็นกลไกหลักในการผลักดันเรื่องนี้ โดยให้ทำงานใกล้ชิดกับองค์กรวิชาชีพสื่อ และสุดท้ายควรมีองค์กรอิสระที่ประกอบด้วยภาคประชาชน ได้เข้ามามีบทบาทตรวจสอบการทำงานของสื่อมากขึ้น ยืนยันว่าทั้งหมดต้องไม่ใช่การเปิดโอกาสให้รัฐ หรือการเมืองเข้าไปแทรกแซงสื่อ
-ยังเชื่อก่อการร้ายร่วมผสมโรง
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนแผนปรองดองข้อที่ 4 เรื่องการตั้งคณะกรรมการกลางตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ชุมนุม ขณะนี้รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งขึ้นมาเพื่อเก็บรวบรวมข้อเท็จจริงต่างๆ ทั้งเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย., 22 เม.ย., 28 เม.ย. และคืนวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้วเช่นกัน ซึ่งทั้งรัฐบาล และกองทัพ ยืนยันว่าพร้อมให้ความร่วมมือกับการตรวจสอบทั้งหมด รัฐบาลและกองทัพมั่นใจว่าสิ่งที่ปฏิบัติไปทั้งหมดเป็นไปตามระเบียบแบบแผน และกฎหมาย ยืนยันไม่ต้องการให้นิรโทษกรรมกลุ่มผู้ก่อการร้าย ซึ่งเป็นชนวนให้เกิดความสูญเสียอย่างต่อเนื่อง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในเรื่องการสร้างกติกาทางการเมืองที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะต้องนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่ยืนยันว่า การหาข้อยุติเรื่องนี้ต้องไม่ใช่เรื่องที่นักการเมืองจะตกลงกันเอง ต้องมีรูปแบบ วิธีการฟังความคิดเห็นจากผู้ที่ไม่ใช่นักการเมือง ในส่วนของตนเอง รัฐบาล และพรรคที่ตนสังกัดยืนยันว่าจะไม่มีการแก้กติกาใดๆ ที่เอื้อประโยชน์ให้กับตัวเอง ขณะนี้มีการเอาแผนปรองดองไปผูกกับเรื่องการยุบสภา ตนยืนยันว่าทั้ง 5 ข้อนี้ไม่ว่าเหตุการณ์บ้านเมืองจะคลี่คลายไปทางใด รัฐบาลจะดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป
นายกฯ กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งคำถามว่าทำไมรัฐบาลต้องปรองดองกับกลุ่มก่อการร้ายนั้นว่าแผนทั้ง 5 ข้อ ไม่มีตรงไหนที่จะไปปรองดองกับผู้ก่อการร้าย หรือผู้กระทำผิดกฎหมาย เพราะในแผนทั้ง 5 ข้อ ไม่มีส่วนใดพูดถึงการนิรโทษกรรมในคดีอาญาต่างๆ ผู้ที่กระทำความผิดยังมีความผิด และจะต้องถูกจับกุมดำเนินคดีเหมือนเดิม หน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะดีเอสไอยังดำเนินการเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง
-ห้ามมีม็อบไปจนถึงวันเลือกตั้ง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการกำหนดวันเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ย.ว่า เป็นการกระทำบนพื้นฐานหลักความคิดเดิม ไม่ใช่การจำนนต่อการเรียกร้อง "ที่ผมพูดว่าจะมีการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ย. ผมบอกว่าจะมีการเลือกตั้งต่อเมื่อทุกฝ่ายแสดงออกอย่างเป็นรูปธรรมในการเข้ามาสู่กระบวนการปรองดอง และรูปธรรมที่เราต้องการเห็นคือ การชุมนุมทางการเมืองซึ่งผิดกฎหมายต้องยุติลง และจากวันนี้จนถึงการยุบสภา หรือการเลือกตั้งนั้น ต้องมีรูปธรรมชัดเจนว่ารัฐบาล รัฐสภา พรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองต่างๆ สามารถทำหน้าที่ตามกฎหมายได้โดยไม่มีการขัดขวาง ความหมายคือว่า นักการเมืองทุกฝ่ายต้องมาประสานกันว่า ต้องไปลงพื้นที่ได้ ไม่มีการขัดขวาง ไม่มีความรุนแรง ถ้าทำได้ ผมก็บอกว่ารัฐบาลพร้อมจัดการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ย. แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็หมายความว่าการเลือกตั้งก็เกิดขึ้นไม่ได้"
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกลุ่มพันธมิตรมาพบและตั้งข้อสังเกตว่าแผนปรองดองของรัฐบาลเป็นการสมคบของนักการเมืองว่า ตนได้ตอบกับกลุ่มพันธมิตรไปแล้วว่า แผนนี้มีที่มาจากหลักคิด คิดและเขียนด้วยตัวเองผ่านการเจรจาฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ไม่ใช่เรื่องที่มาจากการเจรจาต่อรอง ได้ชี้แจงพูดคุยกันอย่างละเอียด กลุ่มพันธมิตรฯจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ขณะเดียวกันได้พูดคุยกับกลุ่มคนเสื้อหลากสี ซึ่งแสดงความเห็นด้วยกับแผนดังกล่าว แต่ขอดูการทำงานในช่วง 1-2 เดือนจากนี้ไปก่อนว่านำไปสู่การปรองดองอย่างแท้จริงหรือไม่
-ซัดแม้ว-เสธ.แดงขวางปรองดอง
สำหรับเหตุการณ์ยิงตำรวจบริเวณถนนสีลม เมื่อคืนวันที่ 7 พ.ค.ที่มองว่าเป็นความล้มเหลวของแผนปรองดองนั้น นายกฯกล่าวว่า ผู้ที่ไม่สนับสนุนแผนปรองดองกลุ่มหนึ่ง คือกลุ่มของผู้ก่อการร้าย เพราะถ้าแผนปรองดองสำเร็จ กลุ่มนี้จะถูกแปลกแยกจากสังคม และถูกดำเนินคดี เพราะไม่สามารถเอามวลชนมาเป็นโล่มนุษย์ได้อีกต่อไป
"คนที่แสดงตัวชัดเจนไม่เอาแผนปรองดอง คือเสธ.แดง (พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิทบ.) และมีความพยายามยิ่งยวดที่จะไม่ให้มีการชุมนุมในขณะนี้ยุติลง เสธ.แดงพูดชัดเจนว่าได้ติดต่อประสานงานกับแกนนำในภูมิภาคเพื่อคัดค้านแกนนำในส่วนกลาง เบื้องต้นบอกว่าตอบรับแผนการปรองดอง ที่สำคัญเสธ.แดงบอกด้วยว่า เขาจะฟังจากคุณทักษิณ (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) ซึ่งผมกล้าพูดได้เช่นเดียวกันว่าคุณทักษิณไม่พอใจแผนปรองดอง เพราะในแผนปรองดองไม่มีอะไรที่เป็นคำตอบในเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวของคุณทักษิณเลย" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
-จี้แดงยุติชุมนุมให้ได้ในวันนี้
นายกฯ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าแผนปรองดองต้องเดินหน้า วันนี้กลุ่มผู้ชุมนุมตอบรับแผนการปรองดองแล้วแต่ยังไม่ยุติการชุมนุม ความเสี่ยงจะมีสูงมาก กลุ่มผู้ก่อการร้ายอาจใช้ความรุนแรงอีก โดยเฉพาะกับตัวผู้ชุมนุม หรือแกนนำ ถ้ายืนยันว่าจะเข้าร่วมกระบวนการปรองดอง รีบยุติการชุมนุมเสีย เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของพี่น้อง ทุกคนทุกกลุ่ม อย่าคิดว่าเป็นเรื่องต้องเอาชนะ เรื่องจะเสียหน้า หรือเรื่องประโยชน์ส่วนตัว ถ้ามีความจริงใจต้องประกาศยกเลิกการชุมนุมได้โดยเร็ว ที่ประกาศว่าจะยุติในวันที่ 15 พ.ย.นั้นตนเห็นว่ายังช้าไป
"ถ้าจริงใจ และอยากจะมาร่วมในกระบวนการปรองดอง อย่ารอช้า ถ้าช้าไปมีแต่ความเสียหาย และความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น และแน่นอนว่าถ้ายิ่งช้าไปรัฐบาลก็ไม่สามารถตอบคำถามกับสังคมได้ว่าจะจัดการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ย.ได้ เพราะฉะนั้น วันที่ 10 พ.ค. ควรมีคำตอบที่ชัดเจน เพื่อที่เราจะได้ทำงานร่วมกันต่อไป เดินหน้าในการบังคับใช้กฎหมาย แยกผู้ก่อการร้ายมาดำเนินคดี และร่วมกันสร้างคำตอบทางการเมือง และสร้างบรรยากาศทางการเมืองที่นำไปสู่ความปรองดองอย่างแท้จริงต่อไป" นายกฯกล่าว
-อ้างไม่ได้รับประโยชน์จากแผนนี้
นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงการเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งนายกฯว่า สิ่งที่คนไม่หวังดีต่อบ้านเมืองในขณะนี้ต้องการเห็นมากที่สุด คือการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลทันที อยากให้ตนลาออก และเอาคนอื่นเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นคนที่อาจจะตัดสินใจแล้วทำให้เกิดความรุนแรงเป็นสงครามประชาชน หรือคนที่เข้ามาแล้วทำให้เกิดการพลิกขั้วทางการเมือง และเอื้ออำนวยต่อกลุ่มที่กระทำการผิดกฎหมาย ยืนยันว่าโดยส่วนตัวแล้วไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรเลยจากการปรองดอง ครั้งนี้
"หลายคนบอกว่าผมเอาตัวรอด ผมอยู่สบายแต่ประชาชนเดือดร้อน ผมเรียนว่าไม่จริง ชีวิตผมถูกคุกคามอยู่ตลอดจนถึงทุกวันนี้ และรู้ว่าคงถูกคุกคามต่อไปในเวลาที่เหลืออยู่ในการทำงานทางการเมือง หรือเกินเลยกว่านั้น แต่ยืนยันว่าเมื่ออาสามาแล้ว ผมทำหน้าที่เต็มที่ ถ้าผมกลัวผมลาออกไปแล้ว ถ้าผมอยากอยู่สบายผมลาออกไปแล้ว แต่ผมอยู่เพื่อจะต้องตัดสินใจแม้จะขัดใจคนทุกกลุ่มในบางเรื่องเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ผมถือว่านั่นไม่ใช่ความอ่อนแอ ไม่ใช่ความขี้ขลาด ไม่ใช่การหนีปัญหา แต่เป็นการเผชิญปัญหาโดยเอาผลประโยชน์ของตัวเอง ของพรรค ของกลุ่มไปวางไว้ข้างนอก และยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง" นายอภิสิทธิ์ระบุ
-แดงไว้อาลัยผู้เสียชีวิต 10 เม.ย.
เมื่อเวลา 09.15 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากสี่แยกราชประสงค์ว่า แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)แดงทั้งแผ่นดิน จัดพิธีไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ซึ่งจะครบรอบ 1 เดือนในวันที่ 10 พ.ค. โดยเชิญญาติผู้เสียชีวิตขึ้นบนเวทีเพื่อร่วมทำพิธี ทั้งนี้มีแกนนำเข้าร่วมประกอบด้วย น.พ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายขวัญชัย ไพรพนา นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ และนายจรัล ดิฐาอภิชัย ซึ่งทั้งหมดได้กล่าวสดุดีว่าการเสียชีวิตนี้เป็นวีรกรรมที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และนปช.จะดูแลญาติของผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ โดยจะนำผู้ร่วมชุมนุมลุกขึ้นยืนไว้อาลัยเป็นเวลา 1 นาที จากนั้นญาติผู้เสียชีวิตได้ลุกขึ้นกล่าวขอบคุณและระบุว่าจะร่วมต่อสู้จนถึงที่สุด พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ผู้ร่วมชุมนุมบางคนถึงกับร้องไห้หลั่งน้ำตาออกมา
นายจรัล ดิษฐาอภิชัย แกนนำนปช. ปราศรัยว่า จากนี้จะเสนอให้สร้างอนุสาวรีย์ให้วีรชนที่พลีชีพในเหตุการณ์ 10 เม.ย. และจะต้องชำระประวัติศาสตร์ เพื่อให้ข้อเท็จจริงปราฏว่าวีรชนทั้งหมดเสียชีวิตเพราะอะไร และจะต้องใส่ไว้ในแบบเรียนประวัติศาสตร์ด้วย
-นปช.เพิ่มเชื่อณัฐวุฒิร่วมเจรจา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตั้งแต่ช่วงเช้า ไม่มีแกนนำหลักในกลุ่ม 3 เกลอประจำอยู่หลังเวทีเลย มีเพียงแกนนำรองลงไป อาทิ นายชินวัฒน์ หาบุญพาด นายขวัญชัย และนายจรัล เท่านั้น ซึ่งปกตินปช.จะแถลงข่าวรอบเช้าเวลา 10.00 น. แต่ปรากฏว่าไม่มีแกนนำคนใดมาแถลงข่าวประจำวันท่ามกลางกระแสข่าวแกนนำเดินทางไปเจรจาร่วมแผนการปรองดองกับตัวแทนฝ่ายรัฐบาล อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ชุมนุมในช่วงเช้าบริเวณหน้าเวทีค่อนข้างบางตา เนื่องจากอากาศร้อนอบอ้าว มีเพียงบางส่วนที่อยู่ในเต็นท์ของแต่ละจังหวัด และหลบไอร้อนตามซอกตึก และใต้รางรถไฟฟ้าบีทีเอส
รายงานข่าวจากแกนนำนปช. แจ้งว่า สาเหตุที่ความคืบหน้าในการเจรจาในแผนปรองดองกับรัฐบาลยังไม่คืบหน้า เนื่องจากรัฐบาลยื่นเงื่อนไขผ่านผู้เจรจามาว่า จะไม่อนุญาตให้แกนนำบางคนที่มีพฤติกรรมรุนแรงได้ประกันตัว ทำให้แกนนำนปช.ไม่สามารถรับได้ เพราะเกรงจะถูกคุกคามและกลั่นแกล้งทางคดี จึงปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว ซึ่งที่ประชุมแกนนำได้มอบหมายให้นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานนปช.เป็นผู้เจรจาหาข้อสรุป และเพิ่มให้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช. เข้าร่วมเจรจาด้วย จากเดิมที่มอบหมายให้น.พ.เหวง โตจิราการ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. เป็นผู้ร่วมเจรจากับนายวีระ สาเหตุที่เพิ่มนายณัฐวุฒิ เข้าทีมเจรจา เนื่องจากเห็นว่านายวีระมีลักษณะที่ประนีประนอมต่อข้อเสนอของรัฐบาลมากเกินไป ขณะที่นายจตุพร ก็มีลักษณะแข็งกร้าวเกินไป ทำให้การเจรจาร่วมกันมีปัญหาได้
-แฉรัฐไม่ยอมให้ประกันแกนนำ
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากนปช.มีมติเข้าร่วมกระบวนการปรองดอง นายวีระและนายณัฐวุฒิ ได้เจรจากับตัวแทนฝ่ายรัฐบาลที่เป็นคนใกล้ชิดของนายอภิสิทธิ์มาตลอด แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจากรัฐบาลไม่ยอมถอยเรื่องประกันตัวแกนนำ จึงทำให้การเจรจาไม่คืบหน้า โดยนปช.ได้เสนอให้แกนนำที่ถูกออกหมายจับไปมอบตัวก่อนยุติการชุมนุม และเมื่อตำรวจอนุมัติให้ประกันตัวแล้ว แกนนำจึงพร้อมจะประกาศยุติการชุมนุม
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับข้อเสนออื่นๆ ในเรื่องการถอนกำลังทหาร การประกาศยกเลิกการใช้พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน การเปิดพีเพิลแชนแนล ก็เป็นข้อเสนอที่นปช.ยื่นต่อรัฐบาลแล้วแต่ยังไม่มีการตอบสนอง ซึ่งแกนนำทั้งหมดเห็นว่าหากเปิดเวลาเจรจาอีกระยะหนึ่ง แล้วไม่ได้รับการตอบสนองที่พอใจ จะเสนอโรดแม็ปของนปช.ต่อสาธารณชน ผ่าน สื่อมวลชน เพื่อให้สังคมร่วมพิจารณาและกดดันรัฐบาล และแสดงให้เห็นว่าสาเหตุที่ล่าช้าไม่ใช่เพราะฝั่งนปช. แต่เป็นเพราะความไม่จริงใจของรัฐบาลเอง
-โวยมาร์คอย่าเร่งรัดกับม็อบ
ต่อมาเวลา 13.30 น. นายณัฐวุฒิ แถลงถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ระบุหาก นปช.ตกลงจะเข้าร่วมมาตรการปรองดอง น่าจะหาข้อยุติโดยเร็วเพื่อนำไปสู่การยุติการชุมนุมถ้าตกลงกันได้ว่า ทันทีที่ประกาศเราอยากให้สิ่งนี้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด จริงๆเราใช้เวลาเท่ากับที่นายอภิสิทธิ์ ใช้เวลาชี้แจงกับคนพวกเดียวกัน คนคิดว่าวันที่ออกทีวีเป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งอย่างชัดเจน แต่จริงๆไม่ใช่ เพราะขณะนั้นทั้งพรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่เห็นด้วย แต่พอรัฐบาลทำเสร็จจะมาเร่งรัดเอากับเราทุกวัน เรื่องนี้เราแสดงออกอย่างบริสุทธิ์ใจ แต่เรื่องบ้านเรื่องเมืองต้องคุยกันละเอียด
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า คำว่าปรองดอง ไม่ได้หมายความแค่คนเสื้อแดงยุติการชุมนุม หรือรัฐบาลยุบสภาเท่านั้น แต่เราจะนำพาบ้านเมืองออกจากความขัดแย้งด้วยสันติวิธีและนำไปสู่การเลือกตั้งอย่างไร งานของเสื้อแดงไม่หยุดแค่ยุติการชุมนุม และรัฐบาลไม่ใช่แค่ยุบสภา แต่ต้องคิดว่าหลังจากนี้จะพาประเทศเดินไปอย่างปลอดภัยถึงวันเลือกตั้งอย่างไร นายอภิสิทธิ์ไม่ทราบจริงๆหรือว่ามีคนที่ไม่ต้องการให้เลือกตั้ง และไม่ต้องการเดินไปถึงตรงนั้น มาตรการ ปรองดองง่ายสุดคือรัฐบาลยุบสภา คนเสื้อแดงเลิกชุมนุม แต่หลังจากนี้จะยากขึ้นทุกวัน และต้องแน่ใจว่าจนถึงวันเลือกตั้งเราจะไม่มีอุบัติเหตุทางการเมือง จนนำไปสู่การทำลายประชา ธิปไตยอีกครั้ง นายอภิสิทธิ์คิดเรื่องพวกนี้หรือยัง เราเข้าใจว่าสังคมรอคอย และตนก็แถลงว่าวันสองวันเราจะเสนอแนวทางที่ยืดหยุ่นได้ จึงอยากให้ประชานได้เข้าใจรูปธรรมของสถานการณ์
"นายอภิสิทธิ์ประกาศยุบสภา นปช.ยุติชุมนุม ไม่ได้หมายความว่าบ้านเมืองจะเป็นประชาธิปไตยทันที หรือเกิดความยุติธรรมขึ้นมา แต่หมายถึงมาตรการต่อไปต้องช่วยกันทำอะไร จะมาเร่งรัดเราเหมือนกับลูกน้องในรัฐบาลไม่ได้ เพราะคนเสื้อแดงไม่ใช่ลูกน้องนายอภิสิทธิ์" นายณัฐวุฒิกล่าว
-อย่ารุกราน-ค้ากำไรเกินควร
นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า วันนี้ต้องช่วยกันรักษาบรรยากาศ ตนไม่ประสงค์เห็นการให้สัมภาษณ์เชิงรุกรานดินแดน หรือค้ากำไรเกินควรภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์เองว่าคนที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางปรองดองคือพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล และพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นี่คือการเล่นเกมการเมืองมาบีบกัน หากเดินต่อไม่ได้ นายอภิสิทธิ์จะชี้ว่าทีแรกนปช.เปิดรับแต่พ.ต.ท.ทักษิณไม่เอาเลยเดินต่อไม่ได้ แต่หากเดินได้ก็จะบอกว่ารัฐบาลเสนอมาตรการที่สวยงามจึงทำได้ สรุปว่ากินทั้งหน้าทั้งหลัง นายอภิสิทธิ์ไม่ควรทำแบบนี้
นายณัฐวุฒิ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของพล.ต.ขัตติยะว่า พล.ต.ขัตติยะเป็นอิสรชน เคลื่อนไหวเอง ถูกผิดอย่างไร ท่านต้องรับผิดชอบ เราคือ นปช. พล.ต.ขัตติยะก็คือพล.ต. ขัตติยะ เช่นเดียวกับพ.ต.ท.ทักษิณคือคนเสื้อแดงคนหนึ่ง ไม่เคยมาเกี่ยวข้องกับการเห็นด้วย หรือขัดขวางการปรองดอง
"ไม่ควรมีใครเร่งรัดหรือหาเศษหาเลยกับเรื่องนี้อีก นี่คือการชุมนุม นปช.แดงทั้งแผ่นดิน คนอื่นเห็นอย่างไรไม่เกี่ยว แต่ถ้าจะพูดกันอย่างนี้ ขอตั้งคำถามว่าคนที่ไม่เห็นด้วยกับการ ปรองดอง คือนายสนธิ ลิ้มทองกุล และพันธมิตร หากไม่สำเร็จเพราะรัฐบาลฟังคำสั่งนายสนธิ หรือคนก่อเหตุคือพล.ต.จำลอง จะมีประโยชน์อะไรที่มาพูดแบบนี้ การตั้งข้อสังเกตกล่าวหากินแดนจะยากอะไร ตนก็ทำได้แล้วจะเอายังไง" นายณัฐวุฒิกล่าว
-พูดเป็นนัยอาจมีอุบัติเหตุ
ผู้สื่อข่าวถามว่าอุบัติเหตุที่กล่าวถึงหมายถึงอะไร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า อุบัติเหตุอธิบายเป็นรูปธรรมไม่ได้ แต่อะไรก็เกิดได้ภายใต้สถานการณ์เปราะบาง เพราะหลายคนไม่เห็นด้วยกับการยุบสภา หรือเสียสถานะในการเลือกตั้ง หลายคนเชื่อว่าเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ทำให้ต้องสูญเสียไป ดังนั้นหลังจากนี้จะประคับประคองบ้านเมืองอย่างไรจนถึงวันที่เป็นประชาธิปไตย ตนห่วงว่าถึงก่อนถึงวันเลือกตั้งจะมีคนขัดขวาง จนนำมาสู่การยึดอำนาจ ตนไม่รู้ ว่าจะมีอะไร แต่ที่รู้คือรัฐบาลไม่มีศักยภาพป้องกันสถานการณ์ เราจึงต้องช่วยกันคิด หากพวกตนยุติการชุมนุม แต่บ้านเมืองเลือกตั้งไม่ได้ ตนก็ต้องกลับมา ความขัดแย้งมันก็จะขยายจะรุนแรงอีก เมื่อเราไม่ต้องการแบบนี้จึงต้องช่วยกันคิด
ผู้สื่อข่าวถามว่าการตัดสินใจจะเน้นเรื่องส่วนรวมเป็นหลัก ไม่เกี่ยวกับความปลอดภัยของแกนนำใช่หรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า "แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าพวกผมกังวลเรื่องความปลอดภัย ก็ขอนิรโทษกรรมกันไปนาน เพราะข้อกล่าวหานี้รุนแรงถึงขั้นประหารชีวิต แต่การนิรโทษกรรมเป็นเงื่อนไขที่รัฐบาลเสนอมา แต่พวกผมปฏิเสธ พวกผมไม่ประสงค์เช่นนั้นจึงขอปฏิเสธและขอให้ดำเนินคดีต่อไป"
-การ์ดแดงจับจสอ.พกปืนมีพิรุธ
น.พ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. กล่าวถึงกรณีมีข่าวจะเดินทางไปมอบตัวเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ว่า เป็นเพียงการพูดถึงกำหนดการเดิมที่นัดกับพนักงานสอบสวนเอาไว้ หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงคงเป็นไปตามนั้น แต่หากเกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็อาจจะไม่ไป ซึ่งเหตุเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาการเจรจาหรือท่าทีของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดขึ้นอยู่กับมติที่ประชุม เพราะหมายจับดังกล่าว เป็นหมายจับรวมจะดำเนินการอย่างไร ก็เป็นมติที่ประชุม
วันเดียวกัน นายอารี ไกรนรา หัวหน้าการ์ดนปช. เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 8 พ.ค. การ์ดนปช.ได้จับตัวชายคนหนึ่งซึ่งมีลักษณะน่าสงสัย มาเดินป้วนเปี้ยนพื้นที่การชุมนุมฝั่งสยามสแควร์ คอยด้อมๆ มองๆ เข้ามาในพื้นที่ชุมนุมตลอดเวลา การ์ดนปช.จึงขอเข้าตรวจค้นตัว พบบัตรประจำตัวสังกัดกองทัพบก ทราบชื่อคือ จ.ส.อ.สมชาย จุลางยน และยังพบอาวุธปืน พร้อมกระสุน 2 แม็ก จึงนำตัวมา สอบสวน และนำตัวจ.ส.อ.สมชาย ไปที่สน. ลุมพินี ก่อนที่สน.ลุมพินี จะนำตัวส่งสน.ปทุมวัน เนื่องจากเหตุเกิดในพื้นที่ของสน.ปทุมวัน ทางเจ้าหน้าที่กองปราบปรามแจ้งว่าจ.ส.อ.สมชาย มีหมายจับข้อหาฆ่าคนตายที่ จ.นครสวรรค์ ทางตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไว้
-"เทือก"ร่วมประชุมศอฉ.
เวลา 09.00 น. ที่ร.11 รอ. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) มาเป็นประธานการประชุมศอฉ. มีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. เข้าร่วมประชุม ใช้เวลาประชุม 30 นาที โดยที่ประชุมได้ประเมินและบรรยายสรุปสถานการณ์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และฝ่ายยุทธการ
ทั้งนี้ ในที่ประชุม นายสุเทพไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ เพราะต้องรอดูท่าทีของกลุ่มนปช.ว่าจะมีคำตอบอย่างไร หลังจากนายอภิสิทธิ์ ได้ยื่นข้อเสนอแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติไปแล้ว ส่วนท่าทีของกองทัพขณะนี้ ก็ยังรอดูท่าทีของกลุ่มนปช.เช่นกัน
-พท.พาญาติ 10 เม.ย.บี้จับมาร์ค
เวลา 10.00 น. วันเดียวกัน ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันที่ 10 พ.ค. เวลา 10.00 น. จะนำญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม 10 เม.ย. เข้าร้องทุกข์ต่อ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และจะยื่นกับประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเวลา 13.00 น. เพื่อให้สอบสวนและดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) และคณะกรรมการ ศอฉ. รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทุกคนในเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. เพราะการดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นไปตามหลักสากล ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เป็นการกระทำความผิดโดยการคิดไตร่ตรองไว้ก่อน และถือเป็นตัวการร่วมหรือผู้ใช้ให้กระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 289 และมาตรา 82, 83, 84
-เสธ.แดงโต้-ชี้มาร์คหมดมุข
วันเดียวกัน พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิทบ. กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ กล่าวหาอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์รุนแรงและต้องการล้มแผนปรองดองแห่งชาติว่าตนไม่ได้ขัดขวางแผนการปรองดองแห่งชาติ หรือโรดแม้ป แต่เพราะโรดแม็ปไม่ได้เป็นการแก้ปัญหา หรือตรงตามที่มวลชนคนเสื้อแดงต้องการ พวกเขาจึงไม่ยอมยุติการชุมนุม
"เรามีโรดแม็ป เรดแม็ปทั้งหมด 5 ข้อของเราที่นายกรัฐมนตรีควรจะต้องพิจารณาและดำเนินการก่อน พวกเราจึงจะยุติการชุมนุม เพราะต่อให้แกนนำ นปช.อยากจะปรองดอง แต่ความรู้สึกของมวลชนยังไม่ยอม ต้องได้รับการเยียวยาเสียก่อน" พล.ต.ขัตติยะกล่าว
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวต่อว่าที่นายกฯโจมตีใส่ร้ายตนเอง เพราะหมดมุข ไม่มีมุขจะเล่นแล้ว ทำมาทุกอย่าง แต่ก็ไม่สำเร็จ กลายเป็นพวกแต๋วแตกแล้ว หาใครไม่ได้ ก็เลยหันมาโทษ เสธ.แดง "พี่ทักษิณ ก็สนับสนุนแผนปรองดอง ต้องการให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่อยู่แล้ว แต่พี่น้องเสื้อแดงไม่ยอมเอง เพราะการชุมนุมและเป้าหมาย มันเลยขั้นพี่ทักษิณไปแล้ว"
-เผยมวลชนแดงพร้อมสู้ไม่ถอย
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ บงการให้สู้ต่อไปนั้น พล.ต. ขัตติยะ ปฏิเสธว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยต้อง การให้ตนใช้ความรุนแรง มีแต่คอยห้ามไม่ให้ไปขัดกับแกนนำนปช. เหมือนตอนที่แกนนำ ยอมรื้อรั้วที่ ร.พ.จุฬาฯ แต่ตนเห็นว่ามัน อันตราย ที่จะทำให้ทหารเข้าตีเราได้ง่าย ก็ไม่ยอม จนพี่ทักษิณต้องโทร.มาขอร้อง ตนถึงยอม เพราะตนมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยเท่านั้น พี่ทักษิณไม่เคยสั่งอะไรตน ยิ่งเรื่องปรองดอง พี่ทักษิณหนุนเต็มที่ แต่เมื่อมวลชนไม่ยอม ตนก็ต้องอยู่กับมวลชน
"นายกฯคงไม่รู้ว่าสู้อยู่กับใครบ้าง แต่เห็น เสธ.แดง เดินๆ อยู่ในม็อบเปิดตัวที่สุด ก็เลยมาโจมตีผม เป็นถึงนายกฯ ข้อมูลการข่าวต้องลึกกว่านี้หน่อย จะบอกให้ก็ได้ว่า ตอนนี้นายกฯสู้อยู่กับประชาชน มวลชนคนเสื้อแดงที่ใจสู้ ถ้านายกฯไม่ยุบสภา ก็ถือว่าไม่บรรลุเป้าหมาย พร้อมตายคาราชประสงค์ นายกรัฐมนตรี ควรเป็นฝ่ายที่ต้องยอมอย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่ใช่มา บอกคนเสื้อแดงให้ยอมอย่างไม่มีเงื่อนไข" พล.ต.ขัตติยะกล่าว
เมื่อถามว่าหากเลิกการชุมนุมแล้วกลัวที่จะถูกตามเช็กบิล จับกุมหรือไม่ จึงไม่อยากให้เลิกชุมนุมนั้น พล.ต.ขัตติยะกล่าวว่า คนอย่างตนไม่กลัวหรอก ถ้าประชาชนต้องการเลิก ยุติการชุมนุมก็กลับบ้าน แต่ก็คงต้องหลบๆ เพราะไม่อยากมีเรื่อง ต้องมีคนตามเล่นงานแน่ แต่ตนก็คงไม่อยู่เฉยๆ ให้ใครมาทำร้ายหรือรังแกได้ ตอนนี้ถ้าประเมินจิตใจของผู้ชุมนุมแล้ว ทุกคนพร้อมที่จะอยู่ต่อไปเรื่อยๆ อีกหลายเดือน หรือจนเลือกตั้งเลยด้วยซ้ำ จะมีประชาชนมาร่วมชุมนุมเพิ่มมากขึ้นๆ ทุกที ถึงเวลานี้ แกนนำตัดสินใจยากแล้ว แม้ตนเองอยากปรองดอง แต่ผู้ชุมนุมยังไม่ยอมหยุด ยังต้องการเป้าหมายอยู่ ตอนนี้มวลชนเลยคิดแกนนำนปช.ไปซูเอี๋ยกับรัฐบาล ไม่ยอมทำตามสัญญาที่ประกาศไว้
-"เทือก"ขู่แดงอีก-ลั่นให้รอดู
เมื่อเวลา 17.00 น. ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมศอฉ. มีพล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วยผบ.ตร. สำนักข่าวกรองฯ และหน่วยงานความมั่นคงเข้าร่วมประชุม มีนายอภิสิทธิ์ข้าร่วมรับฟังการประชุมด้วย ใช้เวลาหารือ 20 นาที
ในที่ประชุมทางกอ.รมน. และสำนักข่าว กรองฯได้ประเมินและสรุปสถานการณ์ปัจจุบัน รวมถึงวิเคราะห์สถานการณ์ให้ที่ประชุมได้รับทราบ ขณะนี้ทางศอฉ.จะรอดูท่าทีคำตอบของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ตอบรับแนวทางปรองดองหรือไม่จึงจะชี้แจงต่อสื่อมวลชน เพราะศอฉ.ไม่อยากให้กลุ่มคนเสื้อแดงนำคำแถลงของศอฉ.ไปเป็นข้ออ้างว่า ไม่ปรองดอง ขณะนี้ทางศอฉ. พยายามสร้างบรรยากาศที่ดีเพราะช่วงนี้เป็นการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบรมราชาภิเษกปีที่ 60
นายสุเทพ ตอบคำถามกรณีถึงเส้นตายวันที่ 10 พ.ค.นี้ ถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่มีคำตอบ จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดถึงขนาดจะสลายการชุมนุมหรือไม่ ว่า เดี๋ยวคอยดูก็แล้วกัน
-ปณิธานอ้างต่างชาติเข้าใจไทย
ต่อมานายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิ การนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกษิต ภิรมย์ รายงานต่อที่ประชุมเกี่ยวกับการเดินทางไปชี้แจงเอกอัครราชทูตไทยที่ประจำในต่างประเทศ ซึ่งคณะทูตไทยเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในไทย โดยเฉพาะกรณีนายกฯ เสนอแผนสร้างความปรองดองในนามรัฐบาล รวมถึงปัญหาของมวลชนเสื้อแดงและแกนนำ ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด ที่ยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ โดยสรุปนั้นในแง่ต่างประเทศรับรู้รายละเอียดมากขึ้น นายกษิตยังยืนยันกับคณะทูตไทยในเรื่องการก่อการร้ายว่ารัฐบาลยังเดินหน้าดำเนินการตามกฎหมาย สำหรับปริมาณของมวลชนจากต่างจังหวัดที่เข้ามาร่วมการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ทดแทนมวลชนใน กทม.นั้น ตัวเลขของมวลชนที่เดินทางเข้ามายังไม่มีความชัดเจน ศอฉ.กำชับให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในจุดสำคัญๆ ให้มากขึ้นเพื่อป้องกันและระมัดระวังเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด อีกทั้ง นายกฯ ได้กำชับเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยของผู้ชุมนุมเป็นพิเศษ
-"ตุลย์"เดินสายไปพิษณุโลก
เวลา 08.00 น. น.พ.ตุลย์ สิทธิสมวงษ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อหลากสี และนายชัชชัย สุขาวดี หรือหรั่ง ร็อคเคสตร้า ได้เดินทางมาพบกลุ่มเสื้อหลากสี ที่จังหวัดพิษณุโลก โดยมีแกนนำกลุ่มเสื้อหลากสีพิษณุโลกต้อนรับ ก่อนจะไปสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ถนนวังจันทน์ อ.เมือง จากนั้นไปที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ เพื่อกราบไหว้หลวงพ่อพุทธชินราช ภายในวิหารหลวง และเข้ากราบไหว้พระพุทธชินสีห์ ซึ่งประดิษฐานอยู่ในวิหารด้านทิศเหนือ และพระศรีศาสดา ซึ่งประดิษฐานอยู่ในวิหารด้านทิศใต้ เพื่อเป็นสิริมงคล
น.พ.ตุลย์ เปิดเผยว่า ตนได้อธิษฐานขอให้คนเสื้อแดงตาสว่างเปลี่ยนใจมารักชาติ เลิกรักพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขอให้ชาวพิษณุโลกทั้งเสื้อแดงหรือคนเสื้อหลากสี ร่วมมือกันทำให้สังคมสงบสุข อย่าหลงคำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่เห็นแก่ประโยชน์ตนเอง ทุจริตทำลายชาติ ขอให้ร่วมมือต่อต้าน และการเลือกตั้งครั้งหน้าขอให้เลือกกลุ่มที่มาทำงานเพื่อบ้านเมืองอย่างแท้จริง อย่าเลือกคนที่เห็นแก่ประโยชน์หวังเข้ามากอบโกยเงิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้มีรปภ.ส่วนตัวคอยดูแลน.พ.ตุลย์ อย่างใกล้ชิด และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดยพ.ต.อ.พายัพ ค้าขาย ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก มาดูแลสงบความเรียบร้อย เนื่องจากมีกลุ่มคนเสื้อแดงมาดูลาดเลา อย่างไรก็ตาม เวลา 16.00 น. น.พ.ตุลย์ มีกำหนดพบปะกับกลุ่มเสื้อหลากสี ที่บริเวณวงเวียนหอนาฬิกา กลางเมืองพิษณุโลก
-หลากสีจับ2หนุ่มอ้างม็อบแดง
เมื่อเวลา 17.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สมาชิกกลุ่มเสื้อหลากสีทยอยมาร่วมชุมนุมกว่า 300 คน และขึงธงชาติขนาดใหญ่และโบกธงชาติขนาดเล็กไปมา สร้างความสนใจให้คนที่สัญจรไปมา แกนนำปราศรัยคัดค้านการยุบสภา สนับสนุนนายอภิสิทธิ์ ให้ทำงานต่อ พร้อมเรียกร้องให้มากันมากๆ ในการชุมนุมใหญ่วันที่ 16 พ.ค. ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ โดยครั้งนี้ น.พ.ตุลย์ไม่ได้มาร่วมแต่อย่างใด
หลังการชุมนุมผ่านไปไม่นาน การ์ดกลุ่มคนเสื้อหลากสีจับชายต้องสงสัย 2 คน มัดข้อมือด้วยเชือกฟาง นำไปสอบประวัติหลังเวที ทราบชื่อนายนิรันดร์ ช่องสี ชาวชัยภูมิ และนายอรรค
เดช วิเศษสิงห์ ชาวกาญจนบุรี โดยนายอรรคเดช ใส่เสื้อลายสกอตที่มีลายเซ็นเสธ.แดง การ์ดเสื้อหลากสี ระบุเสธ.แดง เป็นคนส่งมาสอดแนมการชุมนุม แต่นายอรรคเดช ปฏิเสธว่า ไม่ได้มาสอดแนม แต่มาเพื่อหาน้า เพื่อขอค่ารถกลับบ้านที่ จ.กาญจนบุรี
จากนั้น แกนนำนำชายทั้ง 2 ขึ้นบนรถ ปราศรัย ให้เล่าเหตุการณ์ว่าการชุมนุมที่ราชประสงค์ อึดอัดอย่างไร และสอบถามว่าจงรักภักดีต่อสถาบันหรือไม่ นายนิรันดร์ นำคู่มือการร่วมชุมนุมนปช. มาโชว์ ขณะที่โฆษกบนเวที กล่าวว่า การชุมนุมของนปช. ต้องตอบคำถามตามคู่มือ จากนั้นมีการร่วมบริจาคเงินให้ 2 คนกลับบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการชุมนุม มีการ์ดเสื้อหลากสีประจำทุกจุดรอบบริเวณ และมีกล้องส่องทางไกลไปตามตึกสูงต่างๆ เพื่อป้องกันการซุ่มยิง
-ม็อบแดงคับคั่งรอฟัง"เรดแม็ป"
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของคนเสื้อแดง ที่แยกราชประสงค์ ในช่วงเย็น ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมทยอยมารอฟังการปราศรัยหน้าเวทีอย่างต่อเนื่อง แน่นไปจนถึงสะพานลอยหน้าทางเข้าเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า เพื่อรอฟังการประกาศโรดแม็ป ของกลุ่มนปช. จำนวน 5 ข้อต่อรัฐบาล นอกจากนี้ ยังมีผู้ชุมนุมบางส่วนกระจายอยู่ในร่มไม้และเงาตึก เนื่องจากถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเย็นแต่อากาศยังคงร้อนระอุ ผู้ชุมนุมจึงต้องใช้พัด และหนังสือพิมพ์ บรรเทาความร้อน ส่วนแกนนำทยอยกันมาที่หลังเวทีตั้งแต่ช่วงเวลา 17.00 น. ส่วนบนเวทีเป็นการปราศรัยของแกนนำคนต่างๆ ที่โจมตีว่ารัฐบาลไม่จริงใจที่จะแก้ปัญหาของประเทศ
เวลา 19.35 น. แกนนำนปช. ทยอยกันออกจากตู้คอนเทนเนอร์หลังเวที ที่ใช้เป็นสถานที่ในการประชุม หลังจากประชุมกันอย่างเคร่งเครียดตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นเวลากว่า 4 ชั่วโมง นายสมหวัง อัสราษี หนึ่งในแกนนำนปช. กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าวันนี้ยังไม่มีอะไร ไม่มีการแถลงข่าว เพราะยังสรุปอะไรไม่ได้ ต้องรอวันที่ 10 พ.ค. คาดว่าจะมีข้อสรุปออกมา รวมไปถึงแกนนำคนอื่นๆ ก็ตอบด้วยคำตอบเดียวกันว่า ไม่มีอะไร
นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง กล่าวว่า การชุมชุมนุมจะยุติก่อนวันที่ 15 พ.ค.หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลจะรับข้อเสนอของคนเสื้อแดงหรือไม่ เมื่อถามว่าย้ำว่าทำไมแกนนำยังไม่ออกมาแถลงข่าว นายอริสมันต์ กล่าวว่า กำลังมีการต่อสายคุยกับทางรัฐบาลอยู่ ตอนนี้ต้องรอเจรจากันอยู่ ไปเร่งไม่ได้
-ชี้เหยื่อที่ตายต้องได้ยุติธรรม
เวลา 20.00 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ รองประธานนปช. ให้สัมภาษณ์หลังเวที ว่า ที่ประชุมวันนี้ยังไม่มีข้อยุติ เนื่องจากมีประเด็นหารือหลายเรื่อง โดยเฉพาะประเด็นที่มีการหยิบยกมาพูดมากที่สุดคือ เรื่องคดีความ ที่แกนนำหลายคนเห็นไม่เห็นด้วย ที่จะดำเนินคดีเฉพาะฝ่ายผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงเพียงฝ่ายเดียว โดยไม่ดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ทำให้แกนนำ นปช.มีความหนักใจที่จะชี้แจงกับมวลชน เพื่อที่จะยุติการชุมนุม จึงจะยังไม่แถลงข่าว
"นโยบายเรื่องการฆ่าประชาชนนั้นเป็นเรื่องใหญ่ ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจน ก็รอความชัดเจนในส่วนนี้อยู่ พวกผมจะฟังความเห็นว่ามีประชาชนล้มตาย และบาดเจ็บจำนวนมาก แต่ไม่มีใครรับผิดชอบต่อชีวิตเหล่านั้น ไม่มีผู้ต้องหาสักคน" นายจุตพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้พวกตนเข้าใจว่าสังคมต้องการให้เกิดความปรองดอง แต่คนเสื้อแดงมีคนที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ หากละทิ้งตรงนี้แล้วไปสู้คดีก่อการร้าย ล้มสถาบัน โดยไม่ได้ขอความเป็นธรรมให้กับพี่น้องประชาชน ทางประชาชนคนเสื้อแดงก็คงไม่ยอม ขอโอกาสสังคมด้วย ดังนั้นไม่ว่าใครก็ตามต้องคิดเรื่องของประชาชนที่ตาย จะบอกว่าเราได้วันเลือกตั้งแล้วลืมความตาย ความบาดเจ็บของประชาชนมันไม่ใช่ ดังนั้นรัฐบาลต้องให้คำตอบเรื่องนี้เราจะออกจากสนามนี้โดยละทิ้งประชาชนไม่ได้ ตนต้องขอวิงวอนสังคมด้วย ไม่ใช่ว่าเราดื้อรั้น สังคมควรให้โอกาสพวกตน เราจะออกจากสนามแห่งนี้โดยละทิ้งคนตายและบาดเจ็บโดยไม่รับผิดชอบใดๆ นั้นไม่ได้ ยืนยันว่าพวกตนจะไปต่อสู้คดีล้มสถาบันและก่อการร้ายโดยไม่ขอนิรโทษกรรม
-ถ้าเทือก-มาร์คยอมรับคดีก็จบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนายกฯ ขีดเส้นบอกถ้าจริงใจต้องชัดเจนใน 1-2 วันนี้ วันที่ 15 พ.ค. ช้าไป นายจตุพร กล่าวว่า ต้องถามกลับกัน ถ้านายกฯจริงใจต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมคดีฆ่าคนตาย เหมือนพวกตนที่ไม่ขอนิรโทษกรรม คดีของพวกตนก็เดินหน้า คดีนายกฯก็ต้องเดินหน้าเช่นกัน ประชาชนก็จะกลับอย่างมีความสุข ส่วนคณะกรรมการสอบสวนก็ว่ากันไป
"ผมเชื่อว่านายกฯ ก็ต้องการจะจบ ดังนั้นนายกฯ ก็ต้องทำตามกฎหมาย ปฏิบัติต่อพวกผมอย่างไรก็ควรปฏิบัติต่อพวกท่านอย่างนั้น" นายจตุพร กล่าวและว่า ส่วนที่มวลชนอยากกลับบ้านพวกตนไม่เคยไปบังคับประชาชนไม่ให้ออกจากที่นี่ตามที่รัฐบาลกล่าวหาว่ามีการยึดบัตรประชาชนบ้าง ไปจ้างคนบ้าง ก็ขอให้สบายใจได้ว่าประชาชนสามารถตัดสินใจได้เอง เชื่อว่าหากมีการดำเนินคดีนายกฯ นายสุเทพ อย่างเท่าเทียมกันประชาชนคงรับได้ วันนี้จะจบได้ใน 1-2 วันนี้ หากนายอภิสิทธิ์ ประกาศอย่างชัดเจนว่าพร้อมจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนายกฯ ระบุว่าเป็นห่วงความปลอดภัยประชาชนและแกนนำ นปช.ว่าจะไม่ปลอดภัยหลังเกิดเหตุยิงและระเบิด 2 จุดล่าสุด นายจตุพร กล่าวว่า ตนขอ บอกว่านายกฯและพวกตนต่างร่วมมือที่จะยุติเรื่องนี้ได้ คือ ปฏิบัติตามกฎหมายกับพวกตนอย่างไร ก็ปฏิบัติกับพวกท่านอย่างนั้น ไม่ควรจะมี 2 มาตรฐาน ดังนั้นวันนี้นายอภิสิทธิ์ สามารถยุติปัญหานี้ได้ นายอภิสิทธิ์ต้องการเวลา 1 วัน ดังนั้นสามารถตอบตนในคืนนี้ ทุกอย่างก็จบ เอานายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ เป็นหลัก แต่กรณีนายกฯเป็น ส.ส.ต้องขออนุมัติจากสภา แต่นายสุเทพ ไม่ได้เป็นส.ส. รัฐธรรมนูญไม่ได้คุ้มครองตำแหน่งรองนายกฯดังนั้นต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเหมือนพวกตน ไม่เช่นนั้นพวกตนจะตอบพี่น้องประชาชนไม่ได้
ที่มา.ข่าวสดรายวัน
**********************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น