ถึงวันนี้เหตุการณ์สลายการชุมนุมที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศในปฏิบัติการตามวาทกรรม “ขอคืนพื้นที่” กับคำสั่งเด็ดขาดว่าจะต้องสลายการชุมนุมยึดพื้นที่คืนให้ได้ จนทำให้มีคนตายทันทีในเหตุการณ์วันนั้นเกือบ 20 คน (ไม่นับรวมผู้เสียชีวิตในภายหลัง) และบาดเจ็บทันทีอีกกว่า 800 คน แต่เวลาผ่านไป 1 เดือนแล้วเหมือนไม่เคยมีเหตุการณ์อัปยศนี้เกิดขึ้นในประเทศไทย
ไม่มีใครหรือหน่วยงานใดออกมาเรียกร้อง ออกมาตรวจสอบหาคนผิด และคนสั่งสลายการชุมนุมจนมีคนเจ็บและตายจำนวนมากก็ยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ได้ต่อไป
กรณีนี้เป็นอีกกรณีหนึ่งที่พิสูจน์ได้ชัดว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นคนอย่างไร
ย้อนไปหลังเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯที่หน้ารัฐสภาเมื่อ 7 ตุลาคม 2551 ให้หลังจากนั้น 2 วัน ในวันที่ 9 ตุลาคม นายอภิสิทธิ์ ซึ่งตอนนั้นเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้แถลงต่อสื่อมวลชนหลังประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ ที่ประกอบด้วยแกนนำและ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ว่า
“วันนี้ในทางการเมืองความชอบธรรมหมดไปแล้ว เราเรียกร้องความรับผิดชอบจากนายกฯ (นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์) จะลาออก หรือถ้ากลัวว่าลาออกแล้วพรรคประชาธิปัตย์จะมีอำนาจจะยุบสภาก็ได้ แต่ไม่ควรเพิกเฉย เพราะถ้าไม่ทำอะไรก็เท่ากับทำร้ายบ้านเมือง และกำลังทำร้ายระบบการเมือง เพราะระบบการเมืองในวิถีระบอบประชาธิปไตยไม่มีที่ไหนในโลกที่ประชาชนถูกทำร้ายจากภาครัฐ แต่รัฐบาลที่มาจากประชาชนไม่แสดงความรับผิดชอบ....
...วันนี้นายกฯต้องรู้ตัวเองว่าเป็นผู้นำประเทศหรือไม่ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง 1 วัน เจ็บกว่า 400 คน มีทั้งสาหัสและเสียชีวิต เพียงเพราะนายกฯต้องการเข้าไปอ่านเอกสาร 33 หน้า (แถลงนโยบายในสภา) อ่านเสร็จแล้วก็ไม่สามารถทำได้ตามที่อ่าน จึงมองไม่เห็นว่าอยู่ในฐานะอะไรที่จะมาตั้งคนขึ้นมาสอบข้อเท็จจริง ถ้าบอกว่าทั้งหมดเป็นเรื่องตำรวจ อย่างนั้นก็ลาออกไปให้ตำรวจบริหารบ้านเมืองไปเลย ถ้าบอกว่าตัดสินใจไม่ได้ต้องฟังโทรศัพท์จากลอนดอน ก็เอาคนที่ลอนดอนกลับมา...
....นายกฯก็มีแต่สร้างปัญหาให้กับสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ ผมไม่ห่วงว่ารัฐบาลจะอยู่สั้นอยู่ยาว แต่ห่วงว่าบ้านเมืองจะเดินอย่างไร รัฐบาลยังอยู่ผมก็นึกไม่ออกว่าจะทำอะไรให้บ้านเมือง สถานการณ์ตอนนี้นายกฯมีแต่ความหวาดระแวง หวาดกลัว อยากถามว่าจะอยู่ไปเพื่ออะไร อยู่เพื่อกลัวคนคนหนึ่งติดคุกหรืออย่างไร จะให้บาดแผลในสังคมลุกลามบานปลายไปถึงขนาดไหน ไม่อยากเชื่อว่านี่คือคนที่เคยเป็นผู้บริหารสูงสุดในกระทรวงยุติธรรม...
ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมสถานการณ์ในขณะนี้ที่ถือว่าวิกฤตสูงสุดแล้ว นายสมชายยังอยู่ได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า “ผมตอบไม่ได้ ผมก็ไม่เคยเห็นคนแบบนี้ ถ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ผมรู้จักก็คงไม่เป็นแบบนี้”
นี่แหละธาตุแท้ของคนชื่อ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ทุกครั้งที่สถานะเปลี่ยน เวลาเปลี่ยน เขามักจะเปลี่ยนไปไม่ใช่คนเดิม
แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยเปลี่ยนเลยคือการไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย ไม่ค่อยรักษาคำพูด สามารถพูดขาวให้เป็นดำ พูดดำให้เป็นขาวได้ตลอดเวลา
ถ้าเทียบจำนวนผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต เหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 กับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 ห่างไกลกันมาก
หากเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ผู้เขียนรู้จักก็ไม่เป็นแบบนี้
คอลัมน์.เป็นประชารัฐ
จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
โดย ลอย ลมบน
**********************************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น