--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

นายกฯ ของคนไทย

“ความเห็นพ้องต้องกันของกลุ่มคนส่วนใหญ่ คือ ยังต้องการระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข...ดัชนี้บ่งชี้ว่าเราเป็นเพลสเตตหรือไม่ มันชี้ชัดว่าเราไม่ใช่ เราไม่ได้เป็นเพลสเตต เราเป็นเพลโกเวิร์นเมนท์เป็นรัฐบาลที่ล้มเหลว ไม่สามารถดูแลสถานการณ์ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาได้ดีเท่าที่ควร”
คือ คำให้สัมภาษณ์ของ มรว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งมาจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเดียวกับนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

เป็นคำให้สัมภาษณ์ที่บอกอะไรหลายอย่างจากความคิดของคนในพรรคเดียวกัน จากนายกฯ เล็กพูดถึงนายกฯ ใหญ่ ของการทำงานในการบริหารประเทศ
เป็นการพูดแบบตรงไปตรงมาชัดเจน ท่ามกลางการเมือง วิปริต อาเพศของประชาธิปไตยประเทศไทย และท้าทายให้เกิดความรู้สึกกับคนทั่วไป ที่มีเพียงไม่กี่คนสามารถจะพูดความจริงแบบนี้ได้ อย่างตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม เพื่อการมองประเทศที่ถูกต้องไม่ผิดเพี้ยนและเข้าข้างในฐานะที่อยู่พรรคเดียวกัน

คำพูดอย่างนี้จะมีประโยชน์และเป็นกระจกส่องให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ดูโดยไม่หลอกตัวเอง และจมปลักอยู่กับอำนาจและการอุ้มชูของคนรอบข้าง เพื่อทบทวนตัวเองเฉกเช่นเดียวกันความคิดความเห็นของนักวิชาการอย่าง สมชาย ปรีชาศิลปะกุล จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เรื่อง “นิติรัฐที่ไว้นิติธรรม” ใน นสพ.มติชน ฉบับ 10 พ.ค. 53 ในหน้า 6 ที่บอกว่าแม้กระทั่งในปัจจุบันก็ยังเห็นได้ชัดว่า มีการเลือกบังคับใช้กฎหมายเฉพาะกับ

บุคคลที่ยืนอยู่คนละข้างฝ่ายกับอำนาจรัฐ แต่หากเป็นการกระทำของบุคคลที่สนับสนุนรัฐบาล หรือต่อต้านผู้ชุมนุม ก็จะไม่มีการนำกฎหมายมาบังคับใช้ เช่น เมื่อมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน การชุมนุมไม่ว่าของบุคคลใดหรือมีจุดยืนทางการเมืองแบบใดก็ล้วนเห็นสิ่งผิดกฎหมายทั้งสิ้นความหมายของการนำนิติรัฐกลับมาสู่สังคมไทย ซึ่งมิใช่จะมุ่งบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้ชุมนุมเท่านั้น หากยังต้องตระหนักถึง นิติธรรมว่าเป็นสิ่งที่ไม่อาจขาดหายไปได้ถ้ามีเพียงบังคับใช้

กฎหมายอย่างจริงจัง แต่ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า นิติธรรม ดำรงอยู่ก็อาจทำให้เป็นได้ชัดเจนว่า ทั้งหมดเป็นเพียงข้อกล่าวอ้างเพื่ออยู่ในอำนาจต่อไป โดยไม่ได้มุ่งหวังจะนำสันติสุข กลับคือมาแต่อย่างใดทั้งหมดเป็นเรื่องที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องตระหนัก ต้องคิด และต้องแสดงให้ผู้คนทั่วไปเห็นความจริงใจมากกว่าสิ่งที่พูดผ่านปากออกมานายกรัฐมนตรีที่คนไทยจะยอมรับนับถือได้ต้องสง่างามกว่าที่ท่านเป็นอยู่ครับ

คอลัมน์ ปัญหาโลกแตกมดคันไฟ
ที่มา.บางกอกทูเดย์
..............................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น