น่ายินดีที่ในที่สุดสังคมไทยก็สามารถตั้งสติและหาทางออกจากวิกฤตได้ โดยไม่ผ่านการเสียเลือดเนื้อของพี่น้องประชาชนไปมากกว่าที่เป็นอยู่
และแม้จะมีผู้เห็นด้วยจำนวนมากกับข้อตกลงเพื่อผ่อนคลายสถานการณ์ ระหว่างตัวแทนรัฐบาลกับตัวแทนของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ก็อาจจะมีประชาชนอีกบางส่วนไม่เห็นด้วยหรือมีจุดยืนที่ต่างออกไป
กระนั้น ก็ต้องยอมรับความจริงประการหนึ่งว่า ไม่ว่าจะมีความเห็นแตกต่างกันขนาดไหน วิธีการที่ดีที่สุดในการคลี่คลายปัญหาหรือความแตกต่าง ก็คือการหันหน้าเจรจา
เพราะไม่เคยมีปัญหาไหนจบสิ้นลงได้จริงด้วยการใช้กำลังบังคับ
แม้จะสามารถผ่อนคลายวิกฤตลงได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีการบ้านที่สังคมจะต้องร่วมกันพิจารณาในอีกหลายประการ
ไม่ว่าจะเป็นหนทางหรือแนวทางในการเดินไปสู่อนาคตข้างหน้า ว่าทำอย่างไรจะป้องกันมิให้เกิดปัญหาจนถึงขั้นเสียเลือดเนื้อและชีวิตของเพื่อนร่วมชาติอีก
ในจำนวนนี้ย่อมรวมถึงการสะสางข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมาในอดีต ตั้งแต่เริ่มต้นวิกฤตมาจนกระทั่งถึงเหตุการณ์ปะทะกันจนกระทั่งมีประชา ชนเสียชีวิตหลายครั้งในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
มีแต่การสะสางอดีตอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ทุกฝ่ายได้เรียนรู้เป็นอุทาหรณ์สอนใจ
จึงจะป้องกันมิให้เกิดการทำผิดซ้ำ ซากในอนาคต
นอกจากการหาทางแก้ไขและป้องกันวิกฤตการเมืองที่เป็นภาระร่วมกันของคนส่วนใหญ่ในสังคมแล้ว
ภาระสำคัญอย่างยิ่งอีกประการหนึ่งของรัฐบาลในช่วงเวลาต่อจากนี้ไป ก็คือจะชดเชยหรือให้ความช่วยเหลือกับผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม ตั้งแต่ในแง่มนุษยธรรมไปจนถึงด้านเศรษฐกิจให้ครบถ้วนและทั่วถึงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
สังคมไทยอ่อนแอลงมากเพราะความแตกแยกที่ไม่ใช้เหตุผลเข้าจับ และความขัดแย้งที่เบียด เบียนและทำลาย ตั้งแต่เวลาไปจนกระทั่งถึงทรัพยากรอื่นๆ
เมื่อถึงเวลาจะฟื้นจากวิกฤต จะต้องช่วยกันคิด แก้ไข และลงมือแก้ไขกันให้ครบถ้วนรอบด้าน
ข่าวสดรายวัน
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
***********************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น