--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

หลุดจากวิกฤต

น่ายินดีที่ในที่สุดสังคมไทยก็สามารถตั้งสติและหาทางออกจากวิกฤตได้ โดยไม่ผ่านการเสียเลือดเนื้อของพี่น้องประชาชนไปมากกว่าที่เป็นอยู่

และแม้จะมีผู้เห็นด้วยจำนวนมากกับข้อตกลงเพื่อผ่อนคลายสถานการณ์ ระหว่างตัวแทนรัฐบาลกับตัวแทนของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ก็อาจจะมีประชาชนอีกบางส่วนไม่เห็นด้วยหรือมีจุดยืนที่ต่างออกไป

กระนั้น ก็ต้องยอมรับความจริงประการหนึ่งว่า ไม่ว่าจะมีความเห็นแตกต่างกันขนาดไหน วิธีการที่ดีที่สุดในการคลี่คลายปัญหาหรือความแตกต่าง ก็คือการหันหน้าเจรจา

เพราะไม่เคยมีปัญหาไหนจบสิ้นลงได้จริงด้วยการใช้กำลังบังคับ

แม้จะสามารถผ่อนคลายวิกฤตลงได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีการบ้านที่สังคมจะต้องร่วมกันพิจารณาในอีกหลายประการ

ไม่ว่าจะเป็นหนทางหรือแนวทางในการเดินไปสู่อนาคตข้างหน้า ว่าทำอย่างไรจะป้องกันมิให้เกิดปัญหาจนถึงขั้นเสียเลือดเนื้อและชีวิตของเพื่อนร่วมชาติอีก

ในจำนวนนี้ย่อมรวมถึงการสะสางข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมาในอดีต ตั้งแต่เริ่มต้นวิกฤตมาจนกระทั่งถึงเหตุการณ์ปะทะกันจนกระทั่งมีประชา ชนเสียชีวิตหลายครั้งในเดือนเมษายนที่ผ่านมา

มีแต่การสะสางอดีตอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ทุกฝ่ายได้เรียนรู้เป็นอุทาหรณ์สอนใจ

จึงจะป้องกันมิให้เกิดการทำผิดซ้ำ ซากในอนาคต

นอกจากการหาทางแก้ไขและป้องกันวิกฤตการเมืองที่เป็นภาระร่วมกันของคนส่วนใหญ่ในสังคมแล้ว

ภาระสำคัญอย่างยิ่งอีกประการหนึ่งของรัฐบาลในช่วงเวลาต่อจากนี้ไป ก็คือจะชดเชยหรือให้ความช่วยเหลือกับผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม ตั้งแต่ในแง่มนุษยธรรมไปจนถึงด้านเศรษฐกิจให้ครบถ้วนและทั่วถึงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

สังคมไทยอ่อนแอลงมากเพราะความแตกแยกที่ไม่ใช้เหตุผลเข้าจับ และความขัดแย้งที่เบียด เบียนและทำลาย ตั้งแต่เวลาไปจนกระทั่งถึงทรัพยากรอื่นๆ

เมื่อถึงเวลาจะฟื้นจากวิกฤต จะต้องช่วยกันคิด แก้ไข และลงมือแก้ไขกันให้ครบถ้วนรอบด้าน

ข่าวสดรายวัน
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
***********************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น