วิกฤตการเมืองไทยขณะนี้ไม่ได้ถูกจำกัดเฉพาะในประเทศไทยแล้ว แต่ทั่วโลกได้จับตามองประเทศไทยอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และจีน รวมถึงองค์การสหประชาชาติและสหภาพยุโรปก็แสดงความวิตกกังวลอย่างยิ่งกับสถานการณ์ในประเทศไทยที่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
โดยเฉพาะเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยได้เรียกร้องให้มีการเคารพกฎหมายการเจรจาที่เป็นประโยชน์ และการหาทางออกอันเป็นผลจากการเจรจาที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาวิกฤตทางการเมืองอย่างสันติวิธีและเป็นประชาธิปไตย
รัฐบาลและกองทัพจึงจะทำเป็น “ทองไม่รู้ร้อน” หรือ “ลิงหลอกเจ้า” หรือลิงที่ปิดหู ปิดตา ปิดปาก กับปฏิกิริยาที่นานาชาติมีต่อประเทศไทยไม่ได้ หากยังยืนยันว่าเป็นรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่รัฐบาลเผด็จการทหารอย่างพม่าที่ปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรง โดยปิดประเทศและปิดกั้นข้อมูลข่าวสารทุกชนิดไม่ให้เผยแพร่ออกมาภายนอก
อย่างกรณี 47 ประเทศที่ประกาศเตือนการเดินทางเข้าประเทศไทยและกรุงเทพฯ ซึ่งประเทศที่ห้ามเดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว อาทิ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สเปน จีน อังกฤษ และแคนาดา ส่วนกระทรวงต่างประเทศสหรัฐเตือนนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังในการเที่ยวประเทศไทย ซึ่งถือเป็นความเสียหายกับประเทศไทยอย่างมาก ไม่ใช่แค่เรื่องการท่องเที่ยว แต่ยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและการลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งไม่ว่าสถานการณ์จะยุติเร็วหรือช้า ประเทศไทยก็ต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนเชื่อมั่นเหมือนเดิมได้
ทุกฝ่ายต่างก็ยอมรับว่าการแก้ปัญหาวิกฤตการเมืองไทยวันนี้ไม่ใช่ยุติที่การเจรจา แต่ทำอย่างไรที่จะแก้ปัญหามากมายที่ฝังลึกอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ หรือสังคม โดยเฉพาะเรื่องช่องว่างทางชนชั้นและความยุติธรรม ไม่ใช่แค่แก้รัฐธรรมนูญ หรือให้ทหารกลับเข้ากรมกองและเป็นกองทัพของประชาชนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ไม่อาจปฏิเสธว่าสิ่งแรกที่จะต้องเกิดขึ้นคือ การยุติปัญหาอย่างสันติวิธี ซึ่งทุกฝ่ายต้องเสียสละ อดทน อดกลั้น ที่จะไม่ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เคยพูดไว้ครั้งเป็นฝ่ายค้านว่าไม่มีเหตุผลใดๆที่รัฐบาลจะใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รวมถึงการเจรจา รัฐบาล ผู้นำ หรือผู้มีอำนาจ จะต้องเป็นฝ่ายเริ่มถอยก่อนเพื่อแสดงถึงความจริงใจ แสดงความรับผิดชอบที่จะแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี
วันนี้จึงมีคนจำนวนมากถามนายอภิสิทธิ์ว่าทำอย่างที่เคยพูดไว้หรือไม่
จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
**********************************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น