--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553

** โยน "รถถัง" ถามทาง !!! **


พักนี้มีข่าวปฏิวัติหรือรัฐประหารในสื่อต่างๆ อยู่บ่อยๆ

แถมรถถังก็ดันจำเพาะต้องมาเสีย วิ่งเพ่นพ่านหาอู่ซ่อมอยู่ตามถนนในกรุงเข้าอีก

เลยยิ่งลือกันสนุก

กลุ่มที่พูดเรื่องปฏิวัติอยู่บ่อยๆ ในเชิงดักคอก็คือชาวเสื้อแดง

สีอื่นก็บ่อยไม่แพ้กัน แต่เป็นการกล่าวถึงในแบบถวิลหา

ก็เลยมีคำถามว่า ในสถานการณ์บ้านเมืองอย่างทุกวันนี้ ใครกันหนอจะอยากให้มีการปฏิวัติ

ถามทหารว่าอยากปฏิวัติหรือไม่ เชื่อว่า 2 หนหลัง ทั้ง 23 ก.พ.2534 และ 19 ก.ย.2549 เป็นบทเรียนที่ทำให้เข็ดเขี้ยวไปตามๆ กัน

อาจจะอยาก เพราะรำคาญสภาพการเมือง แต่ก็รู้ดีว่า ยึดอำนาจไม่ยาก แต่การจัดการบ้านเมือง หลังจากนั้นก็คือนรกเราดีๆ นี่เอง

ถ้าไม่ใช่ทหาร คนที่อยากให้ปฏิวัติ น่าจะเป็นระดับ"ชนชั้นนำ"ทั้งหลาย

ชนชั้นนำมีหลายกลุ่ม แต่ที่วุ่นวายเจ้ากี้เจ้าการกับการบ้านการเมืองมีไม่กี่คน

บางทีก็เรียกกันว่า"ผู้มีบารมี"

ชนชั้นนำมักจะวางตัวเป็นคนดีที่สูงส่ง หวังดีต่อบ้านเมืองแบบสุดลิ่ม

ไม่ยุ่งการเมือง แต่เล่นการเมืองเต็มๆ ผ่าน "ตัวแทน"

เห็นเขาว่ากันว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์ ก็เป็นตัวแทนกับเขาด้วยเหมือนกัน

ไม่งั้นคงไม่ได้ดั้นเมฆเข้ามาเป็นรัฐบาล

ปัญหาก็คือ รัฐบาลประชาธิปัตย์บริหารงานไม่ได้ดั่งใจ เสื้อแดงยังเต็มบ้านเต็มเมือง คุมพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ ตั้งผบ.ตร.ก็ไม่ได้
เรื่องอื่นๆ ก็หนักไปทางล้มเหลว

ถ้าปล่อยไป อาจล่มสลายกันทั้งขบวน ก็เลยคิดแบบเก่าๆ จะใช้อำนาจเบ็ดเสร็จมาล้มกระดาน

ยิกๆ ดันหลังทหาร ชักใยสร้างบรรยากาศขวาจัดทางโทรทัศน์ ทางสื่อของรัฐ กรอกหูชาวบ้านทุกวัน เพื่อหยั่งเสียงเช็กกระแส

ดูจากอาการของสังคม ข้อเสนอ "ปฏิวัติ" คงขายไม่ออก

เกมโยนรถถังถามทาง เที่ยวนี้ก็เลยเหี่ยวๆ ไป

แต่อย่าประมาทพวก"บ้าจี้"

*****************************************************************************
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น