
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย ได้แถลงข่าวบริเวณนอกรั้วด้านหน้ารัฐสภาว่า จากกรณีที่นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล กรรมการที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า นายสมศักดิ์หรือนายบรรหาร ศิลปอาชา และพวก ถูกพิพากษาให้เว้นวรรคทางการเมืองไม่ควรที่จะออกมาเรียกร้องหรือดิ้นรนอยู่ หลังฉากพรรคการเมือง
โดยเนื้อหาในจดหมายมีใจความ 8 ข้อ สรุปว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือการทำประชามติมีค่าใช้จ่ายมหาศาล ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศยังไม่ฟื้นและมีปัญหามากมาย แต่ไม่เคยเห็นนายสมศักดิ์เขียนจดหมายเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ และการพูดคุยหรือตกลงกันของนักการเมืองโดยอ้างอิงให้สังคมสงบสุข ไม่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งสองมาตรา แต่นักการเมืองอ้างผลประโยชน์ของประชาชนบังหน้า และที่สังคมไทยแตกแยกเกิดจากนักการเมืองทั้งสิ้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้ทำให้สังคมสมานฉันท์หรือแตกแยก การที่พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าหากร่วมมือแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะตอบประชาชนได้ จะให้ตอบเพียงว่าได้ตกลงไว้กับพรรคร่วมรัฐบาลคงไม่เพียงพอนั้นถือว่าพรรคประ ชาธิปัตย์มีจุดยืน
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญหนึ่งในสองมาตรานั้นเป็นการแก้ไขการเลือกตั้งเขตเล็ก ซึ่งจะส่งผลให้ได้ส.ส.จำนวนมากขึ้น เพื่อรวมตัวกันต่อรองในการบริหารรัฐบาล แสดงให้เห็นว่าทุกครั้งของการเลือกตั้งพรรคเล็กจะพยายามรวมตัวกัน เพื่อให้ได้จำนวนต่อรองในการสัมปทานประเทศ และเขตเล็กสามารถใช้เงินซื้อเสียงได้ง่าย ส่วนเรื่องที่ว่าสถานการณ์เปลี่ยน อุดมการณ์นักการเมืองก็เปลี่ยนหรือไม่ นายสมศักดิ์และนายบรรหารน่าจะรู้เรื่องนี้ดีที่สุด หากเป็นนักการเมืองที่ต้องการให้การเมืองดีขึ้นกับการทำให้พรรคการเมืองได้ รับเลือกตั้งมากขึ้นมีความแตกต่างกัน ดังนั้นอย่านำผลประโยชน์ของชาติมาปะปนกับผลประโยชน์ของพรรคการเมือง อย่างไรก็ตามตนคิดว่านายสมศักดิ์คงไม่พูดด้วยปากใช้เท้าเช็ด และยืนยันว่าการออกมาครั้งนี้ไม่มีเบื้องหลังใดๆ
ที่มา:ข่าวสดออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น