--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

น้ำคำเสียสละไม่ลงเลือกตั้ง หรือ ต้องห้ามสมัคร ส.ส. กันแน่ !!?

ข้อเสนอ “ทางออกประเทศ” ของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ได้รับการ “ปฏิเสธ” จากทุกฝ่ายอย่างพร้อมเพียง

โดยเฉพาะใน “ฝ่ายประชาธิปไตย” ที่หันหลังให้ทันที เพราะ เป็น “ข้อเสนอ” ที่ไม่ได้มีแนวทางของ “ประชาธิปไตย” ไม่ว่าจะเป็น “รัฐบาลคนกลาง” หรือ “ชะลอการเลือกตั้ง” เพราะทั้งสองอย่างล้วนแต่เป็น “ทางบังคับ” ให้ประเทศ “เว้นวรรคประชาธิปไตย” โดยสมบูรณ์แบบ

และสุดท้าย “ข้อเสนอ” ที่มี “ไม่เป็นประชาธิปไตย” ต่างๆเหล่านี้ ก็จะทำลายตัวเอง และสูญสลายหายไปในที่สุด
แต่สิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่งที่ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ทิ้งเอาไว้ หลังการออกมาเสนอ “ทางออกประเทศ-ทางตันประชาธิปไตย” ก็คือ “คำประกาศ” ที่ระบุว่า “พร้อมจะเว้นวรรคทางการเมือง ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง หากทุกฝ่ายยอมรับข้อเสนอ” ที่ไม่เป็นประชาธิปไตยดังกล่าว !!!
เพราะ “ข้อเท็จจริง” ในอีกมุมหนึ่ง “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ถูก “ปลดออกจากราชการ” ตาม “คำสั่งกระทรวงกลาโหม” ซึ่งมีผลทำให้มีคุณสมบัติ “ต้องห้ามลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.” อยู่แล้ว
โดยพบว่า “กระทรวงกลาโหม”ได้มี “คำสั่งกระทรวงกลาโหม” ที่ 1163/2555 เรื่อง “ให้ปลดนายทหารสัญญาบัตรออกจากราชการ” รายละเอียดระบุว่าโดยที่ปรากฏข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติว่า เมื่อ 2 มิ.ย.31 ว่าที่ ร.ต.อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รรก.อจ.ส่วนการศึกษา รร.จปร. ได้ใช้เอกสารสำคัญ สด.9 แทนฉบับที่ชำรุดสูญหาย ลง 8 เม.ย.31 อันมีข้อความสาระสำคัญเป็นเท็จ (ถือเป็นเอกสารเท็จ)ไปประกอบการขึ้นทะเบียนกองประจำการ ณ จว.น.ย. จนทำให้เจ้าหน้าที่สัสดีผิดหลงออกใบสำคัญ สด.3 ลง 2 มิ.ย.31 ขึ้นทะเบียนกองประจำการ ว่าที่ ร.ต.อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หมายเลขทะเบียน ทบ.2531 ก.ท.10803 การกระทำดังกล่าวของว่าที่ ร.ต.อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นการกระทำที่ละเมิดศีลธรรม จริยธรรมและแบบธรรมเนียมทหารของนายทหารสัญญาบัตร เป็นการกระทำไม่สุจริตเพื่อประโยชน์แห่งตน เป็นการทุจริตประพฤติมิชอบในวงราชการ ผิดวินัยทหารร้ายแรง ไม่สมควรให้อยู่ในราชการต่อไป นับแต่วันกระทำผิด…
ฉะนั้นจึงให้ปลด ร.ต.อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หมายเลขประจำตัว 1313310803 (เหล่า สบ.) รรก.อจ.ส่วนการศึกษา รร.จปร.ออกจากราชการเป็นนายทหารกองหนุน



ซึ่งในเวลาต่อมา “กระทรวงกลาโหม” ก็ได้มี “คำสั่งถอดยศ” ว่าที่ ร.ต.อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตามคำสั่งกระทรวงกลาโหมที่ 1/2556 ลงวันที่ 2 ม.ค. 2556 เรื่อง “เพิกถอนคำสั่งกระทรวงกลาโหม” ระบุว่า มีหลักฐานเป็นที่ยุติว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้สมัครเข้ารับราชการในโรงเรียนนายร้อย จปร. โดยเป็นผู้ที่ขาดคุณสมบัติบรรจุเข้ารับราชการ เป็นข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร อันมีมูลเหตุจากนายอภิสิทธิ์ เป็นบุคคลที่ไม่ผ่านการรับราชการทหารกองประจำการ ไม่ผ่าน (ขาด) การตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการโดยไม่ได้รับการผ่อนผันตามกฎหมาย ไม่มีเอกสารใบสำคัญทางทหารหรือเอกสารผ่อนผัน
ดังนั้นคำสั่งให้บรรจุนายอภิสิทธิ์ เป็นข้าราชการพลเรือนชั้นสัญญาบัตร เป็นนายทหารสัญญาบัตรมียศ ว่าที่ ร.ต. เป็นคำสั่งที่ออกด้วยความผิดหลง และที่มาจากความไม่สุจริต จึงเป็นคำสั่งที่มิชอบด้วยกฎหมาย แต่เป็นคำสั่งที่ยังมีผลบังคับให้ผู้ที่เกี่ยวข้องจำต้องปฏิบัติตามต่อไป อีกทั้งสิทธิและหน้าที่ประโยชน์ที่ได้รับจากคำสั่งมิชอบด้วยกฎหมายนั้นยังคงมีอยู่ถึงปัจจุบัน และอนาคต ทำให้รัฐและราชการของกระทรวงกลาโหมเสียหาย จึงมีความจำเป็นและมีเหตุผลอันสมควรให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว ประกอบด้วย
1.คำสั่งกระทรวงกลาโหมที่ 720/30 ลงวันที่ 7 ส.ค.30 เรื่องบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ เฉพาะในรายหมายเลขหนึ่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หมายเลขประจำตัว 6302030807 คุณวุฒิ Bachelor of Arts (Philosophy , Politics, and Economics) แห่ง University of Oxford ประเทศอังกฤษ เป็นข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร ตำแหน่ง รรก. อจ.ส่วนการศึกษา รร.จปร. (ขกท.2701) (อัตรา พ.ต. ) รับเงินเดือน ระดับ น.1 ขั้น 3 (2,765 บาท)
2.คำสั่งกระทรวงกลาโหมที่ 339/31 ลงวันที่ 26 เม.ย.31เรื่องแต่งตั้งข้าราชการกลาโหม พลเรือนเป็นนายการสัญญาบัตร เฉพาะในรายหมายเลข 1 ว่าที่ร้อยตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หมายเลขประจำตัว 6302030807 รรก. อจ.ส่วนการศึกษา รร.จปร. (เหล่า สบ.)
ทั้งนี้ คำสั่งในข้อ 1 ตั้งแต่ 7 ส.ค.30 และข้อ 2 ตั้งแต่ 26 เม.ย.31



เหล่านี้คือ “ข้อเท็จจริง” อีกส่วน ที่อาจจะส่งผลให้ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ขาดคุณสมบัติและไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ได้
ซึ่งเป็นเหตุผลที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ ทางออกประเทศ หรือ วิกฤตการเมือง ใดๆ ทั้งสิ้น 

ที่มา.พระนครสาสน์
////////////////////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น