--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2554

ยิ่งลักษณ์ พร้อมสู้เพื่อกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ 4.6 ตร.กม.

นายกรัฐมนตรียัน จะไม่เป็นลูกไล่ "ฮุนเซน" ลั่นเป็นคนไทยต้องปกป้องอธิปไตย ยันใช้ข้อกฎหมายต่อสู้กรรมสิทธิ์ใน 4.6 ตารางกิโลเมตร อย่างเต็มที่...

เมื่อเวลา 11.45 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการหารือข้อพิพาทเขาพระวิหาร และพื้นที่ทับซ้อนกับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในการเยือนกัมพูชาเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า ในส่วนของเขาพระวิหาร เราจะยึดแนวทางของคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา(จีบีซี) ตามแนวของศาลโลก

ส่วนแนวของทหารนั้น ก็จะมีการเสริมตำรวจเข้าไปแทนทหาร เพื่อที่จะมีกรรมการกลางในเรื่องของคณะกรรมการทั่วไปไทย-กัมพูชา(จีบีซี) เข้ามาทำงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดความสงบในพื้นที่ทั้งสองฝ่าย ส่วนจะทำการถอนทหารเมื่อไรนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คงต้องให้หน่วยงานและจีบีซีทำงาน แต่โดยหลักการ ทางกัมพูชาเห็นชอบในเรื่องของการที่เขาจะปรับปรุงกำลังตามแนวชายแดนโดยปฏิบัติตามศาลโลก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรมีการเจรจากันอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังไปถึงแค่หลักการตรงนี้ แล้วที่เหลือ เรื่องก็อยู่ที่ศาลโลก ในส่วนของเราเอง เราต้องปฏิบัติตามคำสั่ง และในส่วนของประเทศไทยก็ต้องทำการปกป้องอธิปไตยของเราอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่า รัฐบาลคิดว่าพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรเป็นของเราหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตรงนี้เรายังพูดไม่ได้เพราะจะมีเรื่องของคณะกรรมการที่จะมีผลต่อศาลโลกในการให้ข้อมูล แต่เราเองจะทำหน้าที่ในการที่จะหารือกัน เพราะมีคณะกรรมการที่ตั้งไว้ในรัฐบาลที่แล้ว เราคงจะเดินหน้าต่อในการทำหน้าที่ และต้องมีผู้รู้ทางกฎหมายทำในเรื่องของการทำงานนี้ โดยยึดแนวการปกป้องรักษาอธิปไตยของประเทศไทย

เมื่อถามว่า แต่สมเด็จฮุนเซน บอกว่าพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรเป็นของเขา น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า การยืนยันคนละประเภทกัน เราเองต้องใช้หลักฐานที่เรามีอยู่ทั้งหมดในการต่อสู้คดี ที่ต้องทำให้เต็มที่ เมื่อถามว่า เราจะต่อสู้ในเรื่องพื้นที่ 4.6 ตร.กม.หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เราจะยืนยันในการสู้ในเรื่องตามข้อกฎหมายให้เต็มที่

ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางพลังงานทางทะเลที่กัมพูชาบอก แบะท่าว่าอยากจะนำขึ้นมาใช้ เราจะใช้หลักการเดียวกันกับการเจรจาของมาเลเซียหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เราจะยึดตามเอ็มโอยูเก่าที่จะนำมาดู ในส่วนของพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลนั้น ต้องให้ทางรมว.ต่างประเทศนำไปหารือใน ครม. ในเรื่องของการจะเปิดเจรจา และเราคงต้องตั้งหลักจากเอ็มโอยู แล้วก็ตั้งคณะกรรมการเข้าไปทำการเจรจาอย่างเปิดเผย ประเด็นนี้ย้ำว่า เราจะทำอย่างเปิดเผย และมีคณะกรรมการที่ทำทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา

ต่อข้อถามถึงปัญหาของไทยกับกัมพูชา น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ปัญหาจะมีสองเรื่อง คืออยู่ในพื้นที่แนวแบ่งที่ยังไม่ลงตัวกัน และเรื่องของการแบ่งพื้นที่ตัวผลประโยชน์ ทั้งนี้ต้องใช้รูปแบบเอาเอ็มโอยู มาดูและศึกษาต่อ เมื่อถามว่า เป็นในรูปแบบ 50 :50 หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังขออนุญาตไม่ตอบในมุมนี้ เพราะมันจะเป็นเรื่องของเงื่อนไขการเจรจา เราไม่อยากจะพูดตรงนี้ไป ขอให้มีคณะกรรมการที่ทำงานและเจรจา เราจะดำเนินการเร็วที่สุด ก็คงจะให้รมว.ต่างประเทศศึกษา และนำเรื่องเข้าครม.

เมื่อถามว่า บรรยากาศจะเอื้อขนาดไหนต่อการเจรจา นายกฯ กล่าวว่า จากที่เราได้คุยกันก็เห็นว่าบรรยากาศดีขึ้น เขาเองก็มีความตั้งใจที่อยากจะเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ เพราะในส่วนของการค้าขายหลังจากหยุดชะงัก ดังนั้นก็คงต้องแยกเป็นสองเรื่องคือ เรื่องที่มีข้อพิพาทก็ต้องว่ากันไปตามคณะกรรมการเจรจา ทั้งสองประเทศก็คงต้องทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ส่วนไทยก็ทำหน้าที่ตามกฎหมายและข้อเจรจา เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ เราเริ่มที่จะเริ่มสร้างความสัมพันธ์อันดีในเรื่องของการเปิดค้าขาย ที่เราเห็นด้วยว่าจะมีการเปิดช่องทางชายแดนแถวสระแก้ว และเราจะดูพื้นที่อื่น ก็คงต้องหาคณะทำงานด้วยกัน โดยมีการเสนอให้ รมว. มหาดไทยทั้งสองประเทศเป็นเจ้าภาพ และคุยกันในแต่ละพื้นที่ด้วย

เมื่อถามว่า เมื่อก่อนประเทศไทยมีบทบาทเข้าไปช่วยเหลือช่วงเขมรแตก แต่ทำไมวันนี้เขมรถึงมีบทบาท และมีอิทธิพลในการกำหนดทิศทางทางการเมืองของประเทศไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยิ้มก่อนย้อนถามว่า “ไหนคะ ยังไม่มี เขายังไม่กำหนดทิศทางเลยนะคะ” เมื่อถามว่า เราต้องเดินแนวทางทางการเมืองตามเขาหรือไม่ นางสาวยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ไม่ใช่หรอก วันนี้ต้องบอกว่า มันมีปัญหาสองส่วน คือเราเอง เรื่องแรกต้องทำงานในการเปิดศักราชใหม่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สอง คือ ต้องมานั่งดูปัญหาเก่าว่าเรามีปัญหาอะไรบ้าง แล้วเราถึงจะนำเข้าไปในเรื่องใหม่ เพราะวันนี้เราเองยังคุยปัญหาเก่ายังไม่ลงตัว และเราจะไปนำปัญหาใหม่อีก มันก็จะไม่จบสักที

เมื่อถามว่า ยืนยันว่าไทยเป็นตัวของตัวเอง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “แน่นอนค่ะ ดิฉันเป็นคนไทย ดิฉันต้องปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย แล้วก็รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ เรียนว่าการทำงาน เราจะทำอย่างตรงไปตรงมาและโปร่งใส ให้ประชาชนได้รับทราบอยู่แล้ว เราจะปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย และการทำงานทางการทูตอย่างถูกต้อง"

เมื่อถามว่า นายกฯ ไปกัมพูชา และวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็เดินทางไปกัมพูชา คิดว่าเป็นแง่ของความสัมพันธ์ที่มีอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ทราบอยู่แล้วว่าทุกครั้งเราเจรจาอย่างเปิดเผย ตนก็ทำไปงานในฐานะของรัฐบาล ในการเจรจาอย่างเปิดเผยอยู่แล้ว และก็ไม่มีอะไรที่จะทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองอยู่แล้ว เมื่อถามถึงการเดินทางไปกัมพูชาของ พ.ต.ท.ทักษิณ นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “ไม่ทราบค่ะ ดิฉันก็ไม่ได้ทราบค่ะ”

ที่มา.ไทยรัฐออนไลน์
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น