--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพุธที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2553

‘การเจรจา’ วิธีการสันติ ระงับข้อขัดแย้ง!

ถ้าเราเป็นรัฐบาลจะจัดการอย่างไรดี กับการชุมนุมของกลุ่มนปช.? คำถามดังขึ้นในวงสนทนาของกลุ่มคอการเมือง บางคนก็บอกว่า...สลายการชุมนุมเลย ปราบปรามเด็ดขาด บ้านเมืองต้องมีขื่อมีแป บ้างก็แย้งว่า การชุมนุมสลายไม่ได้ พลาดพลั้งบาดเจ็บล้มตายจะสูญเสีย บทเรียนมีแล้วไม่จำหรือ ต้องบังคับใช้กฎหมายแบบว่า ผิดก็ดำเนินคดีเป็นเรื่อง ๆ ไป บางรายก็แนะว่า...รัฐต้องกันคนอย่าให้เข้าไปเพิ่ม ตัดท่อน้ำเลี้ยง เดี๋ยวคนก็น้อยลงเอง เสียงแทรกก็มีขึ้นว่า...ไม่ได้จะไปกีดกันไม่ให้คนมาชุมนุมได้อย่างไรแม้แต่กลุ่มเล็กๆ ไม่กี่คนยังถกเถียงกันหาข้อสรุปไม่ได้ จนหนึ่งในผู้สนทนาต้องบ่นร้องเสียงดังว่า ยุ่งจังโว้ย! จะ

ทำยังไงดี ไม่อยากให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้จะทำอย่างไรดีกับการชุมนุมที่ดำเนินอยู่ เป็นโจทย์หนึ่งที่รัฐบาล ผู้มีหน้าที่ทุกฝ่ายต้องขบคิด หลายคน หลายกลุ่ม หลายองค์กรที่มีความเห็น ก็เสนอความเห็น เสนอแนวทาง วิธีการไว้ก็หลากหลาย รัฐบาลก็ต้องรับไปพิจารณาไตร่ตรองต่อไปอย่างเร็ว หรือแม้กระทั่งฝ่ายผู้ชุมนุมก็ต้องนำไปไตร่ตรองเช่นกัน ความจริงโจทย์นี้ อาจจะมีคำตอบได้ชัดเจนเป็นรูปธรรมดีขึ้นสำหรับทั้งรัฐบาลและผู้ชุมนุม หากเรามีกฎหมายเกี่ยวกับการ

ชุมนุมให้ชัดเจนเสียที ระบุให้ชัดว่าอะไรทำได้ ทำไม่ได้ ถ้าฝ่าฝืนจะทำอย่างไร หวังว่าเมื่อผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้ไปแล้ว รัฐบาล ฝ่ายค้าน ผู้ชุมนุมและทุกฝ่ายจะมาร่วมกันผ่านกฎหมายการชุมนุมที่ทุกคนรับได้เสียที ผู้บังคับใช้กฎหมายจะได้สบายใจ ผู้ชุมนุมก็สบายใจ ประชาชนก็สบายใจแล้วจะทำอย่างไรระหว่างนี้ ที่ดีที่สุด คือ การเจรจา การเจรจาเป็นวิธีการที่สันติ เป็นหนึ่งในวิธีการระงับข้อพิพาท ระงับข้อขัดแย้ง แต่ต้องไม่ใช่การเจรจาต่อหน้ากล้องโทรทัศน์ ต้องไม่ใช่

การเผชิญหน้า ต้องไม่ใช่มาต่อว่าใครถูกใครผิด ต้องไม่บันทึกเสียงเอาไว้ ต้องไม่เอามากล่าวอ้างภายหลัง ต้องทำให้ทุกฝ่ายสบายใจที่จะเจรจา หากสำเร็จก็ดี...ไม่สำเร็จก็จะไม่เป็นผลร้ายกับฝ่ายใด และควรมีคนกลางที่ทุกฝ่ายให้การยอมรับ เพื่อมาช่วยดึงหรือนำให้การเจรจามุ่งไปในอนาคต มุ่งหาทางออกที่ทุกฝ่ายพอรับได้ถามว่า...เจรจาไปจะมีทางสำเร็จหรือ สถานการณ์ไปไกลเกินกว่าจะเจรจาแล้วยากมาก... ตอบว่า ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ การเจรจาดังที่กล่าวมาไม่มีต้น

ทุน ไม่มีความสูญเสีย หากเราจะย้อนดูประวัติศาสตร์ย้อนดูตัวอย่างของประเทศอื่นๆ ที่เขามีความขัดแย้งกันอย่างร้าวลึก เขาใช้ความรุนแรงต่อสู้ประหัตประหารกันมาเป็นสิบๆ ปี ท้ายที่สุดก็แก้ปัญหาไม่ได้ และต้องหันมานั่งโต๊ะเจรจากันการเจรจาตามหลักการที่ว่ามา ไม่มีต้นทุน ไม่มีความสูญเสีย ไม่มีใครเสียหน้า ไม่จำกัดรอบเจรจา โอกาสสำเร็จมี... ดังนั้น การเจรจาจึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับบ้านเมืองของเราในขณะนี้ อย่าทิ้งหนทางนี้เลยครับ

รศ.ดร.กำชัย จงจักรพันธ์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น