โดย พ.ญ.ธนีศา ภานุมาตรัศมี คลินิกวัคซีน ร.พ.พญาไท 1
เมื่อพูดถึงวัคซีน คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า วัคซีนเป็นเรื่องของเด็กเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้ววัคซีนเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับคนทุกวัย ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง
โดยปัจจัยดังกล่าวคือ
1.เพศ ในเฉพาะบางวัคซีนเท่านั้น เช่น วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) แต่ในปัจจุบันทางการแพทย์แนะนำให้ผู้ชายในกลุ่มรักร่วมเพศรับวัคซีนชนิดนี้ด้วย
2.อายุ ในคนทั่วไปอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปทุกคน แนะนำให้รับวัคซีนป้องกันโรคปอดบวม เนื่องจากถ้าเกิดการติดเชื้อที่ปอดแล้ว โรคปอดบวมอันตรายถึงชีวิตได้
3.อาชีพ เพราะบางอาชีพต้องรับวัคซีนเฉพาะ เช่น สัตวแพทย์ คนที่ทำงานคลุกคลีกับสัตว์ ควรต้องรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าด้วย
4.ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่าง ๆ ง่ายกว่าปกติ เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ที่ได้รับยาเคมีบำบัด ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคตับ ผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำ กลุ่มนี้จำเป็นต้องรับวัคซีน ป้องกันโรคมากกว่าคนทั่วไป เช่น วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันโรคปอดบวม วัคซีนป้องกันโรคไอกรน เป็นต้น
"วัคซีน"... คืออะไร ?
วัคซีน คือสารที่ให้แก่ร่างกายของคนเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันโรคนั้นขึ้นมา ส่วนใหญ่เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่ถาวรตลอดชีวิต ซึ่งเมื่อฉีดวัคซีนเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อออกฤทธิ์ต่อต้านเชื้อโรคนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัส หรือเชื้อแบคทีเรีย
การให้วัคซีนเป็นหนึ่งในวิธีการสร้างเสริมสุขภาพ ที่มีความคุ้มค่ากว่าเมื่อต้องทำการรักษาหลังจากติดเชื้อหรือเป็นโรคนั้นแล้ว และต้องไม่ลืมว่าโรค
บางโรคได้สูญหายไปจากโลกนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลเนื่องจากการนำวัคซีนมาใช้ เช่น โรคฝีดาษ และโรคบางโรคกำลังใกล้จะถูกกำจัดให้หมดไปด้วยการใช้วัคซีน
ผลดีของ "วัคซีน"
เป็นวิธีป้องกันโรคที่ดีที่สุด การลงทุนด้านการฉีดวัคซีนถือว่าเป็นการลงทุนทางด้านสุขภาพที่คุ้มค่าที่สุด รองลงมาจากการลงทุนให้มีน้ำสะอาดไว้ดื่ม โรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนส่วนใหญ่เป็นโรคที่เป็นแล้วมีความรุนแรง รักษายาก เช่น โรคบาดทะยักในผู้สูงอายุ บางโรคทำให้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ และปอดบวมในผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคเรื้อรังอยู่ก่อน บางโรค
หากเป็นแล้วอาจกลายเป็นโรคเรื้อรังหรือจบลงด้วยการเป็นมะเร็ง เช่น โรคติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี, โรคติดเชื้อไวรัสเอสพีวี (HPV) เป็นต้น
ความเป็นจริงคือวัคซีนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนทุกวัย เพียงแต่ว่าแพทย์จำเป็นต้องประเมินความต้องการวัคซีนเป็นรายบุคคล ซึ่งแพทย์จะตรวจสอบข้อมูลความเสี่ยงต่อโรคและความคุ้มค่าของการใช้วัคซีนของท่านจากข้อมูลดังนี้
1.เพศ
2.อายุ
3.อาชีพ
4.สถานที่อยู่อาศัย เช่น พักหอพักในมหาวิทยาลัย, เข้าค่ายทหาร, ต้องเดินทางไปต่างประเทศ, ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในบ้านพักคนชรา
5.การมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน เช่น สุนัข, แมว, กระต่าย, กระรอก
6.ประวัติการเจ็บป่วย เช่น ไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใส, เป็นโรคอาจจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อง่ายกว่าปกติ หรือหากแพ้วัคซีนอาจมีความรุนแรง
7.ความเสี่ยง เช่น การมีความเสี่ยงต่อไวรัสตับอักเสบเอ, การมีหรือไม่มีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสตับอักเสบบี
8.ประวัติการได้รับวัคซีนก่อนหน้านี้
เมื่อพูดถึงวัคซีน คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า วัคซีนเป็นเรื่องของเด็กเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้ววัคซีนเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับคนทุกวัย ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง
โดยปัจจัยดังกล่าวคือ
1.เพศ ในเฉพาะบางวัคซีนเท่านั้น เช่น วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) แต่ในปัจจุบันทางการแพทย์แนะนำให้ผู้ชายในกลุ่มรักร่วมเพศรับวัคซีนชนิดนี้ด้วย
2.อายุ ในคนทั่วไปอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปทุกคน แนะนำให้รับวัคซีนป้องกันโรคปอดบวม เนื่องจากถ้าเกิดการติดเชื้อที่ปอดแล้ว โรคปอดบวมอันตรายถึงชีวิตได้
3.อาชีพ เพราะบางอาชีพต้องรับวัคซีนเฉพาะ เช่น สัตวแพทย์ คนที่ทำงานคลุกคลีกับสัตว์ ควรต้องรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าด้วย
4.ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่าง ๆ ง่ายกว่าปกติ เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ที่ได้รับยาเคมีบำบัด ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคตับ ผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำ กลุ่มนี้จำเป็นต้องรับวัคซีน ป้องกันโรคมากกว่าคนทั่วไป เช่น วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันโรคปอดบวม วัคซีนป้องกันโรคไอกรน เป็นต้น
"วัคซีน"... คืออะไร ?
วัคซีน คือสารที่ให้แก่ร่างกายของคนเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันโรคนั้นขึ้นมา ส่วนใหญ่เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่ถาวรตลอดชีวิต ซึ่งเมื่อฉีดวัคซีนเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อออกฤทธิ์ต่อต้านเชื้อโรคนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัส หรือเชื้อแบคทีเรีย
การให้วัคซีนเป็นหนึ่งในวิธีการสร้างเสริมสุขภาพ ที่มีความคุ้มค่ากว่าเมื่อต้องทำการรักษาหลังจากติดเชื้อหรือเป็นโรคนั้นแล้ว และต้องไม่ลืมว่าโรค
บางโรคได้สูญหายไปจากโลกนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลเนื่องจากการนำวัคซีนมาใช้ เช่น โรคฝีดาษ และโรคบางโรคกำลังใกล้จะถูกกำจัดให้หมดไปด้วยการใช้วัคซีน
ผลดีของ "วัคซีน"
เป็นวิธีป้องกันโรคที่ดีที่สุด การลงทุนด้านการฉีดวัคซีนถือว่าเป็นการลงทุนทางด้านสุขภาพที่คุ้มค่าที่สุด รองลงมาจากการลงทุนให้มีน้ำสะอาดไว้ดื่ม โรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนส่วนใหญ่เป็นโรคที่เป็นแล้วมีความรุนแรง รักษายาก เช่น โรคบาดทะยักในผู้สูงอายุ บางโรคทำให้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ และปอดบวมในผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคเรื้อรังอยู่ก่อน บางโรค
หากเป็นแล้วอาจกลายเป็นโรคเรื้อรังหรือจบลงด้วยการเป็นมะเร็ง เช่น โรคติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี, โรคติดเชื้อไวรัสเอสพีวี (HPV) เป็นต้น
ความเป็นจริงคือวัคซีนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนทุกวัย เพียงแต่ว่าแพทย์จำเป็นต้องประเมินความต้องการวัคซีนเป็นรายบุคคล ซึ่งแพทย์จะตรวจสอบข้อมูลความเสี่ยงต่อโรคและความคุ้มค่าของการใช้วัคซีนของท่านจากข้อมูลดังนี้
1.เพศ
2.อายุ
3.อาชีพ
4.สถานที่อยู่อาศัย เช่น พักหอพักในมหาวิทยาลัย, เข้าค่ายทหาร, ต้องเดินทางไปต่างประเทศ, ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในบ้านพักคนชรา
5.การมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน เช่น สุนัข, แมว, กระต่าย, กระรอก
6.ประวัติการเจ็บป่วย เช่น ไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใส, เป็นโรคอาจจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อง่ายกว่าปกติ หรือหากแพ้วัคซีนอาจมีความรุนแรง
7.ความเสี่ยง เช่น การมีความเสี่ยงต่อไวรัสตับอักเสบเอ, การมีหรือไม่มีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสตับอักเสบบี
8.ประวัติการได้รับวัคซีนก่อนหน้านี้
ที่มา.ประชาชาติธุรกิจ
---------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น