--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ใครบอกว่าประชาธิปัตย์ขึ้นมาเป็น รบ.แล้วจะแก้ปัญหาไฟใต้ เพราะเป็นพรรคคนใต้..


มติชน : ส.ส.ปชป.ลั่น”ไฟใต้”หนักหนาขึ้น ญาติเหยื่อออกมาแก้แค้นเอง คนร้ายลอบบึ้มรถทหารยะลา เจ็บ10นาย

คนร้ายลอบ”บึ้ม”รถทหารฉก.ยะลาพังยับ เจ็บ 10 นาย ป่วนปัตตานีไล่ยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ส.ส.ปชป.เผยสถานการณ์รุนแรงขึ้น จากขบวนการแก้แค้นของญาติผู้ตายเหยื่อมัสยิดอัลกรูกอน ที่นราฯและมัสยิดกรือเซะ ที่ยังไม่ได้รับคำตอบชัดเจนจากรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มคนร้ายยังคงมุ่งก่อเหตุความไม่สงบสร้างสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 8 ตุลาคม ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ร 2512 ฉก.ยะลา 15 ใช้รถยนต์กระบะ 7 คัน เดินทางกลับจากซื้อเสบียงอาหารในเขตเทศบาลนครยะลา มุ่งหน้าไปยังฐานปฎิบัติการที่บ้านสันติ 2 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา

เมื่อขบวนรถขับผ่านบริเวณกลางสะพานข้ามคลองลีเงะ บนถนนสาย 410 (กรงปินัง-บันนังสตา) หมู่ 13 เขตรอยต่อ บ.ปาลอบาตะ กับบ้านตะบิงตีงี ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา คนร้ายที่นำระเบิดมาซุกซ่อนไว้ริมสะพานได้จุดชนวนระเบิดขึ้น ทำให้รถยนต์กระบะคันที่ 4 ที่วิ่งถึงจุดเกิดเหตุได้รับความเสียหาย จากนั้นคนร้ายที่ซุ่มอยู่ใช้อาวุธปืนกราดยิงใส่ เกิดการยิงปะทะกันประมาณ 5 นาที คนร้ายจึงล่าถอยไป แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังปิดกั้นเส้นทางไว้เกรงว่าคนร้ายอาจวางระเบิดอีก

ต่อมา เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่ พบทหาร10นายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากสะเก็ดระเบิด และพบเศษชิ้นส่วนถังแก๊สสีเขียว ขนาดบรรจุ 5 กิโลกรัม เศษสายไฟ เศษถ่าน 9 โวลต์และเศษแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เชื่อว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊ส จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารหรือโทรศัพท์มือถือ

สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บประกอบด้วย พลทหาร สงกรานต์ สังข์ทอง อายุ 23 ปี ส.อ.ธีระวุฒิ ทับเที่ยง อายุ 22 ปี พลทหารเอกลักษณ์ ไกรสิทธิ์ อายุ 22 ปี พลทหารชัยณรงค์ เหมพิทักษ์ อายุ 22 ปี สิบเอก วรวิทย์ ถาวร อายุ 34 ปี พลทหารสิทธิพงษ์ จะระแอ อายุ 21 ปี ส.อ.สุรศักดิ์ โพธิ์คีรี อายุ 24 ปี ส.ต.ธรรมรงค์ ทองเปรม อายุ 22 ปี พลทหารสุรศักดิ์ ตักเตือน อายุ 20 ปี และ พลทหารธรรมรักษ์ ม้าวไทย อายุ 22 ปี
ก่อนหน้านี้ เวลา 08.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารนาวิกโยธิน ฉก.ปัตตานี 26 จำนวน 10 นาย เดินเท้ารักษาความปลอดภัยเส้นทางคณะครูโรงเรียนบ้านบือเระเดินตรวจสอบเส้นบนถนนสายชนบท หมู่ 1 ต.บือเระ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี คนร้ายกดชนวนระเบิดแสวงเครื่องด้วยรีโมทคอนโทรล แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็
ขณะที่เมื่อคืนวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านม 2 คนร้ายขับรถจักรยานยนต์ ใช้อาวุธปืนยิงนายมะดารี เจะแต อายุ 25 ปี ขณะยืนคุยโทรศัพท์หน้าบ้านที่เปิดเป็นร้านขายของชำ บ้านโคกก่อ ต.ลุโบะยีไร อ.มายอ จ.ปัตตานี กระสุนถูกลำตัว 3 นัดได้รับบาดเจ็บสาหัส ในเวลาไล่เลี่ยกันคนร้ายซุ่มยิงนายอากีม มะแอ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 บ้านปาแด ต.ท่ากำชำ ขณะขับรถจักรยานยนต์กลับจากละหมาดที่มัสยิด กระสุนถูกลำตัว 1 นัด ได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลหนองจิก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 08.40 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดจีที 200 ไม่ทำงาน ทำให้ผู้ก่อความไม่สงบสามารถก่อคาร์บอมบ์บริเวณหน้าโรงแรมเมอร์ลิน อ. สุไหงโก-ลก จ. นราธิวาส เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า กองทัพบกยังไม่ได้รายงานผลตรวจสอบเรื่องดังกล่าว แต่ให้พล.ต.อ. ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) ลงพื้นที่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พล.ท. กสิกร ศรีศรี ผู้บัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (ผบ.พตท.) ตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าหน้าที่อาจไม่มีความเชี่ยวชาญในการใช้เครื่องมือ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่คิดโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ ตรงกันข้ามรู้สึกเห็นใจเจ้าหน้าที่ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร เพราะต้องเสี่ยงชีวิต ต้องทำงานด้วยความยากลำบากมาตลอด ดังนั้น รัฐบาลจะไม่พูดจาตำหนิติติง

เมื่อถามว่า ดูเหมือนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจะท้าทายรัฐมากขึ้น โดยการก่อเหตุกลางวันแสกๆ นายสุเทพ กล่าวว่า ขณะนี้สถิติการก่อความไม่สงบในพื้นที่ รวมถึงจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตลดลงน้อยกว่ารัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แต่รูปแบบการก่อปัญหาเป็นข่าว จึงดูว่าเหตุการณ์รุนแรงขึ้น แต่รัฐบาลมุ่งทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป และในวันที่ 12 ตุลาคม นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะนำคณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ ลงไปในพื้นที่ และวันเดียวกันนี้จะลงพื้นที่เพื่อชี้แจงแนวทางในการทำประชาคมเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนในพื้นที่ด้วย
ด้านนายพีรยศ ราฮิมมูลา ส.ส.แบบสัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สถานการณ์ในพื้นที่รุนแรงขึ้นจริง มีการใช้คาร์บอมบ์ หรือกราดยิงแล้วระเบิดเพื่อหวังฆ่าหมู่ เกิดจากกลุ่มขบวนการแก้แค้นที่เลียนแบบกลุ่มการก่อการร้าย เนื่องจากเหยื่อของเหตุการณ์ที่ถูกกราดยิงที่มัสยิดอัลกรูกอน ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส และที่มัสยิดกรือเซะ จ.ปัตตานี ยังไม่ได้รับคำตอบจากรัฐบาลชัดเจน ลูกๆ และญาติพี่น้องจึงรวมกันแก้แค้นให้ผู้ตาย นอกจากนี้ ยังมีบ่อนการพนันเปิดเล่นกันเต็มเมืองตั้งแต่ จ.สงขลา จนถึง จ.นราธิวาส อีกทั้งยาเสพติดแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น

“ในวันที่ 13 ตุลาคม จะรวบรวมปัญหาทั้งหมด เข้าที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีรีบแก้ปัญหา หากยังปล่อยปละละเลยโอกาสเกิดความรุนแรงมีมากกว่านี้” นายพีรยศ กล่าว
ขณะที่ ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์ระวังสถานการณ์ภาคใต้ นักวิชาการคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่า ศูนย์เฝ้าระวังฯ สรุปจำนวนเหตุการณ์ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างปี 2547-กันยายน 2552 มีเหตุร้ายเกิดขึ้นสูงสุด 10 อำเภอ ดังนี้ 1.อ.เมืองยะลา จ.ยะลา 969 ครั้ง 2.อ.รามัน จ.ยะลา 594 ครั้ง 3.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส 574 ครั้ง 4.อ.บันนนังสตา จ.ยะลา 542 ครั้ง 5.อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส 489 ครั้ง 6.อ.ยะรัง จ.ปัตตานี 487 ครั้ง 7.อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี 415 ครั้ง 8.อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส 408 ครั้ง 9.อ.หนองจิก จ.ปัตตานี 396 ครั้ง และ 10.อ.สายบุรี จ.ปัตตานี 361 ครั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น