--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552

แฉกลโกง 8หมื่นล้าน โครงการไทยเข้มแข็ง รบ.มาร์ค ม.7

คมชัดลึก : (1ต.ค.) เวลา 10.25 น. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.ประธานสำนักงานปราบโกง พรรคเพื่อไทย แถลงถึงแผนปฏิบัติการโครง การไทยเข้มแข็งของรัฐบาล ที่พบเงื่อนงำส่อทุจริต ว่า พรรคเพื่อไทยตรวจพบความไม่ชอบมาพากล ในการใช้งบประมาณโครงการไทยเข้มแข็ง ในส่วนกระทรวงสาธารณสุข ที่มีความพยายามยกระดับสถานีอนามัยขึ้นเป็นโรงพยาบาลตำบล โดยทำการล็อคสเป็คจัดซื้อคุรุภัณฑ์ ภายใต้กรอบงบประมาณ 8 หมื่นล้านบาทเศษ สำหรับการยกระดับสถานีอนามัยดังกล่าวข้อเท็จจริงแล้ว ไม่สามารถทำให้กลายเป็นโรงพยาบาลตำบลได้ ด้วยเหตุผลของเรื่องบุคลากรทางการแพทย์ ความพร้อมด้านต่าง ๆ กระบวนการที่ส่อทุจริตเริ่มชัดเจนเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่มีการอนุมัติเงิน 8 หมื่นล้านบาทเศษ แบ่งเป็นงบก่อสร้าง 6 หมื่นกว่าล้าน มีงบอีกส่วนหนึ่งกันไว้เพื่อยกระดับสถานีอนามัยดังกล่าว

เมื่อถึงวันที่ 21 ส.ค.ได้มีหนังสือด่วนที่สุด เรื่องสำรวจความต้องการของสถานีอนามัย 2151 แห่ง งบประมาณ 1,350,000 บาท ต่อแห่ง และขอให้ส่งกลับในวันที่ 24 ส.ค. โดยงบจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นงบก่อสร้าง 5 แสนบาท และงบจัดหาคุรุภัณฑ์อีกส่วนหนึ่งที่น่าสังเกตว่ามีการกำหนดไว้เรียบร้อย 20 รายการ และต้องระบุความต้องการเฉพาะที่กำหนดไว้ ห้ามมีนอกเหนือจากนี้ และถ้าหากสถานีอนามัยส่งข้อมูลกลับไปล่าช้า ส่วนกลางจะกรอกข้อมูลให้แทน

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีการเตรียมงบประมาณไว้นานแล้ว มีการกำหนดรายละเอียดคุรุภัณฑ์ไว้ตั้งแต่เดือนเม.ย. กระบวนการที่เกิดขึ้นเหล่านี้เป็นเพียงการสร้างความชอบธรรมเท่านั้น ตัวอย่างเช่น คุรุภัณฑ์ อัลตร้าซาวน์ ที่หากไม่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางไม่สามารถใช้ได้ ไม่สามารถวินิจฉัยโรค เพราะถ้าวินิจฉัยผิดอาจถึงตายได้ สุดท้ายคุรุภัณฑ์นี้อาจเป็นเพียงอนุสาวรีย์คล้ายกับสินค้าในโครงการชุมชนพอเพียง

อย่างไรก็ตามภายหลังที่มีการทักท้วงก็มีปฏิกริยาจากนายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข มีการกำหนดคุรุภัณฑ์ในภายหลังเพิ่มมาอีก 26 รายการ รวมเป็น 46 รายการ ในเดือนก.ย. แต่ผลสุดท้ายก็ไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก เพราะเมื่อผู้ใช้งานจริงแจ้งความต้องการให้กระทรวงสาธารณสุข แต่ก็ไม่ได้รับการยอมรับ ของเดิมก็ยังใช้อยู่ ของใหม่ก็ไม่ตรงใจผู้ใช้อีก

“พฤติการณ์เหล่านี้จึงทำให้เชื่อได้ว่าอาจมีการทุจริต แม้จะยังไม่มีการจัดซื้อจัดจ้าง ฝ่ายค้านต้องออกมาท้วงติงไว้ก่อน เพราะมันทำให้เกิดผลเสียต่อประชาชนโดยตรง และบางกรณีอาจทำให้ประชาชนถึงตายได้ โครงการนี้กระบวนการหลายอย่างไม่ต่างจากโครงการชุมชุนพอเพียง และน่าสังเกตอีกอย่างว่างบฯโครงการไทยเข้มแข็งถือเป็นเงินนอกงบฯ อาจมีการยกเลิกระเบียบบางเรื่องได้ จึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ตรวจสอบได้ยาก และมีข่าวว่าบางคนในกระทรวงสาธารณสุข ได้ไปพบกับเจ้าของผู้ผลิตเครื่องมือทางการแพทย์ ถ้ามีการจัดซื้อจัดจ้าง เห็นรายชื่อบริษัทจะเชื่อมโยงได้ทันที วันนี้การทุจริตยังไม่เกิดก็ต้องดักคอไว้ก่อน” น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น