นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้เรียกประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม 2554 เพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ของประเทศไทย คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งจะเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศและนายกรัฐมนตรีหญิงที่อายุน้อยที่สุดในโลกอีกด้วย ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เปิดเผยว่า การจัดตั้งรัฐบาลจะไม่เกินวันที่ 6 สิงหาคม ซึ่งมีรายชื่ออยู่แล้วว่าจะให้ใครดำรงตำแหน่งใด กระทรวงไหน โดยยืนยันจะไม่มีคำว่า “ยี้” แน่นอน เพราะทุกคนเชื่อถือได้ ดังนั้น การจัดตั้งรัฐบาลจึงไม่ถือว่าล่าช้า แม้ที่ผ่านมาจะมีข่าวการวิ่งเต้นจากสายต่างๆ รวมถึงการออกมาแสดงความเห็นต่างๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องปรกติ โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ยืนยันว่า หลังจากได้คณะรัฐมนตรีก็จะเริ่มทำงานอย่างเต็มที่ทันที โดยช่วง 3 เดือนแรกจะพูดหรือให้สัมภาษณ์สื่อน้อยลง เพื่อมีเวลาทำงานมากขึ้น และถ้าคณะรัฐมนตรีไม่มีปัญหาก็จะสามารถผลักดันนโยบายที่หาเสียงไว้ให้ออกมาเป็นรูปธรรมก่อน เรื่องแรกคือ ปัญหาปากท้องและเศรษฐกิจของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพักหนี้ หรือค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท จะต้องทำออกมาให้ได้ แม้จะมีเสียงคัดค้านจากผู้ประกอบการหลายกลุ่ม แต่ประชาชนและแรงงานต่างมั่นใจว่ารัฐบาลทำได้ และจะไม่กระทบกับผู้ประกอบการหรือเศรษฐกิจโดยรวมอย่างที่ผู้ประกอบการออกมาคัดค้าน โดยเฉพาะกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์และเครือซิเมนต์ไทยออกมายืนยันว่าทำได้ จึงไม่น่ามีปัญหามากนัก น.ส.ยิ่งลักษณ์ยอมรับว่าไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ จึงพร้อมจะพูดคุยและขอคำแนะนำจากผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่มีความรู้ความสามารถมากมาย โดยจะเดินสายพบและพูดคุยกับนักธุรกิจรายใหญ่ๆทันทีที่เริ่มทำงาน ท่าทีดังกล่าวถือว่าเป็นจุดแข็งของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะไม่ใช่แค่มีความนิ่งและความนอบน้อมเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นคนประนีประนอม ไม่ก้าวร้าว หรือคิดว่าตัวเองเก่งคนเดียว โดยเฉพาะการเดินสายและเปิดโอกาสให้ผู้มีความรู้ความสามารถเข้ามาช่วยงานด้วยนั้น ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับการแก้ปัญหาบ้านเมืองที่มีมากมาย รวมถึงความขัดแย้งที่ยังฝังรากลึก ซึ่งหลายฝ่ายยังวิตกกังวลว่ากลุ่มเกลียดทักษิณจะพยายามสร้างเงื่อนไขออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือกรณีคนเสื้อแดงที่จะต้องเรียกร้องให้รัฐบาลเยียวยาและค้นหาความจริงเหตุการณ์ “เมษา-พฤษภำมหิต” นั้น แม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และต้องใช้เวลาก็ตาม แต่ถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ยึดหลักนิติรัฐและนิติธรรมอย่างตรงไปตรงมาและโปร่งใสจริง ก็เชื่อว่าความรุนแรงจะไม่เกิดขึ้น อย่างที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ประกาศตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัวเข้าสู่การเมืองว่าจะ “แก้ไข ไม่แก้แค้น” ถือเป็นสัญญาประชาคมสำคัญที่จะนำบ้านเมืองสู่ความปรองดองได้ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องพูดได้ ทำได้ ไม่ใช่ดีแต่พูด ที่มา.หนังสือพิมพ์โลกวันนี้ ********************************************************************** |
วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2554
พูดได้ทำได้ !!?
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น