ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บ้านจัดสรรนั้น หากจะนับเริ่มต้นอย่างเป็นทางการก็ต้องเริ่มในปี 2515 ปีที่ประกาศใช้กฎหมายควบคุมการจัดสรรที่ดิน (ปว.286) เป็นครั้งแรก ช่วงนี้เป็นระยะการพยายามบังคับใช้กฎหมายและการปรับตัวให้เข้ากับกฎหมายของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์
ปี 2525 เป็นยุคที่เริ่มนำการตลาดสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจบ้านจัดสรร เป็นการสร้างความแตกต่างระหว่างบ้านจัดสรรกับบ้านที่สร้างโดยผู้รับเหมาทั่วไป เริ่มสร้างบ้านจัดสรรที่เป็นบ้านหรูราคาแพงแสดงให้ตลาดยอมรับว่าบ้านจัดสรรไม่ใช่บ้านโหล
หลังปี 2530 เป็นต้นไป เป็นยุคบูมครั้งใหญ่ของอสังหาริมทรัพย์ทั้งประเทศ บริษัทอสังหาฯ เริ่มเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีการออกตั๋วเงินกู้กับสถาบันการเงินระหว่างประเทศ ธุรกิจอสังหาฯ เติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการเก็งกำไรที่ดินจำนวนมาก การปล่อนสินเชื่อจำนวนมหาศาล
เหตุการณ์ "ฟองสบู่แตก" ก็ระเบิดขึ้นในกลางปี 2540 ธุรกิจอสังหาฯ พังราพณาสูร รายใหญ่ที่กู้เงินต่างประเทศมีหนี้สินทั่วนับหมื่นล้าน รายกลางรายเล็กล้มระเนระนาด ต้องไปเข้าคิวรอซื้อโครงการของตนเองคืนจากกองทุนฝรั่ง เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างบทเรียนอย่างลึกซึ้งแก่อสังหาฯ ไทย กลายเป็นประเพณีความเชื่อในการระมัดระวังการกู้เงิน เน้นการเติบโตแบบมั่นคงและสมดุล
หลังปี 2550 เป็นต้นมา เริ่มเกิดการเติบโตของอสังหาฯ ภูมิภาคบริษัทอสังหาฯ กรุงเทพฯ เริ่มขยายโครงการไปต่างจังหวัดมากขึ้น พร้อมกันนั้นเกิดการบูมของตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ปริมณฑล แล้วขยายลามไปยังเมืองใหญ่ในภูมิภาคอย่างเต็มที่ในช่วงปี 2555-56 จนตลาดอิ่มตัวในหลายพื้นที่
อสังหาริมทรัพย์วันนี้เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ มีผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน
มีบริษัทอสังหาฯ ที่มียอดขายหมื่นล้านบาทต่อปีหลายบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ มีบริษัทอสังหาฯ ยอดขายพันล้านบาทในจังหวัดใหญ่ในภูมิภาค แชมป์เศรษฐีหุ้นมูลค่าสูงสุดในตลาดหลักทรัพย์ถูกครอบครองโดยนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาตลอดในระยะ 10 กว่าปีหลัง
ความก้าวหน้าของอสังหาริมทรัพย์ไทย ด้านการเงิน นอกจากการเข้าไประดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์แล้ว ยังมีการออกหุ้นกู้ออกตราสารต่างๆ การออกทุนพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ ระดมเงินทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ
การดีไซน์โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบแนวสูง ในยุคแรกเริ่มมีการนำแบบจากต่างประเทศมาดัดแปลงใช้กันมากมาย แต่ปัจจุบันอสังหาฯ ไทยได้พัฒนางานออกแบบของตัวเองก้าวหน้าไปมาก บริษัทขนาดใหญ่หลายบริษัทมีทีมพัฒนาวิจัยศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคและออกแบบตอบสนองได้อย่างเฉพาะเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย
การก่อสร้างได้ก้าวมาในระดับสร้างโรงงานหล่อชิ้นส่วนสำเร็จรูป การหล่อในไซต์งานเพื่อทดแทนแรงงานและเพื่อคุณภาพความรวดเร็วในการก่อสร้าง
ล่าสุด ผู้นำตลาดอสังหาฯ หลายรายได้หันมาให้ความสำคัญกับการให้บริการการบริหารชุมชน หลายรายทำสำเร็จไปแล้ว
40 กว่าปีมานี้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยพัฒนาก้าวหน้าไปมากในทุกๆ ด้าน สร้างและพัฒนาองค์ความรู้ด้านต่างๆ ของตนเอง
หากเทียบกับประเทศในอาเซียนด้วยกัน พูดได้ไม่อายปากว่าเราอยู่อันดับต้น
เทียบในเอเชียก็ยังอยู่ในระดับแถวหน้า
ด้านอื่นๆ ของประเทศอาจล้าหลังบ้าง
แต่ด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เราเป็นหนึ่ง
ที่มา.มติชน
////////////////////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น