--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ฟื้นฟูการบินไทย ต้องเกาให้ถูกที่คัน !!?

เหลือบเห็นข่าวผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กุมขมับกับรายงานเบิกจ่ายงบลงทุนของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ ในรอบ 9 เดือน (ตุลา 56- มิ.ย.57) ที่ยัง “อืดเป็นเรือเกลือ” เพราะมียอดเบิกจ่ายไปได้เพียง 70,000 ล้านบาทจากเป้าหมาย 3.46 แสนล้าน หรือเท่ากับ 20% ของเป้าหมายเท่านั้น

เรียกได้ว่าห่างจากเป้าหมายที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตั้งไว้เยอะ ที่ตีฆ้องร้องป่าวจะ“ล้างท่อ”งบลงทุนและเร่งรัดการเบิกจ่ายให้ได้ถึง 90-95% แต่ทำได้จริงแค่กระผีก แบบนี้ต่อให้ไขลานเร่งรัดเบิกจ่ายช่วงขวบเดือนที่เหลือจากนี้ ก็ไม่น่าจะไปถึง 50-60% ได้ ซึ่งแม้จะเฉไฉว่า เหตุที่เบิกจ่ายงบอืดเป็นเรือเกลือนั้น น่าจะเป็นเพราะวิกฤติการเมืองที่ทำให้การเบิกจ่ายงบล่าช้า แต่หลังจากคสช.เข้ามาวางกรอบลงทุน จัดซื้อจัดจ้าง จัดตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านต่าง ๆ แล้วก็น่าจะไหลรื่น...

จนถึงวินาทีนี้ผู้อำนวยการสคร. ยังไม่รู้อีกหรือว่าเหตุใดนโยบาย “ล้างท่อ”งบลงทุนที่ประธาน “ซูเปอร์บอร์ดรสก.” สั่งให้ผู้บริหารหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจต้องเร่งรัดการเบิกจ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจถึง “ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก” ไม่ขยับไปไหน? ยังคิดว่าเป็นผลพวงมาจากวิกฤติทางการเมืองอยู่อีกหรือ?
เหตุใดไม่ย้อนกลับไปดูว่าสาเหตุที่แท้จริงล้วนเป็นเพราะผลพวงมาจากประกาศต่างๆที่สร้างความสับสนให้แก่ผู้ปฏิบัติงานเอง เพราะขาหนึ่งสั่งให้เร่งรัดการเบิกจ่าย แต่อีกขาก็กลับให้ทุกหน่วยงานชะลอการจัดซื้อจัดจ้าง และต้องส่งโครงการที่มีมูลค่าเกิน 100 ล้าน 1,000 ล้านมาให้คณะกรรมการตรวจสอบการใช้งบประมาณรัฐ(คตร.)พิจารณากลั่นกรองก่อน มิหนำซ้ำยังออกประกาศสำทับว่าจะลงโทษส่วนราชการและผู้บริหารหน่วยงานรัฐขั้นเด็ดขาดหากพบว่ามีการตุกติกทุจริต จัดซื้อจัดจ้างเกิดขึ้นในโครงการใด ๆ

เจอเข้าไปหลายขนานขนาดนี้ การเบิกจ่ายงบประมาณการลงทุนของรัฐและรัฐวิสาหกิจถึงได้อยู่ในสภาพ “ควงสว่าน” อยู่กับที่หรือตกอยู่ในสภาพที่เรียกว่า Drifting Policy กันยังไง เพราะผู้บริหารรัฐวิสาหกิจเลือกยึดแนวคิดปลอดภัยไว้ก่อน ไม่ทำอะไรดีกว่า ซึ่งหากซูเปอร์บอร์ดยังแก้ไขปัญหาแบบ “ตาบอดคลำช้าง”อยู่อีก ก็เห็นทีว่า อนาคตเศรษฐกิจไทยปีนี้และปีหน้าเสี่ยงสูงแน่ๆ

เหมือนวิกฤติ “การบินไทย” เวลานี้ ที่กำลังระส่ำจากผลประกอบการที่ติดลบติดต่อกันมาหลายปี จากที่เคยได้ชื่อว่าเป็นรัฐวิสาหกิจชั้นแนวหน้า วันนี้ทำท่าจะปาดหน้าสาหัสยิ่งกว่ากิจการรถไฟไทยแล้ว โดยในปี 56 ขาดทุนกว่า 1.2 หมื่นล้าน และปี 57 นี้หากไม่เร่งฟื้นฟู ก็คาดว่าจะขาดทุนไม่น้อยกว่า 20,000 ล้าน

ล่าสุดบอร์ดการบินไทยที่มี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ.และรองหัวหน้าคสช.เป็นประธานได้อนุมัติแผนยกเครื่องการบินไทย ไล่ดะไปตั้งแต่ปลดรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่(ดีดี)ยกแผง เร่งจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการปรับเปลี่ยนเส้นทางบินใหม่ โดยย้ายสายการบินไทยสมายกลับไปให้บริการที่สนามบินดอนเมือง ปรับภาพลักษณ์ของการบินไทยให้เป็นสายการบินระดับซุปเปอร์พรีเมี่ยม และจ่อจะโละนางฟ้า พนักงานการบินไทยตามมาอีกกว่า 900 คน

และเพื่อจะให้การกอบกู้การบินไทยไปถึงเป้าหมาย นัยว่าประธานบอร์ดการบินไทยได้แบไต๋ออกมาแล้วจะให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) ร่วมเสียสละจัดทำแผนฟื้นฟูและช่วยเหลือบินไทย โดยเฉพาะการปรับลดค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ทอท.คิดกับการบินไทยว่า มีส่วนไหนจะปรับลดราคาลงได้อีก รวมทั้งมีช่องทางไหนจะเอื้อให้บินไทยพลิกฟื้นขึ้นมามีกำไรได้

เล่นเอาคนใน ทอท. “อึ้งกิมกี่” จะฟื้นฟูกิจการบินไทย ไฉนมาลงเอาที่การขอให้เพื่อนบ้านต้องไปเอื้ออาทรให้ซะงั้น ทั้งที่จะว่าไป ที่ผ่านมาทอท. ก็ประเคนให้บินไทยชนิดที่ทำเอาสายการบินอื่น ๆ ค้อนขวับๆอยู่แล้ว ไหนจะประเคนสัมปทานยกขนกระเป๋าสัมภาระ Ground Handling สัมปทานบริหารพื้นที่ฟรีโซน การได้สิทธิใช้ Contact Gate และหลุมจอด เช่าพื้นที่ตั้งสำนักงาน เคาท์เตอร์และเลาจ์เซอร์วิสในราคาพิเศษ จ่ายค่าเช่าให้ทอท.เต็มเม็ดเต็มหน่วยหรือไม่คนในทอท.ก็ยังกังขากันอยู่เลย นี่ยังจะให้ปรับลดค่าธรรมเนียมอะไรต่อมิอะไรให้อีกหรือ

เกิดทอท.เอื้ออาทรให้ไปจนเข้าเนื้อ ทำเอารายได้ประกอบการและกำรี้กำไร ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย จะงานเข้าผู้บริหารทอท.หรือไม่? เพราะนัยว่าปี 2556 ทอท. ทำ Profile กำไรไว้ซะสูงลิ่ว 16,000 ล้านบาท แจกโบนัสสูงถึง 11 เดือน ทำเอาบรรดา รสก.อื่นๆ พากันอิจฉา“งานเข้า” ถ้วนหน้า เพราะถูกค่อนแคะว่าไร้ประสิทธิภาพเป็นรายวันอยู่แล้ว

ที่สำคัญหากการฟื้นฟูวิกฤตการบินไทยต้องมาลงเอยด้วยการให้ ทอท.ต้องเข้าไปอุ้มชูกันมากซะขนาดนี้ แม้จะฟื้นฟูกิจการได้ แต่มันจะมีประโยชน์อะไรหากการบินไทยยังคงทำตัวเป็น “เด็กไม่รู้จักโต” การบินไทยจะออกไปแข่งขันกับสายการบินอื่น ๆ ได้อย่างไร หาก ยังต้องแบมือขอให้แต่คนอื่นเข้ามาช่วยเหลือ จนไม่สามารถยืนอยู่บนขาตัวเองได้แบบนี้
จริงไม่จริงท่านประธานบอร์ดการบินไทยที่เคารพ!

ที่มา.บางกอกทูเดย์
//////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น