โดย. วีรพงษ์ รามางกูร
เมื่อสัปดาห์ต้นเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นเดือนที่ผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมืองการทหารเกิดมากที่สุด ดังนั้น การจัดงานวันเกิดของผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเราจึงกระจุกตัวอยู่ในเดือนสิงหาคมเป็นส่วนใหญ่
ในเวลาเดียวกันก็มีการนำเอาคำพูดของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช นักปราชญ์คนสำคัญคนหนึ่งของประเทศไทยผู้ล่วงลับไปแล้วได้เขียนลงหนังสือพิมพ์สยามรัฐเมื่อปี 2494 ซึ่งเป็นสมัยที่จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2490 เมื่อจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งไม่ให้หนังสือพิมพ์ลงข่าวการเมืองและมีการตรวจข่าวก่อนจึงจะสามารถตีพิมพ์ได้

ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กล่าวไว้ว่า บัดนี้ ประเทศไทยมีพระอาทิตย์ 2 ดวง ดวงหนึ่งขึ้นจากทะเล และก็ตกที่ภูเขา อีกดวงหนึ่งขึ้นจากภูเขาแล้วตกในทะเล สุดแท้แต่ว่าเรายืนดูพระอาทิตย์ที่หัวหินหรือที่ศรีราชา
แม้ว่าจะเป็นข้อเขียนที่เขียนประชดประชัน จอมพล ป.พิบูลสงคราม แล้วก็เขียนมานานแล้ว ข้อความดังกล่าวก็ยังเป็นที่กล่าวขวัญถึง แม้ว่าผู้อ่านหลายคนรวมทั้งตัวเราเองด้วยไม่แน่ใจว่าท่านหมายถึงอะไร
ตามธรรมดาของปัญหาสังคม ปัญหาทางการเมือง รวมทั้งตัวผู้นำเองย่อมมี 2 ด้านเสมอ เหมือนกับพระอาทิตย์ก็ยังมีผู้คนถกเถียงกันว่าขึ้นจากทะเลตกลงที่ภูเขา หรือขึ้นจากภูเขาแล้วตกลงในทะเล ไม่มีใครตอบได้ สุดแท้แต่ว่าผู้ตอบยืนอยู่ที่ไหน อยู่ที่หัวหิน หรืออยู่ที่ศรีราชา ป่วยการที่จะหาคำตอบ
คำตอบของปัญหาเดียวกันเรื่องเดียวกันก็จะเปลี่ยนไป อาจจะแบบตรงกันข้ามก็ได้ แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป เช่น เมื่อ 3 เดือนก่อนหรือ 6 เดือนก่อน ผู้ที่อยู่ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกต่างก็เห็นว่าพระอาทิตย์ควรจะขึ้นจากภูเขา และตกลงในทะเล
หรือระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยโดยรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งดีกว่ารัฐบาลที่มาจากการแต่งตั้ง และก็ชนะไป เพราะผู้คนทางฝั่งศรีราชาหรือฝั่งชายทะเลด้านตะวันออกมีมากกว่าฝั่งตะวันตก แต่บัดนี้ ความเห็นกลับเป็นตรงกันข้าม เห็นว่าพระอาทิตย์ควรจะขึ้นจากทะเลและตกทางด้านภูเขา ไม่มีอะไรคงที่แน่นอน สุดแท้แต่ผู้ที่ให้ความเห็นยืนอยู่ที่ไหน ที่ศรีราชาหรือที่หัวหิน หรือสุดแท้แต่ลมจะพัดขึ้นบก หรือพัดลงทะเล
ในสังคมที่ยังเป็นสังคมที่การพัฒนาทางการเมืองยังก้าวไม่ทันการพัฒนาการทางเศรษฐกิจ ในระบบเศรษฐกิจเปิดที่ถูกลากจูงให้เติบโตขึ้นตามการพัฒนาของโลก แต่สำหรับระบบการเมืองและสังคมนั้นยังไม่แน่ว่าเป็นระบบที่เปิดหรือปิด แต่น่าจะอนุมานได้ว่าจะต้องเป็นระบบที่เปิดมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะอิทธิพลของการสื่อสาร รวมทั้งเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ
ในสังคมที่ผู้คนยังไม่เข้าใจ ยังมีคนจำนวนมากคิดว่าพระอาทิตย์ขึ้นจากภูเขาแล้วตกลงในทะเล และก็ยิ่งมีผู้คนอีกจำนวนมากเข้าใจว่าพระอาทิตย์ขึ้นจากทะเล แล้วก็ตกลงที่ภูเขา แล้วก็ถกเถียงไม่ยอมลดราวาศอก จนกระทั่งฝ่ายที่มีอาวุธชักอาวุธขึ้นมา การโต้เถียงจึงยุติลง
ธรรมชาติของขุนเขาที่ทอดเป็นทิวย่อมจะดูสูงใหญ่ หนักแน่นมั่นคง มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมเขียวขจี เจ้าสัวหรือจ่อซัว ผู้มีฐานะมั่นคงมั่งคั่ง จึงเปรียบเสมือนผู้นั่งพิงขุนเขา เป็นที่เคารพเกรงขาม เพราะเหตุภูเขาย่อมมั่นคงตั้งอยู่กับที่ ไม่โอนเอียงเมื่อมีพายุลมฝน มองไปที่ภูเขาไม่ว่าจะไปยืนอยู่ด้านไหน ก็ยังเห็นภูเขาเป็นภูเขาตั้งตระหง่านอยู่อย่างนั้น
ส่วนทะเลนั้นตรงกันข้าม บางเวลาสงบนิ่งจะมีคลื่นและกระแสน้ำไหลไปมา แล้วแต่กระแสของลม เอาแน่ไม่ได้ เวลาทะเลต้องลม พายุ มรสุมทะเลที่เคยสงบเงียบก็จะกลายเป็นทะเลที่มีคลื่นสูงใหญ่น่ากลัว สามารถกลืนกินเรือเล็กเรือน้อยไปในกระแสคลื่นได้อย่างง่ายดาย เมื่อพายุจะมาก็มักจะพาเอาเมฆฝนทั้งหนักและเบาจนเกิดภาวะน้ำท่วมบนบกได้
ขุนเขาและทะเลจึงมีลักษณะที่ตรงกันข้ามอยู่โดยธรรมชาติด้วยเหตุนี้ หากมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นจากทางขุนเขา ความรู้สึกนึกคิดของผู้คนก็เป็นอย่างหนึ่ง หากมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นจากทะเล ความรู้สึกนึกคิดของผู้คนก็จะเป็นอีกอย่างหนึ่ง พระอาทิตย์ค่อยๆ โผล่จากเหลี่ยมเขาจะเห็นเป็นลูกเล็ก แสงจ้าขึ้นอย่างรวดเร็ว พระอาทิตย์ที่ค่อยๆ โผล่ขึ้นจากทะเล จะเห็นเป็นลูกกลมโต สีแดงสด ไม่ร้อนจ้า ไม่เหมือนกับกรณีโผล่ขึ้นจากขุนเขา
ความที่ระดับความรู้หรือระดับความคิดยังไม่พัฒนาถึงระดับหนึ่ง หรือยังไม่ซาบซึ้งกับทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ ผู้คนก็อาจจะคิดว่าเรามีพระอาทิตย์ 2 ดวง
การปกครองยุคใหม่ของเราตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 การเมืองการปกครองก็พัฒนาตัวเองจนกลายเป็นประเพณี ว่าเป็นการปกครองโดยกองทัพ มีนายกรัฐมนตรีเป็นทหารเสียเป็นส่วนใหญ่ กองทัพกลายเป็นสถาบันที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในระบอบการปกครองของไทย รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง สภาผู้แทนราษฎร เป็นแต่เพียงการสลับฉากชั่วคราว รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวหลายครั้งมีอายุยืนยาวกว่ารัฐธรรมนูญฉบับถาวร
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป ความคิดคนก็เปลี่ยนไป แม้ว่าความรู้สึกนึกคิดของคนในเมืองของคนชั้นสูงและคนชั้นกลางจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะระบบการปกครองไม่มีผลกระทบกับตัวเขามากนักหรือไม่กระทบเลย ความรู้สึกนึกคิดยังไม่พัฒนาไปถึงระดับนามธรรม ยังติดอยู่แค่ในระดับรูปธรรมเท่านั้น ในขณะที่พื้นที่ต่างจังหวัดซึ่งบัดนี้ได้รับการพัฒนาในด้านวัตถุ เช่น ระบบคมนาคมขนส่ง ระบบสารสนเทศ ระบบอินเตอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ ระบบโทรทัศน์ วิทยุ การเคลื่อนย้ายไปมาจากพื้นที่นอกเขตเทศบาลกับพื้นที่ในเขตเทศบาลสะดวกสบายและมีราคาถูก ยิ่งต่อไปจะมีระบบรางคู่และรางมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายในการเดินทางก็ยิ่งจะถูกลง ความแตกต่างของผู้คนในภูมิภาคก็มีน้อยลง
การศึกษาก็เป็นปัจจัยอีกอันหนึ่งที่ทำให้ผู้คนมีความรู้สึกนึกคิด การใช้ตรรกะ ทำความกระตือรือร้น ความต้องการเสพข่าว ความต้องการแสวงหาความจริง รวมทั้งความต้องการรู้ต้องการฟังความเห็นต่างกันต่างมุมจะมีมากขึ้น การไหลไปตามกระแสของการปลุกกระแสด้วยการสร้างอารมณ์ด้วยข้อมูลที่ไม่จริง ไม่น่าจะดำรงอยู่ได้นาน
อย่างไรก็ตาม เดือนสิงหาคมเป็นเดือนที่มีภาพข่าวการอวยพรวันเกิดของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่มาจากกองทัพ ก็จะเป็นเครื่องชี้ได้อยู่เสมอว่าขณะนี้พระอาทิตย์อยู่ที่ไหน มีอยู่ดวงเดียว หรือบัดนี้มีอยู่ 2 ดวง หรือมีอยู่หลายดวง เท่าที่เห็นบัดนี้เริ่มมี 2 ดวงเสียแล้ว แม้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ก็น่าติดตามว่าจะไปอย่างไรต่อไป
เขียนให้สับสนสักวัน
ที่มา.มติชน
///////////////////////////////////////////////
เมื่อสัปดาห์ต้นเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นเดือนที่ผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมืองการทหารเกิดมากที่สุด ดังนั้น การจัดงานวันเกิดของผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเราจึงกระจุกตัวอยู่ในเดือนสิงหาคมเป็นส่วนใหญ่
ในเวลาเดียวกันก็มีการนำเอาคำพูดของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช นักปราชญ์คนสำคัญคนหนึ่งของประเทศไทยผู้ล่วงลับไปแล้วได้เขียนลงหนังสือพิมพ์สยามรัฐเมื่อปี 2494 ซึ่งเป็นสมัยที่จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2490 เมื่อจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งไม่ให้หนังสือพิมพ์ลงข่าวการเมืองและมีการตรวจข่าวก่อนจึงจะสามารถตีพิมพ์ได้
ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กล่าวไว้ว่า บัดนี้ ประเทศไทยมีพระอาทิตย์ 2 ดวง ดวงหนึ่งขึ้นจากทะเล และก็ตกที่ภูเขา อีกดวงหนึ่งขึ้นจากภูเขาแล้วตกในทะเล สุดแท้แต่ว่าเรายืนดูพระอาทิตย์ที่หัวหินหรือที่ศรีราชา
แม้ว่าจะเป็นข้อเขียนที่เขียนประชดประชัน จอมพล ป.พิบูลสงคราม แล้วก็เขียนมานานแล้ว ข้อความดังกล่าวก็ยังเป็นที่กล่าวขวัญถึง แม้ว่าผู้อ่านหลายคนรวมทั้งตัวเราเองด้วยไม่แน่ใจว่าท่านหมายถึงอะไร
ตามธรรมดาของปัญหาสังคม ปัญหาทางการเมือง รวมทั้งตัวผู้นำเองย่อมมี 2 ด้านเสมอ เหมือนกับพระอาทิตย์ก็ยังมีผู้คนถกเถียงกันว่าขึ้นจากทะเลตกลงที่ภูเขา หรือขึ้นจากภูเขาแล้วตกลงในทะเล ไม่มีใครตอบได้ สุดแท้แต่ว่าผู้ตอบยืนอยู่ที่ไหน อยู่ที่หัวหิน หรืออยู่ที่ศรีราชา ป่วยการที่จะหาคำตอบ
คำตอบของปัญหาเดียวกันเรื่องเดียวกันก็จะเปลี่ยนไป อาจจะแบบตรงกันข้ามก็ได้ แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป เช่น เมื่อ 3 เดือนก่อนหรือ 6 เดือนก่อน ผู้ที่อยู่ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกต่างก็เห็นว่าพระอาทิตย์ควรจะขึ้นจากภูเขา และตกลงในทะเล
หรือระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยโดยรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งดีกว่ารัฐบาลที่มาจากการแต่งตั้ง และก็ชนะไป เพราะผู้คนทางฝั่งศรีราชาหรือฝั่งชายทะเลด้านตะวันออกมีมากกว่าฝั่งตะวันตก แต่บัดนี้ ความเห็นกลับเป็นตรงกันข้าม เห็นว่าพระอาทิตย์ควรจะขึ้นจากทะเลและตกทางด้านภูเขา ไม่มีอะไรคงที่แน่นอน สุดแท้แต่ผู้ที่ให้ความเห็นยืนอยู่ที่ไหน ที่ศรีราชาหรือที่หัวหิน หรือสุดแท้แต่ลมจะพัดขึ้นบก หรือพัดลงทะเล
ในสังคมที่ยังเป็นสังคมที่การพัฒนาทางการเมืองยังก้าวไม่ทันการพัฒนาการทางเศรษฐกิจ ในระบบเศรษฐกิจเปิดที่ถูกลากจูงให้เติบโตขึ้นตามการพัฒนาของโลก แต่สำหรับระบบการเมืองและสังคมนั้นยังไม่แน่ว่าเป็นระบบที่เปิดหรือปิด แต่น่าจะอนุมานได้ว่าจะต้องเป็นระบบที่เปิดมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะอิทธิพลของการสื่อสาร รวมทั้งเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ
ในสังคมที่ผู้คนยังไม่เข้าใจ ยังมีคนจำนวนมากคิดว่าพระอาทิตย์ขึ้นจากภูเขาแล้วตกลงในทะเล และก็ยิ่งมีผู้คนอีกจำนวนมากเข้าใจว่าพระอาทิตย์ขึ้นจากทะเล แล้วก็ตกลงที่ภูเขา แล้วก็ถกเถียงไม่ยอมลดราวาศอก จนกระทั่งฝ่ายที่มีอาวุธชักอาวุธขึ้นมา การโต้เถียงจึงยุติลง
ธรรมชาติของขุนเขาที่ทอดเป็นทิวย่อมจะดูสูงใหญ่ หนักแน่นมั่นคง มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมเขียวขจี เจ้าสัวหรือจ่อซัว ผู้มีฐานะมั่นคงมั่งคั่ง จึงเปรียบเสมือนผู้นั่งพิงขุนเขา เป็นที่เคารพเกรงขาม เพราะเหตุภูเขาย่อมมั่นคงตั้งอยู่กับที่ ไม่โอนเอียงเมื่อมีพายุลมฝน มองไปที่ภูเขาไม่ว่าจะไปยืนอยู่ด้านไหน ก็ยังเห็นภูเขาเป็นภูเขาตั้งตระหง่านอยู่อย่างนั้น
ส่วนทะเลนั้นตรงกันข้าม บางเวลาสงบนิ่งจะมีคลื่นและกระแสน้ำไหลไปมา แล้วแต่กระแสของลม เอาแน่ไม่ได้ เวลาทะเลต้องลม พายุ มรสุมทะเลที่เคยสงบเงียบก็จะกลายเป็นทะเลที่มีคลื่นสูงใหญ่น่ากลัว สามารถกลืนกินเรือเล็กเรือน้อยไปในกระแสคลื่นได้อย่างง่ายดาย เมื่อพายุจะมาก็มักจะพาเอาเมฆฝนทั้งหนักและเบาจนเกิดภาวะน้ำท่วมบนบกได้
ขุนเขาและทะเลจึงมีลักษณะที่ตรงกันข้ามอยู่โดยธรรมชาติด้วยเหตุนี้ หากมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นจากทางขุนเขา ความรู้สึกนึกคิดของผู้คนก็เป็นอย่างหนึ่ง หากมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นจากทะเล ความรู้สึกนึกคิดของผู้คนก็จะเป็นอีกอย่างหนึ่ง พระอาทิตย์ค่อยๆ โผล่จากเหลี่ยมเขาจะเห็นเป็นลูกเล็ก แสงจ้าขึ้นอย่างรวดเร็ว พระอาทิตย์ที่ค่อยๆ โผล่ขึ้นจากทะเล จะเห็นเป็นลูกกลมโต สีแดงสด ไม่ร้อนจ้า ไม่เหมือนกับกรณีโผล่ขึ้นจากขุนเขา
ความที่ระดับความรู้หรือระดับความคิดยังไม่พัฒนาถึงระดับหนึ่ง หรือยังไม่ซาบซึ้งกับทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ ผู้คนก็อาจจะคิดว่าเรามีพระอาทิตย์ 2 ดวง
การปกครองยุคใหม่ของเราตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 การเมืองการปกครองก็พัฒนาตัวเองจนกลายเป็นประเพณี ว่าเป็นการปกครองโดยกองทัพ มีนายกรัฐมนตรีเป็นทหารเสียเป็นส่วนใหญ่ กองทัพกลายเป็นสถาบันที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในระบอบการปกครองของไทย รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง สภาผู้แทนราษฎร เป็นแต่เพียงการสลับฉากชั่วคราว รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวหลายครั้งมีอายุยืนยาวกว่ารัฐธรรมนูญฉบับถาวร
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป ความคิดคนก็เปลี่ยนไป แม้ว่าความรู้สึกนึกคิดของคนในเมืองของคนชั้นสูงและคนชั้นกลางจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะระบบการปกครองไม่มีผลกระทบกับตัวเขามากนักหรือไม่กระทบเลย ความรู้สึกนึกคิดยังไม่พัฒนาไปถึงระดับนามธรรม ยังติดอยู่แค่ในระดับรูปธรรมเท่านั้น ในขณะที่พื้นที่ต่างจังหวัดซึ่งบัดนี้ได้รับการพัฒนาในด้านวัตถุ เช่น ระบบคมนาคมขนส่ง ระบบสารสนเทศ ระบบอินเตอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ ระบบโทรทัศน์ วิทยุ การเคลื่อนย้ายไปมาจากพื้นที่นอกเขตเทศบาลกับพื้นที่ในเขตเทศบาลสะดวกสบายและมีราคาถูก ยิ่งต่อไปจะมีระบบรางคู่และรางมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายในการเดินทางก็ยิ่งจะถูกลง ความแตกต่างของผู้คนในภูมิภาคก็มีน้อยลง
การศึกษาก็เป็นปัจจัยอีกอันหนึ่งที่ทำให้ผู้คนมีความรู้สึกนึกคิด การใช้ตรรกะ ทำความกระตือรือร้น ความต้องการเสพข่าว ความต้องการแสวงหาความจริง รวมทั้งความต้องการรู้ต้องการฟังความเห็นต่างกันต่างมุมจะมีมากขึ้น การไหลไปตามกระแสของการปลุกกระแสด้วยการสร้างอารมณ์ด้วยข้อมูลที่ไม่จริง ไม่น่าจะดำรงอยู่ได้นาน
อย่างไรก็ตาม เดือนสิงหาคมเป็นเดือนที่มีภาพข่าวการอวยพรวันเกิดของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่มาจากกองทัพ ก็จะเป็นเครื่องชี้ได้อยู่เสมอว่าขณะนี้พระอาทิตย์อยู่ที่ไหน มีอยู่ดวงเดียว หรือบัดนี้มีอยู่ 2 ดวง หรือมีอยู่หลายดวง เท่าที่เห็นบัดนี้เริ่มมี 2 ดวงเสียแล้ว แม้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ก็น่าติดตามว่าจะไปอย่างไรต่อไป
เขียนให้สับสนสักวัน
ที่มา.มติชน
///////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น