--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2557

หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์ หน.คสช. !!?

หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามากุมอำนาจการบริหารประเทศของ คสช.

เป็นเวลากว่า 3 สัปดาห์ของการเข้ามากุมอำนาจการบริหารประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องยอมรับว่าสภาวะบ้านเมืองของประเทศไทยในยามนี้ หลายคนจะดีใจ และมีความสุขใจที่เหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองจบลงเสียได้สักที หลังจากทุกอย่างเหมือนอยู่ในสภาวะถูกแช่แข็ง

หากเราไม่ปฎิเสธความจริงที่เกิดขึ้น ต้องยอมรับว่าสถานการณ์บ้านเมืองของเราในเวลานี้ได้เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นในหลายเรื่อง ในหลายด้าน

ด้านหนึ่งที่เห็นชัดเจนๆ ในตอนนี้ คือ ความอึดอัดในความเป็นอยู่ เพราะตลอดระยะเวลากว่า 6 เดือนที่ผ่านมา ชีวิตคนไทยอย่างเราๆท่านๆ เราต้องอยู่กับความอึดอัดไปเสียทุกด้าน ไปเสียทุกเรื่อง ทุกอย่างอยู่ในภาวะอึมครึม

แต่หลังจากวันที่ 22 พฤษาคม ที่ผ่านมา ความอึดอัดความอึมต่างๆ ได้หายวับไปในทันที หลายเรื่องหลายราวที่เราต่างมีความอึดอัด หลายเรื่องที่มีความอึมครึมเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น

ล่าสุดพล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา หัวหน้าคสช. ได้ออกมาแถลงและชี้แจงในเรื่องต่างๆ ถึงการทำงานของคสช.ผ่านหน้าจอทีวีอย่างเป็นทางการ และได้ย้ำถึงจุดยืนถึงแนวทาง และกรอบระยะเวลาในการดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของคสช. ทยอยออกมาสู่สาธาณะอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดเป็นโรดแมป 3 ระยะ ที่ประกอบด้วย"สร้างความปรอง ปฎิรูประเทศ และจัดการเลือกตั้ง"

ส่วนระยะเวลาในการดำเนินการตามแผนโรดแมปที่ได้วางไว้ไม่ได้มีการกำหนดเงื่อนเวลาที่แน่นอน หรือขีดเส้นตายล็อคเอาไว้ให้ตายตัว บอกเพียงว่าการจะนำไปสู่ระยะที่ 3 ที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่ได้นั้น แผนในระยะที่ 1 และระยะ 2 จะต้องดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อย และบ้านเมืองมีความสงบและมีความสนามฉันท์ให้ได้เสียก่อน ซึ่งประเด็นเรื่องนี้คสช.ให้ความสำคัญอย่างมาก

เนื่องจากคสช.คิดว่าหากปล่อยให้เดินสู่การเลือกตั้ง โดยบ้านเมืองยังไม่มีความสงบ สุดท้ายก็จะเดินเข้าสู่วังวนเดิมเหมือนที่ผ่านมาอีก

นี่แค่ระยะเวลาได้เดินผ่านมาเพียง 20 กว่าวันยังไม่ถึง 1 เดือนดี กระแสการต่อต้านและไม่ยอมรับอำนาจการรัฐประหารก็ได้เริ่มก่อตัวขึ้นมาแล้ว ถึงแม้จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่างที่ชัดเจน สาเหตุหนึ่งคสช.ออกมาสกัดตัวแกนนำการเคลื่อนไหว ด้วยการเรียกเข้าไปรายงานตัวเพื่อทำความเข้าใน หากใครฝ่าฝืนก็ใช้มาตรการเด็ดขาดด้วยจับกุมดำเนินคดี

อย่างไรก็ตามก็ยังกลุ่มผู้ต่อต้านบางส่วนก็ยังไม่ลดละเลิก หยุดการเคลื่อนไหว แถมยังมีการนัดแนะออกมาท้าทายอย่างต่อเนื่องในช่วงวันหยุด ด้วยการใช้วิธีเล่นสงครามประสาท ท้าทายอำนาจคสช.อย่างต่ออเนื่อง

ใช้สื่อในโลกออนไลน์ในการนัดแนะ และปล่อยข่าวสร้างความสับสนให้กับฝ่ายเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมดูแล จนทำให้หัวหน้าคสช.ถึงกับอดรนทนไม่ไหว ถึงกลับเรื่องดังกล่าวแถลงผ่านหน้าจอ ถึงการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มคนต่อต้านที่แสดงสัญลักษณ์ “ชูสามนิ้ว” ขึ้นฟ้า

"ขอให้ทุกคนช่วยกันปฏิรูปประเทศขึ้นใหม่ จากการที่ประเทศไทยใกล้จะพังทลายลงทุกระบบ ขอให้ร่วมมือกับ คสช. วันนี้ต้องไม่มีพวก ไม่มีฝ่าย ส่วนการชูสามนิ้วถือว่าเป็นหลักการของต่างประเทศ ผมไม่อยากขัดแย้ง แต่ถ้าต้องการจะชูสามนิ้ว ขอให้ชูในบ้าน หากชูนอกบ้านก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดต่อประกาศของคสช."

แรงกระเพื้อมของกระแสการต่อต้านคสช.ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ดูเหมือนยังไม่มีน่าเป็นห่วง เพราะกระแสการตอบรับคสช.ที่เข้ามายังมีจำนวนมาก

ดังนั้นในช่วงเวลาหลังจากนี้ไปคสช.จำเป็นที่จะต้องเร่งมือใส่เกียร์เดินอย่างเต็มที่ ตามที่ได้ประกาศเอาไว้ให้เห็นผลโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

หากปล่อยให้เงื่อนเวลาเดินทอดออกไปนานนานเท่าไร กระแสการตอบรับคสช.อาจจะตีกลับกลายเป็นการต่อต้านได้ สาเหตุหนึ่งมาจากความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจคสช.

เรื่องดังกล่าวนี้เชื่อได้ว่าตัวหัวหน้าคณะคสช.เองก็รู้ดี เพราะได้เคยแถลงออกสาธาณะ และยืนยันอย่างหนักแน่นว่าเรื่องการหาผลประโยชน์ในคสช.จะต้องไม่เกิดขึ้น เพราะการเข้ามาครั้งนี้เพื่อต้องการเข้ามาแก้ไขปัญหา ไม่ใช่เข้ามาสร้างปัญหาเสียเอง

อย่าลืมว่าการเข้ามาของคสช.ในครั้งนี้ มีทุนที่ติดลบอยู่จำนวนหนึ่ง คือ ความไม่ยอมรับ และความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ สิ่งที่จะแก้โจทย์เหล่านี้ได้ คือ "การทำงาน" และ "ผลงาน" ตามที่ได้มีการประกาศเอาไว้

เรื่องดังกล่าวนี้ตัวพล.อ.ประยุทธ์ และคณะคสช.เองก็รู้ และเข้าใจเป็นอย่างดี ซึ่งเราจะสังเกตเห็นได้ว่าในช่วงหลังๆมานี้มาตรการ และผลงานต่างๆของคสช.ได้ทยอยประกาศออกมาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญยังซื้อใจกองหนุนได้อีกเพียบ

โดยประเด็นการตัดสินใจให้ประกาศยกเลิกการนั่งเครื่องบินฟรีของบอร์ดการบินไทยทุกคน เพราะเห็นว่าค่าใช้จ่ายดังกล่าวทำให้การบินไทยต้องแบกรับภาระเกินความจำเป็น ดังนั้นเชื่อเถอะว่าหลังจากนี้คสช.คงจะมีหมัดเด็ดออกมาเรียกเสียงเชียร์จากกองหนุนได้อีกโขแน่

การก้าวย่างหลังจากนี้ของคสช. และพล.อ.ประยุทธ์ คงจะถูกจับจ้องดูการเคลื่อนไหวอย่างไม่กระพริบตาจากบรรดากองเชียร์กองแช่ หากก้าวพลาดเจอถล่มซ้ำแน่ แต่ทำดีรับรองว่าจะได้รับเชียร์คงจะตามมาอีกตรึมเช่นกัน

ดังนั้นคำสำนวนที่พูดกันไว้ว่า "หนทางพิสูจน์ม้า การเวลาพิสูจน์คน" คงจะสามารถนำมาใช้กับท่านหัวหน้าคสช.ในช่วงเวลาตอนนี้ได้อย่างไม่เคอะเขิน..

ที่มา.กรุงเทพธุรกิจ
////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น