โดย : บุญชัย ปัณฑุรอัมพร
การช่วยเหลือผู้อื่น ก็เหมือนการช่วยเหลือตัวเอง การช่วยเหลือตัวเองก็เหมือนการช่วยเหลือผู้อื่น เข้าตำรา One for All, All for all
วันนี้ ผมขอยืมวลียอดฮิตอย่างคำว่า เอาอยู่ แตกแล้ว เสียใจ และช่วยตัวเอง ที่ชาว FaceBook พูดคุยกันในหลากหลายแง่มุมของช่วงภาวะฝ่าวิกฤตน้ำท่วมปี พ.ศ. 2554 นี้ มาประกอบบทความครับ
เอาอยู่ เหตุการณ์ในวันนี้คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องน้ำท่วมกันอีกแล้วว่า “เอาอยู่” หรือไม่ แต่ที่สำคัญคือ กำลังใจว่ายังเอาอยู่หรือไม่
ลองดูกรณีเหล่านี้นะครับ สองสามีภรรยาที่เคยทำงานในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ มีรายได้รวมกันประมาณ 4 หมื่นกว่าบาทต่อเดือน สามีเป็นหัวหน้าช่าง ภรรยาเป็นหัวหน้าคิวซี วันนี้ทั้งคู่ต้องตกงานและหนีน้ำไปอยู่ขอนแก่น ไปรับจ้างล้างรถรายวัน ได้ค่าแรงวันละ 160 บาทต่อคน รวม 2 คนก็ตกราวๆ 5 พันบาทต่อเดือน เงินที่เคยส่งลูกเรียนและส่งพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายที่ต่างจังหวัดจะเอาอยู่ได้อย่างไร
อีกกรณีหนึ่ง เป็นช่างทำผมที่อยุธยา ได้เงินเดือนรวมทิปเดือนละหมื่นเศษๆ หนีน้ำมาที่ร้านทำผมข้างๆ เซ็นทรัลปิ่นเกล้าเมื่อสัปดาห์ก่อน วันนี้น้ำตามมาที่ร้านเสริมสวยแห่งใหม่ ระดับน้ำสูงสุดที่ 1.20 เมตร ตอนนี้ร้านปิด เข้าใจว่าช่างทำผมคนเดียวกันนี้ก็ยังเอาอยู่ด้วยการหนีน้ำไปหางานทำผมที่ร้านอื่นต่อไป
ขณะที่ แม่ ลูก และหมาชิสุหนึ่งตัวพร้อมรถคู่ใจ ที่หนีน้ำออกมาได้ทันท่วงที หยิบทันแค่โทรศัพท์มือถือติดตัวมาได้เท่านั้น วันนี้เดินทางมาที่ปราจีนบุรีมาอาศัยอยู่ที่บ้านพ่อ จำต้องทิ้งบ้านหลังใหญ่ สมบัติ เอกสารสำคัญ ข้อมูลเกี่ยวกับงานทั้งหมดให้จมน้ำที่บางบัวทอง วันนี้จะเอาอยู่หรือไม่ หรือแม้แต่ภาพที่เห็นในหน้าหนังสือพิมพ์ ภาพของคนลอยคอ ลอยรถเข็น ลุยน้ำท่วมปิ้งลูกชิ้นขายเพราะลูกต้องใช้เงินทุกวัน
ความสูญเสียที่เกิดขึ้นในวันนี้คงต้องอาศัยเวลาในการเยียวยาให้ลุกขึ้นสู้ต่อไป อย่างคำคมที่เพื่อนของผม คุณบุญยงค์ ตันสกุล CEO บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด มักจะพูดเสมอว่า “เสียอะไรเสียได้ แต่อย่าเสียกำลังใจ”
แตกแล้ว เหตุการณ์ในวันนี้หลายคนบอกว่า เปรียบเหมือนเสียกรุงฯ ครั้งที่สาม มองไปในด้านลบ จะเห็นว่า โรงงานต้องปิดไปมากกว่าพันแห่งใน 7 นิคมอุตสาหกรรม ส่งผลกระทบต่อยอดผลิตสินค้าต่างๆ วัตถุดิบและสินค้าที่ผลิตเสร็จเตรียมส่งออกก็เสียหาย คลังสินค้าถูกน้ำท่วมทำลาย ที่ยังไม่เสียหายก็จัดส่งไปขายไม่ได้ เพราะบริษัทขนส่งต่างๆ ก็ปิดตัวเอง การจัดส่งสินค้าด้วยทีมรถของตัวเองก็ขัดข้อง รถจมน้ำทำให้ กระจายสินค้าไปยังภาคอื่นๆ ของประเทศไม่ได้ ยอดขายตกต่ำ ผู้คนตกงานขาดรายได้ กำลังซื้อหด โครงการหมู่บ้าน ทั้งที่ยังขายไม่หมดหรือที่ขายดาวน์ไปแล้วคงต้องหยุดชะงัก ผู้ที่กำลังผ่อนก็อาจจะหยุดผ่อน พวกผ่อนดาวน์จบแล้วก็ลังเลไม่ยอมโอน ธนาคารจะมีหนิ้เสียทั้งจากรายบุคคลและเจ้าของโครงการเพิ่มขึ้น ดอกเบี้ยก็ต้องเป็นขาลงแน่นอน เพื่อแบ่งเบาภาระทุกภาคส่วน รายได้ธนาคารจะตกต่ำ หุ้นธนาคารก็อาจจะร่วง หุ้นร่วงผู้คนก็จะจับจ่ายใช้สอยน้อยลง รายได้ที่จะกระจายต่อไปก็จะน้อยลง กลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม ก็คงถูกยกเลิกกันไป การใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวก็คงหายตามไป การลงทุนจากต่างชาติก็จะหดตัวด้วยความไม่พร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติของบ้านเรา
ภาคเกษตรที่เป็นเรื่องหลักในการส่งออกจมน้ำ ตลอดจนการส่งออกชิ้นส่วนของอุตสาหกรรมรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ไอที ก็สะดุดไม่สามารถส่งออกไปประกอบเป็นสินค้าสำเร็จรูปได้ กระทบต่อยอดจำหน่ายในตลาดโลก ส่งออกน้อยลง จากนี้ไปหลายองค์กรจำเป็นต้องกู้เพิ่ม รัฐเองก็ต้องกู้เพิ่ม จำเป็นต้องนำเข้าน้ำดื่ม อาหาร ยา และอื่นๆเพิ่มมากขึ้น ตัวเลขขาดดุลการค้าจะตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่สุดเงินบาทก็จะอ่อนค่าลง เศรษฐกิจย่ำแย่ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐอย่างบ้านหลังแรก รถคันแรก จำนำข้าว ฯลฯ ต่างก็ล้มละเนระนาดไปด้วยเช่นกัน
ในทางกลับกัน มองไปในด้านบวกด้วยการเปรียบเปรยกับหลังภูเขาไฟระเบิด ลาวาที่ปะทุพวยพุ่งทำลายทุกสิ่งทุกอย่างบนแผ่นดิน ทำลายพืชไร่นาสวน บ้านเรือน ชีวิตผู้คนและสัตว์ต่างๆนาๆ กลับกลายเป็นการสร้างชีวิตใหม่ให้งอกงามมากยิ่งขึ้น แร่ธาตุต่างๆ เกิดขึ้นจากลาวาที่สงบลงเป็นปุ๋ยธรรมชาติชั้นดีให้พืชพันธ์เจริญงอกงามยิ่งกว่า ชีวิตเกิดใหม่มากมาย ท้องฟ้าสดใส และเป็นวัฏจักรที่มาสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง
ฟ้าใหม่กำลังมา วันนี้น้ำที่นครสวรรค์ ลพบุรี อ่างทอง อยุธยา เริ่มลดและแห้งแล้วในบางพื้นที่ ผู้คนจึงเริ่มทำ Big Cleaning กัน สัปดาห์ก่อนที่น้ำถล่มกรุงเทพฯ ใครได้สังเกตราคาหุ้นที่ขึ้นติดต่อกันหรือไม่ นักลงทุนต่างชาติมองเรื่องน้ำท่วมเป็นเรื่องที่มาแล้วก็ต้องไป ดังนั้น การคาดการณ์ทางเศรษฐกิจในด้านลบที่ร่ายยาวมาแต่ต้นก็จะย้อนกลับไปในทางบวกทั้งหมดโดยเร็ว ด้วยพลังแห่งความสามัคคีที่ต้องไม่ให้แตกครับ
เสียใจ ภาวะฝ่าวิกฤตน้ำท่วมนี้ ทำให้ผมมองเรื่องการศึกษาบ้านเราที่ต้องเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วน มิเช่นนั้นเรายังจะต้องเสียใจกันแบบนี้ต่อไปทุกๆปี ความรู้พื้นฐานในเชิงภูมิศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ที่เกี่ยวกับภัยพิบัติโดยเฉพาะน้ำท่วม พวกเราไม่มีในหัวเลย วิกฤตครั้งนี้ พวกเราเพิ่งจะได้เรียนรู้เรื่องราวหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่ได้ยากเย็นอะไร เป็นเรื่องพื้นๆใกล้ตัวเราทั้งสิ้น คลองมากมายในพื้นที่ที่เราอยู่ เราไม่เคยรู้จักมาก่อน วันนี้ก็ได้รู้ มีกี่คนที่เคยได้ยินชื่อคลองสามวา ความสำคัญของแต่ละคลองเป็นอย่างไร มันทำหน้าที่อะไร น้ำไหลจากไหนไปไหน เมื่อไรจะขึ้นจะลง พื้นที่ไหนต่ำสูง ระดับน้ำทะเลเกี่ยวข้องอย่างไร เขื่อนทำงานยังไง ตลอดจนแนวทางป้องกัน นวัตกรรมต่างๆ สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ
แม้ว่าในประวัติศาสตร์ เราจะอยู่กับน้ำมาตลอด แต่เราไม่เคยเรียนรู้เลย ได้เรียนแต่ “ในน้ำมีปลาในนามีข้าว” กันตั้งแต่เล็ก มุ่งเน้นแต่เรื่องของการทำมาหากินแบบทุนนิยมกันจนเคยชิน ทุกอย่างใช้เงินจ้างหมด รู้จักแต่ว่าจะเรียกช่างน้ำ ช่างประปา ช่างไฟ ไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่า ท่อต่างๆในบ้านมันต่อมันเดินกันอย่างไร ไฟฟ้าดูด ไฟรั่วได้ยังไง ไม่มีหนังสือ ประเภท how to อย่างในต่างประเทศ
ปัญหาน้ำท่วมวันนี้ทุกคนเสียใจและยอมรับว่าเป็นปัญหาของตนเอง ชีวิตที่ต้องพลิกผันกันไป ต่างๆนาๆ หากยังไม่คิดแก้ไขมาเรียนรู้เรื่องท้องถิ่น เรื่องใกล้ตัว ศึกษากันแบบภัยพิบัตินิยมหรือน้ำท่วมนิยม (ไม่) ให้มากกว่าเรื่องของทุนนิยม พวกเราคนไทยก็คงจะต้องเสียใจและเสียหน้าไม่กล้าไปมาเลเซียอีกต่อไป
ช่วยตัวเอง การช่วยเหลือตัวเองในภาวะวิกฤตเช่นนี้เป็นเรื่องที่จำเป็นที่สุด ทำตัวไม่ให้เป็นภาระของผู้อื่น เพื่อให้ผู้ที่มีศักยภาพ ผู้ที่มีจิตอาสา ภาคเอกชนที่ก่อตั้งเป็นกลุ่มก้อน ทำงานได้ง่ายขึ้นสะดวกขึ้นเพื่อลดจำนวนผู้เดือดร้อน หันไปช่วยเหลือผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เช่น คนป่วย คนชรา ผู้พิการ และเด็กเล็ก ยังช่วยให้สิ่งของทั้งอุปโภคและบริโภคเพียงพอต่อผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้จริงๆ ในห้วงแห่งความโกลาหลนี้ เราได้เห็นผู้ที่จริงใจและไม่จริงใจกันแล้ว ใครทำทีช่วยเหลือ ใช้ตำแหน่งและอำนาจเข้ามาจัดการมากกว่าจิตที่บริสุทธิ์ ใครเอาหน้า กักตุนสินค้า สวมรอย เข้ามาทำการค้า โกงกิน ใครถือวิกฤตเป็นโอกาสที่แฝงไปด้วยแผนงานและโครงการคอรัปชั่นอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเบาะๆ ที่เห็นๆ ก็อย่างเช่น เรือที่ได้รับบริจาคจากบริษัทแอร์โรคลาสหรือในส่วนที่ขายในราคาทุนเพียงไม่กี่พันบาท วันนี้ถูกนำมาจำหน่ายโก่งราคาถึงเกือบแปดพันบาท ถุงทรายที่ถุงละไม่ถึงสิบบาทวันนี้ราคาขึ้นไปถึงเจ็ดแปดสิบบาท น้ำดื่มที่กักตุนกันไว้หรือได้รับบริจาคมาก็มีการนำมาขายในราคาเอากำไรเกินควร ทับถมความลำบากให้กับผู้คนมากยิ่งขึ้น
ในขณะที่บริษัทผู้ผลิตน้ำดื่มสะอาดรายย่อยเกือบ 7 พันบริษัทจากทั่วประเทศร่วมมือกันขายในราคาเดิม ต่างก็ไม่เห็นด้วยกับการนำเข้าน้ำดื่มจากต่างประเทศ เจ้าของกิจการที่มีจิตใจดี อย่างโรงแรมที่เกิดวิกฤต ชาวต่างชาติยกเลิกห้องพัก วันนี้หลายๆแห่งก็ยินดีลดราคาพิเศษให้กับคนไทยด้วยกันเอง บริษัทเอกชนหลายแห่งไม่เพียงแต่จัดตั้งทีมอาสาช่วยเหลือผู้คน บริจาคทั้งสิ่งของและปัจจัย สินค้าที่ขายกันอยู่ทั่วไป ต่างก็ลดราคาแบบยิ่งกว่า Clearance Sale กันมากมาย ด้วยหวังเพียงแค่บรรเทาทุกข์ บรรเทาราคาให้กับผู้คนครับ
การช่วยเหลือผู้อื่น ก็เหมือนการช่วยเหลือตัวเองเช่นเดียวกับการช่วยเหลือตัวเองก็เหมือนการช่วยเหลือผู้อื่น ที่สุดก็เข้าตำรา One for All, All for One
หลายคนคงเบื่อข่าวน้ำท่วม เบื่อคำว่า เอาอยู่ แตกแล้ว เสียใจ และช่วยตัวเอง ที่ได้ยินกันทุกชั่วโมง ลองมาดู คลิปเด็ก ๆน่ารัก ๆจากไทย พีบีเอส นี้สิครับ http://www.youtube.com/watch?v=tQDVcgYSvFE อย่างไหนดีกว่า
ที่มา.กรุงเทพธุรกิจ
///////////////////////////////////////////////////////
การช่วยเหลือผู้อื่น ก็เหมือนการช่วยเหลือตัวเอง การช่วยเหลือตัวเองก็เหมือนการช่วยเหลือผู้อื่น เข้าตำรา One for All, All for all
วันนี้ ผมขอยืมวลียอดฮิตอย่างคำว่า เอาอยู่ แตกแล้ว เสียใจ และช่วยตัวเอง ที่ชาว FaceBook พูดคุยกันในหลากหลายแง่มุมของช่วงภาวะฝ่าวิกฤตน้ำท่วมปี พ.ศ. 2554 นี้ มาประกอบบทความครับ
เอาอยู่ เหตุการณ์ในวันนี้คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องน้ำท่วมกันอีกแล้วว่า “เอาอยู่” หรือไม่ แต่ที่สำคัญคือ กำลังใจว่ายังเอาอยู่หรือไม่
ลองดูกรณีเหล่านี้นะครับ สองสามีภรรยาที่เคยทำงานในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ มีรายได้รวมกันประมาณ 4 หมื่นกว่าบาทต่อเดือน สามีเป็นหัวหน้าช่าง ภรรยาเป็นหัวหน้าคิวซี วันนี้ทั้งคู่ต้องตกงานและหนีน้ำไปอยู่ขอนแก่น ไปรับจ้างล้างรถรายวัน ได้ค่าแรงวันละ 160 บาทต่อคน รวม 2 คนก็ตกราวๆ 5 พันบาทต่อเดือน เงินที่เคยส่งลูกเรียนและส่งพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายที่ต่างจังหวัดจะเอาอยู่ได้อย่างไร
อีกกรณีหนึ่ง เป็นช่างทำผมที่อยุธยา ได้เงินเดือนรวมทิปเดือนละหมื่นเศษๆ หนีน้ำมาที่ร้านทำผมข้างๆ เซ็นทรัลปิ่นเกล้าเมื่อสัปดาห์ก่อน วันนี้น้ำตามมาที่ร้านเสริมสวยแห่งใหม่ ระดับน้ำสูงสุดที่ 1.20 เมตร ตอนนี้ร้านปิด เข้าใจว่าช่างทำผมคนเดียวกันนี้ก็ยังเอาอยู่ด้วยการหนีน้ำไปหางานทำผมที่ร้านอื่นต่อไป
ขณะที่ แม่ ลูก และหมาชิสุหนึ่งตัวพร้อมรถคู่ใจ ที่หนีน้ำออกมาได้ทันท่วงที หยิบทันแค่โทรศัพท์มือถือติดตัวมาได้เท่านั้น วันนี้เดินทางมาที่ปราจีนบุรีมาอาศัยอยู่ที่บ้านพ่อ จำต้องทิ้งบ้านหลังใหญ่ สมบัติ เอกสารสำคัญ ข้อมูลเกี่ยวกับงานทั้งหมดให้จมน้ำที่บางบัวทอง วันนี้จะเอาอยู่หรือไม่ หรือแม้แต่ภาพที่เห็นในหน้าหนังสือพิมพ์ ภาพของคนลอยคอ ลอยรถเข็น ลุยน้ำท่วมปิ้งลูกชิ้นขายเพราะลูกต้องใช้เงินทุกวัน
ความสูญเสียที่เกิดขึ้นในวันนี้คงต้องอาศัยเวลาในการเยียวยาให้ลุกขึ้นสู้ต่อไป อย่างคำคมที่เพื่อนของผม คุณบุญยงค์ ตันสกุล CEO บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด มักจะพูดเสมอว่า “เสียอะไรเสียได้ แต่อย่าเสียกำลังใจ”
แตกแล้ว เหตุการณ์ในวันนี้หลายคนบอกว่า เปรียบเหมือนเสียกรุงฯ ครั้งที่สาม มองไปในด้านลบ จะเห็นว่า โรงงานต้องปิดไปมากกว่าพันแห่งใน 7 นิคมอุตสาหกรรม ส่งผลกระทบต่อยอดผลิตสินค้าต่างๆ วัตถุดิบและสินค้าที่ผลิตเสร็จเตรียมส่งออกก็เสียหาย คลังสินค้าถูกน้ำท่วมทำลาย ที่ยังไม่เสียหายก็จัดส่งไปขายไม่ได้ เพราะบริษัทขนส่งต่างๆ ก็ปิดตัวเอง การจัดส่งสินค้าด้วยทีมรถของตัวเองก็ขัดข้อง รถจมน้ำทำให้ กระจายสินค้าไปยังภาคอื่นๆ ของประเทศไม่ได้ ยอดขายตกต่ำ ผู้คนตกงานขาดรายได้ กำลังซื้อหด โครงการหมู่บ้าน ทั้งที่ยังขายไม่หมดหรือที่ขายดาวน์ไปแล้วคงต้องหยุดชะงัก ผู้ที่กำลังผ่อนก็อาจจะหยุดผ่อน พวกผ่อนดาวน์จบแล้วก็ลังเลไม่ยอมโอน ธนาคารจะมีหนิ้เสียทั้งจากรายบุคคลและเจ้าของโครงการเพิ่มขึ้น ดอกเบี้ยก็ต้องเป็นขาลงแน่นอน เพื่อแบ่งเบาภาระทุกภาคส่วน รายได้ธนาคารจะตกต่ำ หุ้นธนาคารก็อาจจะร่วง หุ้นร่วงผู้คนก็จะจับจ่ายใช้สอยน้อยลง รายได้ที่จะกระจายต่อไปก็จะน้อยลง กลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม ก็คงถูกยกเลิกกันไป การใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวก็คงหายตามไป การลงทุนจากต่างชาติก็จะหดตัวด้วยความไม่พร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติของบ้านเรา
ภาคเกษตรที่เป็นเรื่องหลักในการส่งออกจมน้ำ ตลอดจนการส่งออกชิ้นส่วนของอุตสาหกรรมรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ไอที ก็สะดุดไม่สามารถส่งออกไปประกอบเป็นสินค้าสำเร็จรูปได้ กระทบต่อยอดจำหน่ายในตลาดโลก ส่งออกน้อยลง จากนี้ไปหลายองค์กรจำเป็นต้องกู้เพิ่ม รัฐเองก็ต้องกู้เพิ่ม จำเป็นต้องนำเข้าน้ำดื่ม อาหาร ยา และอื่นๆเพิ่มมากขึ้น ตัวเลขขาดดุลการค้าจะตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่สุดเงินบาทก็จะอ่อนค่าลง เศรษฐกิจย่ำแย่ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐอย่างบ้านหลังแรก รถคันแรก จำนำข้าว ฯลฯ ต่างก็ล้มละเนระนาดไปด้วยเช่นกัน
ในทางกลับกัน มองไปในด้านบวกด้วยการเปรียบเปรยกับหลังภูเขาไฟระเบิด ลาวาที่ปะทุพวยพุ่งทำลายทุกสิ่งทุกอย่างบนแผ่นดิน ทำลายพืชไร่นาสวน บ้านเรือน ชีวิตผู้คนและสัตว์ต่างๆนาๆ กลับกลายเป็นการสร้างชีวิตใหม่ให้งอกงามมากยิ่งขึ้น แร่ธาตุต่างๆ เกิดขึ้นจากลาวาที่สงบลงเป็นปุ๋ยธรรมชาติชั้นดีให้พืชพันธ์เจริญงอกงามยิ่งกว่า ชีวิตเกิดใหม่มากมาย ท้องฟ้าสดใส และเป็นวัฏจักรที่มาสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง
ฟ้าใหม่กำลังมา วันนี้น้ำที่นครสวรรค์ ลพบุรี อ่างทอง อยุธยา เริ่มลดและแห้งแล้วในบางพื้นที่ ผู้คนจึงเริ่มทำ Big Cleaning กัน สัปดาห์ก่อนที่น้ำถล่มกรุงเทพฯ ใครได้สังเกตราคาหุ้นที่ขึ้นติดต่อกันหรือไม่ นักลงทุนต่างชาติมองเรื่องน้ำท่วมเป็นเรื่องที่มาแล้วก็ต้องไป ดังนั้น การคาดการณ์ทางเศรษฐกิจในด้านลบที่ร่ายยาวมาแต่ต้นก็จะย้อนกลับไปในทางบวกทั้งหมดโดยเร็ว ด้วยพลังแห่งความสามัคคีที่ต้องไม่ให้แตกครับ
เสียใจ ภาวะฝ่าวิกฤตน้ำท่วมนี้ ทำให้ผมมองเรื่องการศึกษาบ้านเราที่ต้องเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วน มิเช่นนั้นเรายังจะต้องเสียใจกันแบบนี้ต่อไปทุกๆปี ความรู้พื้นฐานในเชิงภูมิศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ที่เกี่ยวกับภัยพิบัติโดยเฉพาะน้ำท่วม พวกเราไม่มีในหัวเลย วิกฤตครั้งนี้ พวกเราเพิ่งจะได้เรียนรู้เรื่องราวหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่ได้ยากเย็นอะไร เป็นเรื่องพื้นๆใกล้ตัวเราทั้งสิ้น คลองมากมายในพื้นที่ที่เราอยู่ เราไม่เคยรู้จักมาก่อน วันนี้ก็ได้รู้ มีกี่คนที่เคยได้ยินชื่อคลองสามวา ความสำคัญของแต่ละคลองเป็นอย่างไร มันทำหน้าที่อะไร น้ำไหลจากไหนไปไหน เมื่อไรจะขึ้นจะลง พื้นที่ไหนต่ำสูง ระดับน้ำทะเลเกี่ยวข้องอย่างไร เขื่อนทำงานยังไง ตลอดจนแนวทางป้องกัน นวัตกรรมต่างๆ สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ
แม้ว่าในประวัติศาสตร์ เราจะอยู่กับน้ำมาตลอด แต่เราไม่เคยเรียนรู้เลย ได้เรียนแต่ “ในน้ำมีปลาในนามีข้าว” กันตั้งแต่เล็ก มุ่งเน้นแต่เรื่องของการทำมาหากินแบบทุนนิยมกันจนเคยชิน ทุกอย่างใช้เงินจ้างหมด รู้จักแต่ว่าจะเรียกช่างน้ำ ช่างประปา ช่างไฟ ไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่า ท่อต่างๆในบ้านมันต่อมันเดินกันอย่างไร ไฟฟ้าดูด ไฟรั่วได้ยังไง ไม่มีหนังสือ ประเภท how to อย่างในต่างประเทศ
ปัญหาน้ำท่วมวันนี้ทุกคนเสียใจและยอมรับว่าเป็นปัญหาของตนเอง ชีวิตที่ต้องพลิกผันกันไป ต่างๆนาๆ หากยังไม่คิดแก้ไขมาเรียนรู้เรื่องท้องถิ่น เรื่องใกล้ตัว ศึกษากันแบบภัยพิบัตินิยมหรือน้ำท่วมนิยม (ไม่) ให้มากกว่าเรื่องของทุนนิยม พวกเราคนไทยก็คงจะต้องเสียใจและเสียหน้าไม่กล้าไปมาเลเซียอีกต่อไป
ช่วยตัวเอง การช่วยเหลือตัวเองในภาวะวิกฤตเช่นนี้เป็นเรื่องที่จำเป็นที่สุด ทำตัวไม่ให้เป็นภาระของผู้อื่น เพื่อให้ผู้ที่มีศักยภาพ ผู้ที่มีจิตอาสา ภาคเอกชนที่ก่อตั้งเป็นกลุ่มก้อน ทำงานได้ง่ายขึ้นสะดวกขึ้นเพื่อลดจำนวนผู้เดือดร้อน หันไปช่วยเหลือผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เช่น คนป่วย คนชรา ผู้พิการ และเด็กเล็ก ยังช่วยให้สิ่งของทั้งอุปโภคและบริโภคเพียงพอต่อผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้จริงๆ ในห้วงแห่งความโกลาหลนี้ เราได้เห็นผู้ที่จริงใจและไม่จริงใจกันแล้ว ใครทำทีช่วยเหลือ ใช้ตำแหน่งและอำนาจเข้ามาจัดการมากกว่าจิตที่บริสุทธิ์ ใครเอาหน้า กักตุนสินค้า สวมรอย เข้ามาทำการค้า โกงกิน ใครถือวิกฤตเป็นโอกาสที่แฝงไปด้วยแผนงานและโครงการคอรัปชั่นอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเบาะๆ ที่เห็นๆ ก็อย่างเช่น เรือที่ได้รับบริจาคจากบริษัทแอร์โรคลาสหรือในส่วนที่ขายในราคาทุนเพียงไม่กี่พันบาท วันนี้ถูกนำมาจำหน่ายโก่งราคาถึงเกือบแปดพันบาท ถุงทรายที่ถุงละไม่ถึงสิบบาทวันนี้ราคาขึ้นไปถึงเจ็ดแปดสิบบาท น้ำดื่มที่กักตุนกันไว้หรือได้รับบริจาคมาก็มีการนำมาขายในราคาเอากำไรเกินควร ทับถมความลำบากให้กับผู้คนมากยิ่งขึ้น
ในขณะที่บริษัทผู้ผลิตน้ำดื่มสะอาดรายย่อยเกือบ 7 พันบริษัทจากทั่วประเทศร่วมมือกันขายในราคาเดิม ต่างก็ไม่เห็นด้วยกับการนำเข้าน้ำดื่มจากต่างประเทศ เจ้าของกิจการที่มีจิตใจดี อย่างโรงแรมที่เกิดวิกฤต ชาวต่างชาติยกเลิกห้องพัก วันนี้หลายๆแห่งก็ยินดีลดราคาพิเศษให้กับคนไทยด้วยกันเอง บริษัทเอกชนหลายแห่งไม่เพียงแต่จัดตั้งทีมอาสาช่วยเหลือผู้คน บริจาคทั้งสิ่งของและปัจจัย สินค้าที่ขายกันอยู่ทั่วไป ต่างก็ลดราคาแบบยิ่งกว่า Clearance Sale กันมากมาย ด้วยหวังเพียงแค่บรรเทาทุกข์ บรรเทาราคาให้กับผู้คนครับ
การช่วยเหลือผู้อื่น ก็เหมือนการช่วยเหลือตัวเองเช่นเดียวกับการช่วยเหลือตัวเองก็เหมือนการช่วยเหลือผู้อื่น ที่สุดก็เข้าตำรา One for All, All for One
หลายคนคงเบื่อข่าวน้ำท่วม เบื่อคำว่า เอาอยู่ แตกแล้ว เสียใจ และช่วยตัวเอง ที่ได้ยินกันทุกชั่วโมง ลองมาดู คลิปเด็ก ๆน่ารัก ๆจากไทย พีบีเอส นี้สิครับ http://www.youtube.com/watch?v=tQDVcgYSvFE อย่างไหนดีกว่า
ที่มา.กรุงเทพธุรกิจ
///////////////////////////////////////////////////////