คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน: พระพยอม กัลยาโณ
ฉบับที่แล้วอาตมาทิ้งท้ายว่า มีอธิบดีกรมที่ดินคนไหนบ้างที่เคยจ่ายเงินให้กับพระพยอม หรือวัดสวนแก้ว ถ้ามีจริงอาตมาจะให้ 1 ล้านบาทเลย แต่ถ้าไม่มีคนที่กล่าวหา อาตมาขอสัก 10,000 บาทได้ไหม จะเอาไปช่วยผู้สูงอายุ
วันนี้มาต่อกัน มีการกล่าวหาเรื่องการซื้อที่ดินปรปักษ์ โดยมีสีกามาซื้อเหมือนกับสมรู้ร่วมคิดวางแผนกันทำตามคำสั่งพระพยอม ให้สีกาขายที่ดินให้วัด ต่อมาทายาทของเจ้าของที่ดินเก่ามาร้องศาลจึงเพิกถอนการจัดการ เท่านั้นแหละพระพยอมก็ออกมากล่าวหากรมที่ดินท่าโน้นท่านี้ต่างๆนานาว่าจะเอาเงินคืน จะเก็บภาษีอะไรต่างๆ ขอภาษีคืน ออกทีวี. แล้วทิ้งท้ายว่าออกทีวี.ในรายการของคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดูจะรู้ข้อเท็จจริงหมดแล้ว
พอมาถึงคุณพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า อธิบดีกรมที่ดินคนปัจจุบัน ก็ว่าจะหาเงินไปซื้อที่ดินให้ ช่างไม่ละอายกันเสียเลย นี่แหละที่เรียกว่าข้าราชการบางคนไม่ยินดีกับการที่จะทำให้วัดได้คืน กลับกลายเป็นตรงกันข้าม กลับยินร้าย อิจฉาริษยา พวกนี้ต้องเรียกว่า “พวกต่อมมุทิตาเสื่อม” คนเราธรรมดาแล้วถ้าศาสนาจะได้อะไรที่เสียไปคืน มีคนจะมาช่วยให้ได้มาอย่างนั้นอย่างนี้ ก็มีแต่จะพลอยยินดีด้วย
เป็นอันว่าอย่างนี้ก็แล้วกันญาติโยม ความหวังของวัดสวนแก้วคงล่มสลาย วัดตั้งใจที่จะออกมารับมุขของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าจะมาคืนดี มาประสานสมานฉันท์ คืนความสุขกันตามนโยบายของ คสช. จะได้เกิดอวสานโฉนดฉาวที่ขัดข้องหมองใจกันมา ทั้งๆที่ท่านอธิบดีพีระศักดิ์อาจมีเจตนาดี แต่ว่าพวกอำนาจเก่าแอนตี้ อาตมากลัวว่าท่านอธิบดีพีระศักดิ์จะถอดใจเสียก่อน หรือไม่อย่างนั้นก็ถูกพวกนี้ลงขันเล่นงานเอา
ตอนแรกอาตมาแพ้ใจอธิบดีท่านเพราะเห็นท่านมีภาพการ์ตูนล้อว่าเป็นข้าราชการที่ดีที่สุดคนหนึ่งที่มีความตั้งใจจะเยียวยา เป็นอธิบดีที่ถือทั้งรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ บางคนเอาแต่นิติศาสตร์ เอาแต่ข้อความอย่างเดียว คือผู้รับโอนไม่มีสิทธิเหนือผู้โอน ผู้โอนย่อมมีสิทธิเหนือผู้รับโอน ดังนั้น ไม่ต้องมีอะไรกันแล้ว จบ ไม่ต้องมีคำว่าจ่ายค่าทดแทน ถูกต้อง โปร่งใส ซื้อโดยเปิดเผย คือมีมุมกฎหมายอยู่ 2 มุมคือ 1.มุมผู้ให้โอนย่อมมีสิทธิเหนือว่ากว่าผู้รับโอน 2.ถ้าผู้ซื้อจ่ายโดยโปร่งใส ถูกต้อง อันนี้อาจจะได้เยียวยากันบ้าง แต่เขาไม่เอามุมนี้ ไปเอามุมกฎหมาย
เพราะฉะนั้นบ้านเมืองเราถึงบอกว่า “นิติศาสตร์กับรัฐศาสตร์” ไม่สอดคล้องกัน ก็เลยแยกทางกันเดิน เพราะอย่างนี้จึงมีความแตกแยก มาตรฐานกฎหมายไม่ค่อยได้รับความเคารพนับถือกันเท่าไร ยังไงข้าราชการก็รักษาตัวให้ดี อย่าให้เกลือเป็นหนอน อย่าให้เหมือนกับกรมคุกถูกย้าย ถูกไล่ ยังไงก็ขอให้กรมที่ดินกลับเนื้อกลับตัวกัน อย่าให้ถูกย้าย ถูกไล่ เหมือนกรมอื่นก็แล้วกัน
อาตมาขอให้ท่านที่คิดว่าไม่อยากร่วมกุศลทอดผ้าป่า เพราะโทษว่าอาตมาไปปลุกผีเก่าตายไปนานแล้ว แล้วผีใหม่ที่โผล่มาหน้าสลอน เช่น ผีโฉนดบุญชู ผีโฉนดสิรินาถที่จังหวัดภูเก็ต ผีปากช่อง ตัวใหญ่ๆโผล่มาใหม่ๆน่ากลัวกว่าผีเก่าอีก ทำไมไม่กลัวกัน ถามหน่อยว่าระหว่างเอี่ยวทอดผ้าป่าซื้อที่ดินคืนให้วัด กับไปเอี่ยวทำโฉนดให้นายทุน ข้าราชการผู้ใหญ่ที่ไปยึดครองที่ดิน อันไหนมันน่าละอายกว่ากัน
อาตมาเดี๋ยวนี้สบายใจแล้ว เพราะได้แนวร่วม ได้ผู้ที่มีชะตากรรมร่วมกัน ถูกถอนสิทธิแพงกว่าอาตมาอีก ของอาตมาเล็กน้อย ก็ขอฝากถึงท่านอธิบดี ถ้าท่านโดนลูกน้องแอนตี้มาก ท่านโดดเข้ามาช่วยวัดแล้วเปลืองตัว ท่านถอนตัวออกไปได้ เพราะไม่มีความผิดอะไร ที่ท่านทำก็เพราะท่านตั้งใจดี เจตนาดี แต่พวกแอนตี้ไม่ยินดีด้วยก็แล้วไป
เจริญพร
///////////////////////////////
ผู้เขียน: พระพยอม กัลยาโณ
ฉบับที่แล้วอาตมาทิ้งท้ายว่า มีอธิบดีกรมที่ดินคนไหนบ้างที่เคยจ่ายเงินให้กับพระพยอม หรือวัดสวนแก้ว ถ้ามีจริงอาตมาจะให้ 1 ล้านบาทเลย แต่ถ้าไม่มีคนที่กล่าวหา อาตมาขอสัก 10,000 บาทได้ไหม จะเอาไปช่วยผู้สูงอายุ
วันนี้มาต่อกัน มีการกล่าวหาเรื่องการซื้อที่ดินปรปักษ์ โดยมีสีกามาซื้อเหมือนกับสมรู้ร่วมคิดวางแผนกันทำตามคำสั่งพระพยอม ให้สีกาขายที่ดินให้วัด ต่อมาทายาทของเจ้าของที่ดินเก่ามาร้องศาลจึงเพิกถอนการจัดการ เท่านั้นแหละพระพยอมก็ออกมากล่าวหากรมที่ดินท่าโน้นท่านี้ต่างๆนานาว่าจะเอาเงินคืน จะเก็บภาษีอะไรต่างๆ ขอภาษีคืน ออกทีวี. แล้วทิ้งท้ายว่าออกทีวี.ในรายการของคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดูจะรู้ข้อเท็จจริงหมดแล้ว
พอมาถึงคุณพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า อธิบดีกรมที่ดินคนปัจจุบัน ก็ว่าจะหาเงินไปซื้อที่ดินให้ ช่างไม่ละอายกันเสียเลย นี่แหละที่เรียกว่าข้าราชการบางคนไม่ยินดีกับการที่จะทำให้วัดได้คืน กลับกลายเป็นตรงกันข้าม กลับยินร้าย อิจฉาริษยา พวกนี้ต้องเรียกว่า “พวกต่อมมุทิตาเสื่อม” คนเราธรรมดาแล้วถ้าศาสนาจะได้อะไรที่เสียไปคืน มีคนจะมาช่วยให้ได้มาอย่างนั้นอย่างนี้ ก็มีแต่จะพลอยยินดีด้วย
เป็นอันว่าอย่างนี้ก็แล้วกันญาติโยม ความหวังของวัดสวนแก้วคงล่มสลาย วัดตั้งใจที่จะออกมารับมุขของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าจะมาคืนดี มาประสานสมานฉันท์ คืนความสุขกันตามนโยบายของ คสช. จะได้เกิดอวสานโฉนดฉาวที่ขัดข้องหมองใจกันมา ทั้งๆที่ท่านอธิบดีพีระศักดิ์อาจมีเจตนาดี แต่ว่าพวกอำนาจเก่าแอนตี้ อาตมากลัวว่าท่านอธิบดีพีระศักดิ์จะถอดใจเสียก่อน หรือไม่อย่างนั้นก็ถูกพวกนี้ลงขันเล่นงานเอา
ตอนแรกอาตมาแพ้ใจอธิบดีท่านเพราะเห็นท่านมีภาพการ์ตูนล้อว่าเป็นข้าราชการที่ดีที่สุดคนหนึ่งที่มีความตั้งใจจะเยียวยา เป็นอธิบดีที่ถือทั้งรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ บางคนเอาแต่นิติศาสตร์ เอาแต่ข้อความอย่างเดียว คือผู้รับโอนไม่มีสิทธิเหนือผู้โอน ผู้โอนย่อมมีสิทธิเหนือผู้รับโอน ดังนั้น ไม่ต้องมีอะไรกันแล้ว จบ ไม่ต้องมีคำว่าจ่ายค่าทดแทน ถูกต้อง โปร่งใส ซื้อโดยเปิดเผย คือมีมุมกฎหมายอยู่ 2 มุมคือ 1.มุมผู้ให้โอนย่อมมีสิทธิเหนือว่ากว่าผู้รับโอน 2.ถ้าผู้ซื้อจ่ายโดยโปร่งใส ถูกต้อง อันนี้อาจจะได้เยียวยากันบ้าง แต่เขาไม่เอามุมนี้ ไปเอามุมกฎหมาย
เพราะฉะนั้นบ้านเมืองเราถึงบอกว่า “นิติศาสตร์กับรัฐศาสตร์” ไม่สอดคล้องกัน ก็เลยแยกทางกันเดิน เพราะอย่างนี้จึงมีความแตกแยก มาตรฐานกฎหมายไม่ค่อยได้รับความเคารพนับถือกันเท่าไร ยังไงข้าราชการก็รักษาตัวให้ดี อย่าให้เกลือเป็นหนอน อย่าให้เหมือนกับกรมคุกถูกย้าย ถูกไล่ ยังไงก็ขอให้กรมที่ดินกลับเนื้อกลับตัวกัน อย่าให้ถูกย้าย ถูกไล่ เหมือนกรมอื่นก็แล้วกัน
อาตมาขอให้ท่านที่คิดว่าไม่อยากร่วมกุศลทอดผ้าป่า เพราะโทษว่าอาตมาไปปลุกผีเก่าตายไปนานแล้ว แล้วผีใหม่ที่โผล่มาหน้าสลอน เช่น ผีโฉนดบุญชู ผีโฉนดสิรินาถที่จังหวัดภูเก็ต ผีปากช่อง ตัวใหญ่ๆโผล่มาใหม่ๆน่ากลัวกว่าผีเก่าอีก ทำไมไม่กลัวกัน ถามหน่อยว่าระหว่างเอี่ยวทอดผ้าป่าซื้อที่ดินคืนให้วัด กับไปเอี่ยวทำโฉนดให้นายทุน ข้าราชการผู้ใหญ่ที่ไปยึดครองที่ดิน อันไหนมันน่าละอายกว่ากัน
อาตมาเดี๋ยวนี้สบายใจแล้ว เพราะได้แนวร่วม ได้ผู้ที่มีชะตากรรมร่วมกัน ถูกถอนสิทธิแพงกว่าอาตมาอีก ของอาตมาเล็กน้อย ก็ขอฝากถึงท่านอธิบดี ถ้าท่านโดนลูกน้องแอนตี้มาก ท่านโดดเข้ามาช่วยวัดแล้วเปลืองตัว ท่านถอนตัวออกไปได้ เพราะไม่มีความผิดอะไร ที่ท่านทำก็เพราะท่านตั้งใจดี เจตนาดี แต่พวกแอนตี้ไม่ยินดีด้วยก็แล้วไป
เจริญพร
///////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น