--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

พญาไม้ สอนมารยาทการฑูต "กษิต"

โดย พญาไม้
ที่มา เวบไซต์ บางกอกทูเดย์
22 กรกฎาคม 2552

ในมารยาททางการทูตนั้น ..การยื่นคำขาด ถือว่าเป็นเรื่องต้องห้าม นอกจากเสียว่า ..ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ปรารถนาจะทำสงครามกับอีกฝ่ายหนึ่งการเดินเทิ่งๆ เข้าไป

เพื่อขอให้ประเทศใดประเทศหนึ่ง กระทำการในสิ่งที่ประเทศหนึ่งต้องการมารยาททางการทูตนั้นเขาก็ไม่ทำกัน ..เพราะกระทรวงการต่างประเทศ เขามีไว้เพื่อการเจรจา จึงจะต้องมีจังหวะจะโคน และพิธีกรรม และยิ่งเมื่อประเทศอันเป็นเอกราช เขาภาคเสธต่อคำร้องขอ ก็มิได้แปลว่า เขาจะไม่พิจารณาในสิ่งที่เราขอไป ..จึงไม่มีเหตุผลใด ที่จะไปพิพากษาเขาว่า ..

เขาเลือกใคร..น่าเห็นใจนิการากัว ..เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำถามจะเลือกใคร ระหว่างรัฐบาลไทยกับทักษิณ ชินวัตร ในตำแหน่ง “นักโทษ” ที่รัฐบาลไทยหยิบยื่นให้ทักษิณ ชินวัตร นั้น ..และขอให้เขาส่งกลับในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนนั้นสำหรับประเทศต่างๆ แล้ว ทักษิณ ชินวัตร คือ นายกรัฐมนตรี ที่ถูกปฏิวัติโดยกองทัพ ..

และถึงวันนี้ พรรคการเมืองของเขา ก็คือพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยสำหรับประเทศทั้งหลายนั้น ..เขาคือหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านตัวจริงในระบอบประชาธิปไตย ระบอบที่พรรคฝ่ายค้านจะกลับมาเป็นรัฐบาลเมื่อใดก็ได้ ..เมื่อมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลง หรือเมื่อชนะในการเลือกตั้งใหญ่ประเทศทั้งหลาย จึงต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง สำหรับการรักษาสถานภาพระหว่างเขากับประเทศไทย ..

เพราะรัฐบาลไทยไม่ใช่ประเทศไทย จึงเป็นเรื่องน่าเห็นใจ ที่รัฐบาลทั้งหลาย ..จะอึดอัดใจในทุกครั้ง ที่มีการล่วงเกินเข้าไปในวินิจฉัยของพวกเขา..เมื่อมองไปยังที่มาของ ..รัฐบาลไทย ..ประเทศประชาธิปไตยทั้งหลาย ก็ยิ่งอึดอัดมากขึ้น ..กับปรากฏการณ์ที่ทำให้เกิดรัฐบาลนี้ขึ้นมา..

รัฐบาลเสียงข้างน้อย ..ทางที่เหมาะที่ควร ..รัฐบาลบริหารประเทศไปตามกำลังความสามารถจะดีกว่า..มาไล่ล่าในตัวบุคคลที่ไม่สามารถไล่ล่าได้อย่าเที่ยวไล่ทะเลาะกับคนทั้งโลกที่ไม่สนองตอบอย่าเที่ยวทะเลาะกับคนทั้งโลกที่ให้ที่พักพิงกับทักษิณ ..เพราะเขาคือหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านโลกจะไม่ปฏิเสธหรือเป็นศัตรูกับ ..หัวหน้าพรรคการเมือง ที่มีเสียงเกินครึ่งในรัฐสภา และหัวหน้าพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย..กิจการต่างประเทศเป็นเรื่องของ “คนชั้นสูง” หรือ “ผู้ดี”ไม่ว่าจะปฏิเสธหรือยอมรับ ..เขามีภาษาของเขา ..ทุกๆ ประเทศจึงต้องเฟ้นต้องเลือกกันนักหนา ..ไม่ให้กุ๊ย ให้สวะ เข้ามากรายใกล้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น