--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เพลงเพื่อชีวิต วิบัตร

เพลงเพื่อชีวิต วิบัตร
จดหมายถึงศิลปินเพื่อชีวิต: จงหยัดยืนเพื่อเผด็จการ? พิมพ์บทความนี้

สมสุริยะ ทองสุกใส

สวัสดีพี่หงา พี่หว่อง พี่วงซูซู พี่จิระนันท์ พี่เนาวรัตน์ พี่คมทวน พี่วสันต์ ลุงอังคารและพี่ๆ วงดนตรีเพื่อชีวิต

ผม เป็นคนหนึ่งที่ได้รับอิทธิพลจากบทเพลงเพื่อชีวิต กวีเพื่อชีวิตของพวกพี่ๆ ทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนไป จากการใช้ชีวิตวัยรุ่น สำมะเลเทเมา ไร้สาระไปวันๆ และผมคิดว่าเพื่อนๆผมหลายคนก็คงไม่ต่างจากผม

บท กวีบทเพลงของพวกพี่ๆ ได้ทำให้ผมเข้าใจปัญหาสังคม รักความยุติธรรมและรักชาติรักประชาธิปไตยนับยีสิบปีได้ที่ผมฟังบทเพลงบทกวี ของพวกพี่ๆด้วยความเชื่อมั่นศรัทธาในตัวพี่อย่างไม่มีข้อสงสัย

บท เพลงบทกวีของพวกพี่ ทำให้ผมรู้คุณค่าของประชาธิปไตยและจิตใจที่เสียสละแม้กระทั่งชีวิตเพื่อ ประชาธิปไตย รู้จักเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ 2475 , 14 ตุลาคม 16 , 6 ตุลา 19 และพฤษภาทมิฬ

บทเพลงบทกวีของพวกพี่ ทำให้ผมรู้จัก จิตร ภูมิศักดิ์ อัศนีย์ พลจันทร์ ปรีดี พนมยงค์ กุหลาบ สายประดิษฐ์ เจริญ วัดอักษร และอีกหลายคน

บทเพลงบทกวีของพวกพี่ ทำให้รู้จักชีวิตของผู้ต่ำต้อยด้อยค่าของผู้ใช้แรงงาน แต่เป็นพลังสร้างสรรค์โลกใบนี้

ผมจึงเชื่อมั่นศรัทธาในตัวพี่ๆ

แต่ ณ วินาทีนี้ ผมไม่มั่นใจในสิ่งที่ผมเชื่อเสียแล้วครับ

ถึง ที่สุด ผมเข้าใจแล้วว่า พวกพี่ เป็นเพียงศิลปินที่มีอารมณ์ความรู้สึกเป็นที่ตั้ง เมื่อพบเจอกับความสลับซับซ้อนทางเศรษฐกิจสังคมการเมือง พวกพี่ก็ตกเป็นหมากเบี้ยตัวหนึ่งส่วนหนึ่งเพื่อความชอบธรรมของเกมการเมือง ขณะนี้ โดยเอาพวกพี่ขึ้นเวทีพันธมิตรเพื่อรัฐประหาร แต่พวกพี่อาจคิดว่าตัวเองปรารถนาดี ทำเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง

ผม รู้สึกเศร้าใจ ทุกครั้งเมื่อบทเพลงบทกวีดีๆ ของพวกพี่ ถูกนำขึ้นเวทีที่กำลังฉุดลากสังคมไทยถอยหลัง ถอยหลังจากกงล้อประวัติศาสตร์แทนที่จะช่วยกันผลักดันกงล้อประวัติศาสตร์ไป ข้างหน้า

หรือ ว่า ผมอาจจะต้องเข้าใจใหม่เสียที ว่าพวกพี่ศิลปินทั้งหลาย มักชอบแสดงออก มักชอบความเป็นฮีโร่ ชอบเด่นชอบดัง ชอบเอาหน้า เท่านั้นฤา?

เมื่อ มีพรรคพวกคนรู้จักกัน คนกันเอง เชิญขึ้นเวทีให้แสดงออก พวกพี่ศิลปินก็กระโดดขึ้นทันทีโดยไม่คิดหน้าคิดหลังให้รอบด้านว่า เวทีนั้นดึงศิลปินเพื่อชีวิตมาสร้างความชอบธรรมให้พวกเขาเท่านั้นเอง เป็นส่วนประกอบของบทเพลงของเพลงหลักบนเวที “บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกป้องบ้านเมืองคุ้มบ้าน เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป”

ซึ่ง ขัดกับบทเพลงบทวีของพวกพี่ ที่เคยสอนเตือนใจให้ ผมมีความรักชาติ มิใช่คลั่งชาติ สอนให้ผมรักประชาชน มิใช่ดูถูกเหยียดหยามเกลียดชังคนคิดต่าง

ผมได้แต่หวังเล็กๆว่า พวกพี่คงไม่แต่งเพลงบทกวีที่ปลุกเร้า เรียกร้องให้ทหารออกมาทำการรัฐประหารในครั้งนี้ด้วย

หรือว่าพวกพี่เป็นเพียงพวกฉวยโอกาสเอาศิลปะมาหากินหาชื่อเสียง (ศิลปิน = ศิลปะ+หากิน+หาชื่อเสียงให้ตน)

เท่านั้นเอง......

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น